ออกตามหาหัวใจที่ "น้ำตกเปรโต๊ะลอซู & ยอดดอยมะม่วงสามหมื่น"
สำหรับใครที่ยังหาหัวใจตัวเองไม่เจอ ลองออกเดินทางไปตามหาหัวใจที่ "น้ำตกเปรโต๊ะลอซู" ตั้งอยู่บนผืนป่าใหญ่แห่งเทือกเขาดอยมะม่วงสามหมื่นกัน
>> ทริปนี้เป็นการเที่ยวแบบจอยทริป 3 วัน 2 คืน ในช่วงวันที่ 12 - 14 ตุลาคม 2562
>> การเที่ยวแบบจอยทริป คือ การเดินทางร่วมกับเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ที่อยากออกไปเที่ยวในสถานที่เดียวกันโดยใช้บริการของผู้จัดทริปอิสระ (นิยามของแต่ละคนอาจให้ไม่เหมือนกันนะ) ซึ่งผู้จัดทริปจะบริหารทุกสิ่งอย่างให้เราหมด เราเพียงแค่จ่ายเงิน และก็เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมสัมภาระส่วนตัวเท่านั้นพอ (ราคาอาจจะแพงกว่าจัดไปกันเอง แต่สิ่งที่ได้คือมากกว่าสิ่งที่เป็น)
>> ทำไม! ถึงเลือกเที่ยวแบบจอยทริป จากที่เคยจัดไปกันเองอยู่หลายทริป แต่สิ่งที่ได้จากการไปเที่ยวแบบจอยทริป คือ 1.ได้มิตรภาพและเพื่อนใหม่ 2.ได้เวลาเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีเวลาในการชมนก ชมไม้ ชมทิวทัศน์ โดยไม่ต้องรีบเดินเพื่อมาจัดเตรียมนู้นนี้นั้นเอง 3. เหนื่อยน้อยลง เอาเวลาไปใช้ในเรื่องการเดินและการแบกเป้เองพอ และ 4. ความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย
นี่คือ "น้ำตกปิตุ๊โกร หรือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู"
"น้ำตกปิตุ๊โกร หรือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู" ตั้งอยู่บนดอยมะม่วงสามหมื่น ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลมาจากยอดเขามะม่วงสามหมื่น มีความสูงประมาณ 500 เมตร หากมองในมุมสูงบนยอดดอยมะม่วงสามหมื่นจะสามารถมองเห็นสายน้ำตกที่ไหลลงมาตามหน้าผาเป็นเส้นทางสีขาวทอดยาวมาประจบกันผ่านภูเขาสีเขียวคล้ายกับรูปหัวใจ
คำสิงห์โฮมเสตย์
หยุดอ่านแป๊บ : การจอยทริปครั้งนี้ผู้จัดทริปใช้บริการบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ซึ่งสะดวกดี (ธุรกิจชุมชนให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่เที่ยวพึ่งเคยเห็นบริการแบบนี้) โดยในกรุ๊ปใช้บริการ "คำสิงห์โฮมเสตย์" ให้บริการดี เจ้าของเป็นกันเอง (แถมลุงคำสิงห์ขับรถไปส่งพร้อมขึ้นดอยไปจัดการเรื่องอาหารให้ทุกกรุ๊ปด้วยตนเองเลย) บริหารจัดการทุกสิ่งอย่างให้เสร็จตั้งแต่เริ่มเข้าถึงโฮมเสตย์เพื่อเตรียมตัวก่อนขึ้น จนถึงจุดพักแคมป์ (พร้อมมีไกด์นำทาง+ลูกหาบของแต่ละกรุ๊ปค่อยให้บริการตลอดทั้งทริป) สามารถติดต่อสอบถามทางโฮมสเตย์ได้ที่เบอร์ 081-8139742
>>ช่วงเวลาในการเที่ยว
เดือนกรกฎาคม ถึง เดือนตุลาคม
>>สิ่งอำนวยความสะดวก
1. มีน้ำตกให้อาบน้ำ (ห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่หาอาบไม่ได้ในบ้าน เตรียมอุปกรณ์อาบน้ำไปได้หรืออาศัยเพื่อนเอา)
2. มีห้องไว้ให้ปรับทุกข์ 2 ห้อง (ที่นี่คือดีอะมีครบ หลายๆ ที่ต้องขุดหลุมจร้า)
3. น้ำที่ใช้ดื่มกินคือน้ำตกนะจ๊ะ ถ้ากลัวไม่สะอาดก็พกเครื่องกรองน้ำส่วนตัวไปละกันเด้ออออ
>>สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม
เนื่องจากเป็นการเที่ยวแบบจอยทริปเรื่องบริหารจัดการส่วนกลางและสิ่งของต่างๆ ซึ่งจะมีสตาฟดูแลให้หมด (เช่น รถรับส่ง เต็นท์+แผ่นรองนอน อาหารทุกมื้อ ลูกหาบ ประกันชีวิตการเดินทาง บราาาาๆ) บริหารจัดการแค่ตัวเองพอโดย
1. ต้องมีใจรักในการเดินป่า วิวที่เห็นว่าสวยไม่ได้ง่ายที่จะไปถึง (ใจล้วนๆ ไม่ได้ ร่างกายต้องพร้อม ยิ่งมีโรคประจำตัวยิ่งต้องพิจารณาตัวเอง) เน้นออกกำลังกายและก็ออกกำลังกายโดยเฉพาะขา
2. อุปกรณ์และสัมภาระส่วนตัวที่จำเป็นกับการใช้ชีวิตในป่า (สายป่าน่าจะรู้ว่าต้องเตรียมอะไรกันบ้าง เช่น ไฟฉาย ถุงนอน เสื้อผ้า)
3. รองเท้าสิ่งนี้สำคัญยิ่งหนัก แนะนำให้เป็นสตั๊ดดอย คือเหมาะกับที่นี่ที่สุดแล้ว เพราะจะเจอทั้งลุยน้ำ ลุยโคลน ไต่หิน ปีนเขา (แบรน์เนมขนาดไหนเจอแบบนี้บอกเลยเละ)
4. ขนมที่ให้พลังงานสูงๆ เกลือแร่ (คนชอบเป็นตะคริวควรพก) เพราะเดินเยอะและร้อนมากช่วงเดือนตุลาคม (ช่วงตอนกลางคืนไม่หนาวนะ)
>>ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง
โทร. 055-577-318, 055-500-920
ททท.สำนักงานตาก
โทร. 055-514-341 หรือ 3
พิกัด : https://goo.gl/maps/JsAkZdZ1UTD2
แหล่งที่มา : www.tatcontactcenter.com
>>ระยะทางและการเดินเท้า
เริ่มจากอ.อุ้มผาง จ.ตาก ใช้เส้นทางสายอุ้มผาง บ้านเบิ้งคลิ่ง ระยะทางประมาณ 60 กว่ากิโลเมตร โดยนั่งรถกระบะเข้าไป ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงหมู่บ้านกุยเลอตอ ออกจากที่โฮมเสตย์ตอน 8.30 น. เริ่มเดินเท้า 10 โมงกว่า
จุดเตรียมตัวและเส้นทางเดินเท้าเข้าน้ำตกเปรโต๊ะลอซู
>>จากนั้นต้องเดินเท้าต่อซึ่งเส้นทางช่วงแรกเป็นทางราบลัดเลาะไปตามเทือกเขา ทุ่งข้าวโพด และลำธาร ต่อด้วยเดินเท้าขึ้นเขา ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 3-4 ชั่วโมง (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับกำลังขาของแต่ละคน) จนถึงจุดพักแคมป์บริเวณเชิงเขาด้านล่างใกล้น้ำตก ณ จุดๆ นี้ ถือว่ายังเป็นเส้นทางเดินเท้าที่ไม่โหดมาก
เส้นทางราบ ลุยน้ำ ลุยโคลน (นี่ยังเป็นลาบอยู่นะยังไม่ใช่น้ำตก)
ระหว่างเดินก็จะพบว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางสัญจรของคนในหมู่บ้านด้วยเช่นกัน
>>เดินลัดเลาะกันต่อไปตามเทือกเขา ทุ่งข้าวโพด และลำธาร ส่วนทุ่งข้าวโพดจะเจออยู่ประมาณ 3 - 4 ทุ่งได้ อยู่ห่างกันเป็นช่วงๆ
วิวสวยงาม อากาศดีแต่ร้อนนะ
>>จุดที่จะถึงต่อไป เป็นจุดสำคัญมากค่ะ คือจุดแวะกินข้าว เดินมายังไม่ทันเหนื่อยเลยเขาบอกว่าให้แวะกินข้าวได้ ก็กินนะไม่มีปฏิเสธ เพราะขี้เกียจแบกห่อข้าวขึ้นไปกินที่แคมป์
กินข้าวห่อด้วยใบตอง บวกกับนั่งมองสายน้ำที่ไหลผ่าน (บรรยากาศแบบนี้อยากมีคนรู้ใจมานั่งกินด้วยกันจัง)
>> อิ่มแล้วไม่พูดมาก มาต่อด้วยเดินเท้าขึ้นเขากันเลยดีกว่านะ ช่วงเส้นทางที่เราจะได้เดินกันต่อจะอยู่แต่ใต้ร่มไม้กันแล้วไม่ต้องทนร้อนกันอีกต่อไป หรือเปล่า
โอ้ย! เห็นภาพตอนเดินแล้วรู้สึกเหนื่อย โพสต์รูปอื่นรัวๆ โพสต์รูปกันต่อไม่รอแล้วนะ
ใครเจอ "ดอกค้างคาวดำ" กันบ้างยกมือหน่อยยยยย
>>เห็นป้ายแล้วอยากจะร้องเพลง เย้ๆๆ เยฮี้เย ซึ่งจุดพักแคมป์ของที่นี่จะอยู่บริเวณเชิงเขาด้านล่างใกล้น้ำตก ไม่ใช่น้ำตกเปรโต๊ะลอซูนะอย่าได้ดีใจกันไป ระหว่างเดินเข้าแคมป์อารมณ์เหมือนเดินเข้าพักโฮมเสตย์เลยแต่แค่ย้ายมาอยู่ในป่าแทน เพราะจะมีป้ายบอกชื่อที่พักของแต่ละโฮมเสตย์และชื่อแต่ละกรุ๊ปทัวร์กันเลยทีเดียวจร้า
มาถึงแล้วจะเจอรูปป้ายน้ำตกเปรโต๊ะลอซูต้อนรับอยู่ด้านหน้าทางเข้าแคมป์ อย่าลืมแชะภาพกันนะ