บ้านนาต้นจั่น โฮมสเตย์ ชีวิตไม่ติดหรู
เวลาเที่ยงของวันศุกร์ ฉันขุดตัวเองขึ้นจากที่นอนหลังจากการการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย
มีนัดกับใครบางคนตอนเย็น แต่ อ้าวเฮ้ยมีคนผิดนัด ไปหาที่พักผ่อนคนเดียวก็ได้ รีบลุกจากที่นอน อาบน้ำ เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า โทรจองที่พักบ้านนาต้นจั่นแต่ไม่มีใครรับโทรศัพท์ ไปหาเอาข้างหน้าแล้วกัน
เปิด Google map มุ่งตรงจากพิษณุโลก - สุโขทัย + โทรจองที่พักบ้านนาต้นจั่น ในที่สุดก็มีคนรับโทรศัพท์ คืนนี้มีที่พักแล้ว
16.30 น. ถึงบ้านนาต้นจั่นแล้ว โทรหาพี่แหม่ม ที่จัดการเรื่องที่พักแล้วจะมีเจ้าของบ้านขับรถออกมารับเราไปยังบ้านพัก ที่นี้เขาจะเวียนกันรับนักท่องเที่ยว เป็นการกระจายรายได้ หลายๆครอบครัว
โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น เป็นบ้านพักของชาวบ้านในหมู่บ้าน มีบ้านพักทั้งหมด 20 หลัง เราเป็นผู้หญิงที่มาเที่ยวคนเดียว เขาเลยเลือกให้พักที่บ้านป้าบัวคำ น่าจะปลอดภัยที่สุดเพราะป้าอาศัยอยู่เดียว
ราคาที่พัก คีนละ 600 บ. ถ้าต้องการห้องแอร์เสียเพิ่ม 300 บ. มีข้าวเย็น และ ข้าวเช้าให้
17.00 น. มีนัดกับมัคคุเทศน์น้อยจะเป็นไกด์นำทางพาเราเที่ยวในหมู่บ้าน ถ้าต้องการไกด์เจ้าของบ้านจะโทรติดต่อให้ค่ะ
มาเที่ยววิถีธรรมชาติทั้งทีการเดินทางก็ไม่พ้น ปั่นจักรยาน ลดโลกร้อนและนี้คือไกด์ตัวน้อย ที่จะพาเราไปเที่ยว
ถึงแล้วค่ะ ที่แรกสะพานเชื่อมทุ่ง เป็นสะพานไม้ที่สร้างจากความร่วมมือร่วมใจของคนในหมู่บ้าน ถ้ามาช่วงหน้าฝน จะได้เห็นทุ่งนาเขียวขจี
ปั่นจักรยานต่อไป ชมวิถีการทอผ้าใต้ถุนบ้าน
ที่สุดท้ายของวันนี้ บ้านอชิ บ้านที่ตกแต่งสไตล์ country เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาถ่ายรูปได้ และยังเป็นบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว มีมุมสวยๆๆๆให้เลือกถ่ายรูปได้เยอะ
จบทริปวันนี้ ขับจักรยานกลับบ้านเย็นมีนัดกินข้าวกับป้าบัวคำ ฝีมือทำกับข้าวของป้า อร่อยมากเลยค่ะ
Day 2 6.00 น. ตื่นแต่เช้ารอตักบาตรหน้าบ้าน ป้าบัวคำจะเตรียมของใส่บาตรไว้รอเรา รอจน 6.30 น. พระไม่มาบิณฑบาตวันนี้ อุตส่าตื่นแต่เช้า
กินข้าวเช้าเพิ่มพลังก่อนแล้วกัน วันนี้ป้าบัวคำจะเป็นไกด์ พาเราปั่นจักรยานไปเที่ยวอีก 2 ที่
ปั่นจักรายานจากบ้านมาประมาณ 500 เมตร ชมวิถีการทำตุ๊กตาบาร์โหน(บ้านตาวงศ์) ป้าเล่าประวัติให้ฟังว่าคนสมัยก่อนถ้าอยากจะสูง เขาจะมาโหนไม้กันเพื่อยืดตัวให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ตุ๊กตาบาร์โหน เป็นสินค้าชื่อดังของหมู่บ้าน จำหน่ายให้นักท่องเที่ยว ไว้ใช้บริหารบีบมือหรือซื้อไปฝากคนที่บ้านได้ค่ะ
ปั่นจักรยานต่อมา ร้านข้าวเปื๊ปล้มยักษ์เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี้เลย เดินเข้าไปภายในร้านเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนรองรับนักท่องเที่ยวมาทำกิจกรรม มีการทำผ้าหมักโคลน และร้านจำหน่ายผ้าทอมือ
สีของผ้าที่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ตามธรรมชาติ
ผ้าหมักโคลน ชาวบ้านสมัยก่อนเวลาดำนาขากางเกงตรงที่โดนโคลน จะมีความนุ่ม ชาวบ้านเลยนำผ้ามาหมักโคลนเพื่อให้เนื้อผ้านุ่ม
ร้านจำหน่ายสินค้าผ้าทอมือของชาวบ้าน
เที่ยววิถีธรรมชาติ เที่ยวบ้านนาต้นจั่นโฮมสเตย์ เรียนรู้วิถีชาวบ้าน กระจายรายได้สู่ชุมชน
คนเดียวก็เที่ยวได้นะ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะค่ะ