ชอบกินอาหารทะเลกันมั้ยครับ?

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบกินอาหารทะเลมากๆ โดยเฉพาะอาหารทะเลสดๆ นี่จะฟินมากเลย ยิ่งช่วงหลังมานี้ ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวทางใต้บ่อยๆ อย่าง “จังหวัดชุมพร” จึงทำให้ได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดนี้มากขึ้น โดยเฉพาะชุมชนชาวประมงริมทะเลที่เปิดเป็นโฮมสเตย์พักผ่อนสบายๆ แล้วมีเมนูอาหารทะเลต่างๆ ให้กิน.. เป็นอะไรที่ชอบมากๆ เลยครับ

ทริปนี้.. ผมได้เดินทางไปที่ บ้านท้องตมใหญ่ อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่กับท้องทะเลมาอย่างยาวนาน ชาวบ้านที่นี่จะประกอบอาชิพทำการประมงเป็นส่วนใหญ่ และ บ้านบางหลังก็เปิดเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปพักด้วย พร้อมมีบริการต่างๆ เช่น บริการอาหารทะเล บริการเหมาเรือไปดำน้ำตื้น บริการเรือตกหมึก เป็นต้น ซึ่งถ้าใครชอบเที่ยวแนวๆ นี้ แนะนำให้ลองมาเที่ยวที่นี่กันดูนะครับ!

ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่..

การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com

• ไปนอนโฮมสเตย์กินซีฟู้ด!

ขาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวทะเล ก็คือ การได้มานอนโฮมสเตย์ริมทะเล และ กินอาหารทะเลแบบสดๆ หลากหลายเมนู เป็นอะไรที่ฟินมาก.. ซึ่งโฮมสเตย์ที่ผมเข้าพัก มีชื่อว่า ท้องตมใหญ่โฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ที่ถือว่าค่อนข้างใหม่ มีห้องพักที่ใหม่ ดูสะอาด และพักสบาย เพราะมีเครื่องอำนวยความสะดวก อย่างเครื่องปรับอากาศ ทีวี และห้องน้ำในตัว มาพักที่นี่จึงค่อนข้างที่จะสะดวกสบายดีเหมือนกันครับ

• ไปเที่ยวหมู่เกาะทะเลชุมพร!

นอกจากจะได้วนเที่ยวตามสถานที่สำคัญในตัวเมืองชุมพรแล้ว ก็ได้นั่งเรือออกไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ ใน หมู่เกาะชุมพร ด้วย ซึ่งต้องบอกว่า ทะเลชุมพร นั้น สวยไม่แพ้ที่ใดเลย..

• ไปตกหมึก ไปกินหมึกสดๆ กัน!

กิจกรรมสนุกๆ ยามค่ำคืน นั่งเรือออกไป ตกหมึก ได้ลองชิมหมึกสดๆ หรือ จะนำกลับไปย่างไฟอ่อนๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ก็อร่อยสุดยอดมากครับ

ค่าที่พัก ท้องตมใหญ่โฮมสเตย์ (พัก 2 คนขึ้นไป)

• พัก 1 คืน อาหาร 3 มื้อ = 1,050 บาท/คน
• พัก 1 คืน อาหาร 2 มื้อ = 800 บาท/คน
• พัก 1 คืน ไม่รับอาหาร = 300 บาท/คน

(เด็ก : 1 – 5 ขวบ ฟรี, 6 – 10 ขวบ ครึ่งราคา)

กิจกรรมท่องเที่ยวท้องตมใหญ่

• ดำน้ำตื้น ดูปะการัง เหมาลำ 2,000 บาท(ไม่เกิน 15 คน)
• ตกหมึก เหมาลำ 2,000 บาท(ไม่เกิน 15 คน)
• คาราโอเกะ 1,500 บาท(ใช้บริการได้ถึงเที่ยงคืน)

1. เครื่องบิน (ตอนนี้ แอร์เอเชีย เพิ่งเปิดเส้นทางบิน สู่ ชุมพร ทำให้การเดินทางไป จังหวัดชุมพร สะดวก รวดเร็วขึ้น) โดยบินไปลงที่ สนามบินชุมพร จากนั้น เช่ารถขับต่อไปยังโฮมสเตย์ได้เลย หรือ จะนั่งรถรับส่งจากสนามบินเข้าเมืองชุมพร(150 บาท/เที่ยว) แล้วต่อรถโดยสารไปยัง ตัวอำเภอสวี พอถึงอำเภอสวี ก็ต่อรถสองแถวที่จอดบริเวณ ธนาคารออมสิน(สวี) หรือ โทรให้ทางโฮมสเตย์ออกมารับ

2. รถทัวร์ และ รถไฟ ลงที่ ตัวอำเภอสวี(สถานีรถไฟสวี) แล้วต่อรถสองแถวที่จอดบริเวณ ธนาคารออมสิน(สวี) หรือ โทรให้ทางโฮมสเตย์ออกมารับ

3. เช่ารถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซค์ จาก ตัวเมืองชุมพร ค่าเช่าวันละ 200-300 บาท ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร

*การเดินทางครั้งนี้ ผมใช้วิธีเช่ามอเตอร์ไซค์ เพราะ ค่อนข้างสะดวก และ ประหยัดดี ค่าเช่าวันละ 200 บาทเท่านั้นเอง สามารถจอดแวะเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางได้อีกด้วย

บ้านท้องตมใหญ่ อ.สวี จ.ชุมพร เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเล บ้านเรือนของชาวบ้านที่นี่จะปลูกสร้างโดยยื่นไปกลางทะเล การได้มาพักที่หมู่บ้านนี้ จึงให้ความรู้สึกว่าได้มาอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านชาวประมง ได้เห็นวิถีชีวิต และ ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ที่มีความผูกพันกับท้องทะเลมาอย่างยาวนาน ประกอบกับธรรมชาติโดยรอบก็อุดมสมบูรณ์ ซึ่งถ้าได้มาถึงถิ่นหมู่บ้านชาวประมง ท้องตมใหญ่ อย่างนี้แล้ว ก็ต้องมานอนที่นี่กันสักคืนครับ

ผมเดินทางมาถึงที่ บ้านท้องตมใหญ่ ก็เป็นเวลาประมาณเที่ยง แดดค่อนข้างที่จะร้อนมาก แต่ก็ดีแล้วครับที่ท้องฟ้าในวันนี้สดใส ฟ้าเปิด เหมาะแก่การมาเที่ยว สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไป ของ บ้านท้องต้มใหญ่ จะเห็นบ้านเรือนของชาวบ้านที่ปลูกยื่นจากเชิงเขา ลงมาสู่ทะเล เรียงรายจนเป็นชุมชนขนาดเล็ก

สะพานปลา ที่อยู่ตรงปลายแหลม ตรงนี้จะเป็นสถานที่ที่คนนิยมมาตกปลากัน ในช่วงเย็น และ ค่ำ หรือ ถ้าอยากลอง ตกหมึก ตรงนี้ก็เป็นจุดที่น่าสนใจเหมือนกันนะครับ เดินมาไม่ไกลจากโฮมสเตย์

โฮมสเตย์ที่ผมเข้าพัก มีชื่อว่า ท้องตมใหญ่โฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ที่เพิ่งสร้างใหม่มาไม่นาน เป็นลักษณะอาคารมั่นคงแข็งแรง ทาสีสดใส ภายในมีทั้งแบบห้องพัก และ แบบกางเต็นท์นอนตรงลานกลางบ้าน

บรรยากาศรอบโฮมสเตย์ ก็ดูร่มรื่นดี มองไปทางไหนก็เขียวสบายตา

ภายในบริเวณโฮมสเตย์ จะมีลานไว้ให้ทำกิจกรรมต่างๆ สามารถกางเต็นท์นอนก็ได้

เดินเข้าไปอีกนิดจะเป็นส่วนของ ห้องพัก มีอยู่ทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องก็จะมีโต๊ะไว้สำหรับทานอาหารอยู่หน้าห้องแต่ละห้องด้วย

ภายในห้องพัก ดูใหม่ และ สะอาด มีเครื่องอำนวยความสะดวก อย่างเครื่องปรับอากาศ ทีวี และห้องน้ำในตัว มาพักที่นี่จึงค่อนข้างที่จะสะดวกสบายดีเหมือนกันครับ

ห้องน้ำในตัว ภายในสะอาด น้ำไหลแรงดี อาบน้ำได้อย่างสะใจเลย

บริเวณพื้นที่หน้าห้องพัก ก็จะมีโต๊ะไว้สำหรับนั่งรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ บรรยากาศก็เย็นสบาย มีลมพัดโชยมาตลอด

แม้ห้องพักของที่นี่ จะไม่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้โดยตรง แต่.. โฮมสเตย์ ก็มี สะพานไม้เล็กๆ ให้เดินผ่านป่าโกงกาง ไปชมบรรยากาศที่ริมทะเลได้ ระยะทางประมาณ 20 เมตร เท่านั้น

เมื่อเดินมาจนสุดปลายสะพานไม้ ก็จะเห็นวิวของท้องทะเล เหมาะที่จะมานั่ง เล่นยามเย็น หรือ นั่งทานอาหารเย็น ในบรรยากาศสบายๆ ครับ

สะพานไม้ ที่สามารถมานั่งถ่ายรูปเล่นเก๋ๆ ตรงปลายสะพาน กันได้

ตรงปลายสุดของสะพานไม้ ถ้ามองไปด้านซ้ายมือ จะเห็นชุมชน บ้านท้องตมใหญ่ ที่บ้านเรือนสร้างยื่นลงมาในทะเล ด้านหลังจะเป็นภูเขาขนาดเล็กๆ ตรงปลายสุดของแหลมจะเห็น สะพานปลา ที่ไว้สำหรับเทียบเรือในการทำประมงอีกด้วย

และ ถ้ามองไปทางขวามือ ก็จะเห็นเป็นอ่าวขนาดเล็ก ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ดูเป็นธรรมชาติดีครับ

ทีเด็ดของการพักโฮมสเตย์หมู่บ้านชาวประมงริมทะเลแบบนี้ คือ “อาหารทะเล” ครับ ซึ่งมาพักที่นี่ จะได้ลองทานอาหารทะเลแบบหลากหลายเมนูมาก แต่.. ละเมนูก็น่ากินทั้งนั้น สดจากทะเลแน่นอน! อาหารทุกมื้อก็จะเป็นซีฟู้ด เลือกได้ว่าจะเอาแบบ 2 มื้อ หรือ 3 มื้อ แต่..มาทั้งที ผมเลือกแบบ 3 มื้อครับ 55+ จะได้ลองชิมเมนูที่หลากหลาย ซึงแต่ละเมนูก็ใช้วัตถุดิบจากทะเลสดๆ อร่อย และคุ้มค่ามากครับ

• อาหารมื้อกลางวัน

หลังจากเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาทาน อาหารมื้อเที่ยง ในช่วงเวลาบ่ายหน่อยๆ โดยอาหารจะถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะหน้าห้องพักเลย มีเมนูอาหารอยู่ 3-4 อย่าง ซึ่งแต่ละเมนูก็ดูน่ากินมากๆ

หมึกต้มสับปะรด เพิ่งจะเคยกินครั้งแรก อร่อยดีครับ หมึกสดมาก ได้รสเปรี้ยวๆ หวานๆ จากสับปะรด

ปลาอินทรีผัดฉ่า รสชาติจัดจ้านดี เผ็ดกว่าที่คิดมาก แต่ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เข้ากันดีเลย

ปูม้านึ่ง จานนี้ชอบเป็นที่สุด 55+ เพราะ ปูม้าตัวโต และ ก็สดมาก

ปูม้าสดมาก เนื้อแน่นๆ จิ้ม กับ น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด แกะกินเพลินเลย..

• อาหารมื้อเย็น

ไหนๆ เข้าเรื่องอาหารมาแล้ว.. ก็ขอพูดถึงอาหารในมื้ออื่นๆ ต่อเลยละนะครับ โดยข้ามไปใน อาหารมื้อเย็น ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ก็จะเป็นเมนูอาหารซีฟู้ดอยู่ 3-4 อย่างเช่นกัน

หมึกผัดหวาน ชอบเมนูนี้ครับ เหมาะที่จะทานกับข้าวสวยมากเลย

ยำถั่วพู(ทะเล) กุ้ง หมึก สดมาก เนื้อเด้งๆ มาเลย

แกงส้มปูดำไข่ รสชาติจัดจ้านดี ออกเปรี้ยวๆ เข้าถึงเนื้อปู

ปลาจาระเม็ดทอด ทอดมากรอบๆ แล้วจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด อร่อยดีครับ

• อาหารเช้า

สำหรับใน มื้อเช้า ก็จะเป็นอาหารแบบง่ายๆ ครับ สามารถแจ้งล่วงหน้าได้ว่าจะออกมาทานในตอนกี่โมง ตั้งแต่ 07.00 น. – 10.00 น. เมนูอาหารก็จะเป็นพวกข้าวต้ม และ ขนมแบบท้องถิ่น

ข้าวต้มกุ้ง ข้าวต้มร้อนๆ ในตอนเช้า

ขนมแบบท้องถิ่น บางชนิดก็ดูคุ้นหน้าคุ้นตาดี แต่บางชนิดก็ยังไม่เคยชิมมาก่อน

สรุป อาหารทั้ง 3 มื้อ เมนูแต่ละอย่างก็ทำจากวัตถุดิบสดๆ จากทะเลเลย ขั้นตอนวิธีการทำก็สะอาด และ พิถีพิถันดี ได้ลองชิมทุกเมนูแล้ว ก็อร่อยและถูกใจมากครับ..

มาเที่ยวทะเลทั้งที ถ้าอยากออกทะเลไปดำน้ำตื้น ในบริเวณ หมู่เกาะชุมพร ก็ได้นะครับ ออกเรือไปไม่ไกลจาก บ้านท้องตมใหญ่ โดยเรือจะพาไปดำน้ำตื้น เป็นเรือเหมาใน ราคาลำละ 2,000 บาท นั่งได้ไม่เกิน 15 คน ถ้าหารกันหลายๆ คน ผมคิดว่าเป็นการออกไปดำน้ำตื้นที่คุ้มค่ามากเลย ตกคนละไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น ซึ่งถ้าจะดำน้ำก็สามารถ เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ เพิ่มได้ คนละ 40 บาท เรือจะพาล่องวนเที่ยวใน หมู่เกาะชุมพร และ แวะดำน้ำตามจุดที่มีแนวปะการังสวยๆ ครับ เช่น เกาะมัดหวายใหญ่ เกาะแกลบ เกาะกุลา เป็นต้น

ช่วงที่ออกเรือ สภาพอากาศค่อนข้างดีครับ ท้องฟ้าสดใสดีมาก ระหว่างที่นั่งเรือก็จะเห็นชายหาดเล็กๆ และ บรรดาเกาะน้อยใหญ่ ใน หมู่เกาะชุมพร แห่งนี้

บางเกาะก็จะเป็น เกาะสัมปทานรังนก ก็จะเห็นสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะด้วย

พื้นที่บริเวณโดยรอบของเกาะ จะเป็นพื้นที่ของแนวปะการังสวยๆ ที่สามารถจอดเรือ และ ลงไปดำน้ำตื้นได้ครับ

เรือพามาวนดู เกาะทะลุ ที่ช่วงเวลาน้ำลด มองเห็นเป็นรูทะลุไปอีกด้านหนึ่งของเกาะ

น้ำทะเลใสมาก ใสจนมองเห็นพื้นด้านล่างที่เป็นแนวปะการัง น่าลงไปแหวกว่ายเล่นมากๆ เลยครับ

บริเวณ เกาะแกลบ ที่มีชายหาดหินเป็นแนวยาว บริเวณนี้ก็มีแนวปะการังที่สวยงามเช่นกัน

ด้านหลัง เกาะแกลบ จะมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายกับ ใบหน้าของชาวอินเดียแดง ด้วย

เรือพาวนเที่ยวไปตามเกาะต่างๆ สนใจจะจอดลงเล่นน้ำ หรือ ดำน้ำตรงจุดไหน ก็สามารถแจ้งกับคนขับเรือได้เลย

แวะมาจอดเรือที่ เกาะกุลา เกาะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จะแวะมาพักผ่อนกัน

ชายหาดของ เกาะกุลา เป็นชายหาดที่สวย น้ำทะเลก็ใส มีแนวปะการังอยู่โดยรอบ สามารถขึ้นไปเดินเล่น หรือ พักผ่อนบนชายหาดได้ โดยเสีย ค่าธรรมเนียมอุทยาน คนละ 40 บาท และ ถ้าสนใจพักค้างคืน ก็มีบ้านพักของอุทยานไว้ให้บริการด้วยเช่นกัน ซึ่งบ้านพักจะมีอยู่ 3 หลัง ราคาหลังละ 1,200 บาท พักได้ 4-5 ท่าน นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์ ไว้รองรับอีกด้วย(ไฟฟ้ามีให้ใช้ตั้งแต่เวลา 18.00 – 24.00 น.) สำหรับผู้ที่พักบนเกาะ ก็มีอาหารไว้บริการ คิดราคาคนละ 600 บาท(ทั้งหมด 3 มื้อ)

กิจกรรมยอดนิยม บน เกาะกุลา คือ การดำน้ำตื้นดูปะการัง ซึ่งเกาะกุลาก็มีแนวปะการังที่สวยงามอยู่รอบเกาะ

เมื่อลองได้ดำน้ำตื้น ก็จะเห็นหลากหลายชีวิตใต้ท้องทะเลครับ โดยเฉพาะ หอยมือเสือ นี่เจอเยอะมาก 55+

สำหรับกิจกรรมยามค่ำคืนที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาพักที่ บ้านท้องตมใหญ่ ก็คือ การตกหมึก ซึ่งสามารถเหมาเรือออกไปตกหมึกไม่ไกลจากชายฝั่ง(เหมาเรือลำละ 2,000 บาท นั่งได้ไม่เกิน 15 คน) โดย การตกหมึก นั้น จะออกเรือในช่วงเย็น ประมาณ 18.00 น. ก่อนออกเรือก็เตรียมอุปกรณ์ น้ำ เครื่องดื่ม ให้พร้อม หรือ ถ้าอยากลองชิมหมึกสด แบบ ซาซิมิ ก็อย่าลืมนำ น้ำจิ้มซีฟู้ด หรือ วาซาบิ ลงเรือไปด้วย ซึ่งเรือก็จะพาออกมาจากชายฝั่งไม่ไกล.. ก็จอดเรือ และทำการเปิดไฟ เพื่อล่อให้หมึกเข้ามาเล่นไฟ

เมื่อหมึกเข้ามาเล่นไฟเยอะแล้ว ก็ใช้ ตะขอเบ็ด ผูกกับเส้นเอ็นยาวๆ เป็นอุปกรณ์ในการตกหมึกขึ้นมา

ใช้เวลาไม่นาน.. ก็ตกหมึกตัวแรกได้แล้ว!!

เมื่อตกหมึกขึ้นมาได้ ก็จะได้หมึกที่สดมากๆ สามารถลองแล่กินสดๆ กับ น้ำจิ้มซีฟู้ด หรือ จิ้มกับวาซาบิแบบซาซิมิ ได้เลย หรือ นำกลับไปย่างไฟอ่อนๆ ก็หอมน่ากินดีเหมือนกัน และนอกจากนี้ ก็ยังสามารถนำไปทำเมนูอร่อยอื่นๆ ได้อีกด้วยนะ หมึกสดๆ ทำอะไรก็อร่อย จริงมั้ย…?!?

หมึกสดๆ แบบนี้ เซลล์สียังทำงานอยู่ เป็นประกาย วิบๆ วับๆ ให้เห็นอยู่

เดี๋ยว.. จะมาลอง แล่กินกันแบบสดๆ บนเรือสักหน่อย

แล่หมึก และ ล้างน้ำทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ

จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ที่เตรียมมา (หรือ จะลองกับวาซาบิก็ได้นะ) ซึ่งรสชาติของหมึกสดๆ แบบนี้ ก็จะหวานๆ หน่อย

หมึกที่ตกได้บางส่วน ก็นำกลับไปย่างไฟอ่อนๆ ก็อร่อยดี

หมึกย่างร้อนๆ หอมๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด เด็ดมาก

เป็น หมึกไข่ ด้วย ได้กินหมึกสดๆ ย่างร้อนๆ สมใจอยากเลยครับ 55+

การได้มาเที่ยว “ท้องตมใหญ่” ในทริปนี้ ก็สนุกดีครับ ได้ลองมาพักในชุมชนเล็กๆ ชุมชนชาวประมง ที่อยู่ริมทะเลแห่งนี้ ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติ ที่ต้องลองมาสัมผัสสักครั้งครับ..

และที่สำคัญ สิ่งที่ประทับใจที่สุด ในทริปนี้ก็คือ การได้มากินอาหารทะเล แบบสดๆ ได้พักผ่อนสบายๆ พร้อมกับได้กินอาหารอร่อยๆ แบบนี้ มันก็ฟินจริงๆ นะ!

ติดต่อที่พัก :

• โทร : 099 4796772, 085 0758300
• Facebook : ท้องตมใหญ่ โฮมสเตย์
• Line : 099 4796722

ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่..

การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com