วันเรกของการเดินทาง จุดสตาร์ทของเราคือรัชดาซอย7 และจุดหมายปลายทางของวันนี้คือ โฮสเทลชิคๆ บนถนนวัวลาย นั่นก้คือ oxotel ที่พักของพวกเราในคืนนี้ค้า จากการแพลนการเดินทางไว้คร่าวๆ ของเราคือ ออกจาก กทม.ตีสาม แต่ แต่ แต่ มีแต่ค่ะะะะ เนื่องจากเป็นคนที่ตื่นสายเป็นประจำ ทำให้เวลาในการเดินทางออกจากกทม.จริงๆ เลื่อนค่ะ กลายเป็นเกือบเช้าเฉย ฮ๋าๆ แต่โชคดีนะคะ เพื่อนร่วมทริปเข้าใจและไม่ด่าค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนขับรถเองคนเดียวตลอดทริปค้าาาาาาาา ยังมีประโยชน์อยู่เพื่อนเลยไม่ด่าค่ะ 55555555

เอาเป็นว่าได้ออกจากกรุงเทพจริงๆ ก้ปาไปนั้นแหละคะจะเช้าแล้วววววววววว เริ่มต้นก้หลงละค้า ขับรถออกจากรังสิตมาได้สักพัก ด้วยเหตุว่าเม้าส์เพลินค่ะ เพราะว่าไม่ได้เจอกับเพื่อนร่วมทริปมานานร่วมเกือบครึ่งปี แต่ไม่ได้เจอก้ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้คุยกันเลยนะคะ แต่เจอหน้ากันแล้วก้นั้นแหละะ เม้าส์กระจายกว่าเดิมค้า แทนที่จะไปเส้นทางที่จะเข้าอยุธยาเลยตามป้ายออกซ้ายนิดนึง นี่ก้นะะะะ โน่นเลยค้าดันไปทางสระบุรีค้า เลยจากตรงนั้นไปนิดนุงก้มีความรถติด ตัดสินอยู่นานว่าจะยูเทิร์น หรือไปต่อ สรุปเราก้ไปต่อ เพราะคิดว่ายูไปก้ไปติดตรงทางออกตรงนั้นอยู่ดี เลยไปทางนี้ยาวๆ ไป เลี้ยวซ้ายเข้าอยุธยาอีกที แต่ใจจริงก้คิดว่าไปได้เหมือนกัน แต่อาจจะอ้อมไปหน่อยเนอะะะ แต่แหละค่าา เราเป็นมนุษย์ที่ถ้าเกิดขับรถหลงเมื่อไหร่ ก้จะคิดว่าเป็นการเรียนรู้เส้นทางใหม่ ยิ้มให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมทริป เปิดเพลงฟังยาวๆ ไปปปป กรุงเทพ - เชียงใหม่ 697 กิโลเอ้งงงงงงงงงง ขับไปแวะปั๊ม แดนซ์กันไปในรถ ไม่มีใครหลับอยู่เม้าส์เป็นเพือนคนขับ นับจังหวัดกันไปเรื่อย จนถึงลำปาง ลำพูน ก้เชียงใหม่ล้าววว ที่แรกที่เราจะไปกันวันนี้ก้จะเป็น แกรนแคนยอน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ที่เที่ยวสุดฮิป ที่คนชิคๆ ต้องไป ใช่หราาาาาาาาาาาาา 

ถึงแม้ว่าจะเคยไปมาล้าวว แต่สมาชิคอีก 3คน ยัง ยัง ยังไม่มีใครเคยไป 3เสียงชนะ 1เสียง ธรรมด๊า ปัจจุบันนะคะมีค่าเข้า 50฿/คน ข้างๆ กันก้มี สวนน้ำแกรนแคนยอน เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง แต่แก๊งชะนีนางนี่ไม่ได้เข้าไป สวนน้ำแกรนแคนยอน นะคะ ขอบอกหน่อยว่า ในส่วนของสวนน้ำแกรนแคนยอน และแกรนแคนยอน ไม่ใช่ส่วนเดียวกัน ค่าเข้าก็แยกส่วนกันนะคะ 

หลังจากที่เดินเล่น ถ่ายรูป ท้าแดดกันตอนบ่ายสามกว่าๆ แล้ว ความหิวก้บังเกิดค่ะ มื้อเย็นวันนี้ตกลงกันไว้ว่า เราจะไปกิน โอ้กะจู๋ เนื่องจากเหนื่อยจากการเดินทางกันมาพอสมควร เอ๊ะ หรือง่วงนอนมากกว่า พวกเราจึงเลือกที่จะไปกินที่ สวนผักโอ้กะจู๋ สาขานิมซิตี้ เดลี่(Airport Branch) นะคะ เพราะสะดวก และใกล้ หากเดินทางจากแกรนแคนยอน และสามารถกลับเข้าที่พักที่ที่ถนนวัวลายได้สะดวกด้วยค่ะ เมื่อถึงที่ร้านนะคะ ต้องขอบอกว่าคนเยอะมากกกก ก้เลยต้องไปจองคิวก่อนอันดับแรกเลย เพราะว่านี้เป็นวันแม่ เข้ากับคอนเซปของทางร้านเลยค้า สวนผักโอ้กะจู๋ ปลูกผักเพราะรักแม่ ใช่แหละใช่ เราจำได้ ฮ่าๆ มาทีนี้สิ่งที่พลาดไม่ได้คือออ สลัดผลไม้ค่า มากี่ครั้งก้ต้องสั่ง ติดใจจีจี และอีกเมนูที่พลาดไม่ได้คือ สเต็กซี่โครงสะพานโค้ง สองอย่างนี้ เรคคอมเม้น สำหรับเราเลย 

เมื่ออาหารมาครบบบบ ขอหนึ่งแชะ ตามธรรมเนียม ป่าวหรอก จริงๆ กินหมดไปแล้วหนึ่งอย่างคือ ซุปเห็ด หรือซุปไรนี่แหละ เพื่อนสั่ง เราไม่ได้สั่งเลยจำชื่อไม่ได้ จบหนึ่งแชะ ซัดกันเรียบบบ ด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่เหลือนะ เหลือผักในจานสลัดปูนิ่ม ทุ่งเรดโอ๊คนั้นหน่ะะ ไม่ไหวแล้ว อิ่มแปล้ อิ่มมาก พร้อมที่จะกลับไปนอนล้าววววว 

จากนิมเดลี่ ไป oxotel hostel ตรงถนนวัวลายนั้น ไม่ไกลเลย ประมาน 10นาทีก้ถึงแล้ว เผื่อหลงละด้วยนะ ฮ่าๆ เมื่อไปถึงที่พักก้เชคอิน กรอกเอกสารนิดหน่อย รับคีย์การ์ด อ้อ มีมัดจำคีย์การ์ดใบละร้อยนะค้า เชคเอ้าแล้วคืนคีย์การ์ดได้ตังค์คืนนะคะ ส่วุนที่พักของเรานั้น ได้มาเป็นห้อง 201 พักได้ 6คน แต่คืนก้มีเพียงเฉพาะพวกเรา 4 คนในห้องค่า

เมื่อเลือกและตกลงกันได้ใครนอนเตียงไหน ก้กระโดดขึ้นเตียง อันดับแรกคือชาร์ตแบตมือถือ เอนหลัง เม้าส์มอยกันไป เก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา ก้มีหนึ่งในสมาชิกที่ปักธงมาตั้งแต่ก่อนออกจากกรุงเทพว่า ไปเชียงใหม่ทั้งที่ ต้องไปดื่นเบียร์ฮะะะะ เอ้า ไอเราก้ ใครเสนออะไรก้ไม่มีการขัดใจ เสนอแนะนิดหน่อย สุดท้ายก้จบที่ Beer lab บนถนนนิมมาน แหล่งสุดฮิปวันรุ่นเช่นเคย 

อายุไม่ถึง 18ปี งดนะคะะะ เด็กๆ ก่อนเข้าร้านมีตรวจบัตรประชาชนด้วย คืนนี้แค่จิบเบียร์เบาๆ ให้ฟิน กลับห้องไปหลับสบายก้เพียงพอล้าววว แค่นี่พอแล้ว เหยคือ ไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศรอบร้าน หรือบรรยากาศทั่วๆไป มาเลย มีแต่รูปอะไรก้ไม่รู้ววว เต็มไปหมดด 5555 เอารูปนี้ไปก่อนละกันนนน เพื่อนเราสายโหด นางเบียร์ดำโอนลี่ค้า ส่วนเราก้โรเซ่เบาๆ กรุบกริบ 

โอเคเชคบิลลลลลลลลลล กลับห้องนอนเถอะ พรุ่งนี้เดินทางอีก ดอยอ่างขางนะ อ.ฝาง โน่นแหน่ะะ สามชั่วโมงเลยนา เตรียมพร้อมคนขับโด้ยนอนน้อยไม่ได้เดี๋ยวจะไม่ตื่นนนน ไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศในห้องมาเลย มีแต่รูปผ้าห่มที่บ่งบอกความหนานุ่ม หลับสบายล้าววคืนนี้ พุ้งนี้ตื่นสายแน่ แต่เราบอกเพื่อนไว้แล้วนะว่า ตื่นแล้วปลุกด้วยนะะะ จริงๆ แล้วคือขี้เกียจตั้งนาฬิกาปลุกเผื่อเพื่อนตื่นสาย ขอตื่นสายกว่าทุกคนน้า ข้ออ้างมากๆ 

คืนนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะค้าาาาาา เจอกันพุ้งนี้ เราไปลุยดอยอ่างขางกานเนอะะะ

ps.รูปอาจจะไม่สวยมาก เพราะฝีมือการการถ่ายรูปของเราเอง อิ้อิ้ เราใช้แค่ ip6 ในการถ่ายทุกๆ รูปนะค้า ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย และนี้ก้เป็นรีวิวแรก คือเที่ยวมาก้เยอะ อ่านรีวิวมาก้แยะ แต่เพิ่งจะเคยอยากลองเขียนรีวิว เป็นของตัวเองครั้งแรกค่าาาาา สามารถติชมได้นะค้าา ยินดีรับฟังเพื่อนำไปพัฒนาตัวเองค่า :)
 

 

แปดโมงเช้าวันเสาร์ ตื่นละค่า ตอนเราตื่นเพื่อนก้ไปอาบน้ามแต่งตัวกันแล้ววว ต้องขอบอกก่อนว่า ที่พักของเราเมื่อคืนคือห้องน้ำจะแยกจากห้องนอนนะคะ หากจะไปอาบน้ำก้เตรียมผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า ไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องน้ำได้เลยนะคะ แต่ก้เราก้แอบเห็นมีบางคนกระโจมอกไปอาบน้ำก้มีน้าา เอาเป็นว่าแล้วแต่ใครจะสะดวกเนอะ

อันนี้รูปในห้องอาบน้ำ จะมีแชมพู สบู่ ไว้บริการนะค้า หากใครไม่ได้เตรียมก็นี่เลยยย ที่นี่ห้องอาบน้ำและห้องสุขา จะแยกห้องกัน แบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งนึงห้องอาบน้ำ ฝั่งนึงห้องสุขา มีอย่างละ 3ห้อง

//รูปในห้องน้ำ แอบไปจิ๊กมาจากแฟนเพจของที่พักเลยยย ไม่ได้ถ่ายไว้เอง https://www.facebook.com/oxotelhostel/

เราแอบชอบที่นี้เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบเครื่อง ตรงอ่างล้างหน้า หน้ากระจก ก้มีไดร์เป่าผมไว้บริการด้วย แถมยังมี กระจกบานใหญ่ เต็มตัวไว้สำหรับสาวๆ เราคิดว่าผู้หญิงทุกคนคงชอบเนอะ เที่ยวแบคแพคขนาดไหนก็ต้องสวยไว้ก่อน เพราะต้องถ่ายรูป เน๊อะ เน๊อะ จริงๆ แล้วที่รักสุดจริงๆ มีจอดรถบริการนี่แหละประเด็นหลักของเราเลย เพราะ โฮสเทลส่วนใหญ่ก้มีไว้บริการแบคแพคเกอร์เนอะ(เค้าบอกมางี้) เลยไม่ค่อยมีบริการที่จอดรถ แหะๆ อีกอย่างนึงคือที่จอดรถจะรั้วกันจะเข้า-ออก หลังจาก 4ทุ่มก้ต้องแจ้งเคาเตอร์ให้มาเปิดประตูให้ ซึ่งทำให้เรา ที่เป็นคนหวงรถยิ่งกว่าตัวเองนั้น สบายใจมาก

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเราก็ลงมาทานอาหารเช้า เราลืมบอกไปว่าที่นี้ เค้ามี อาหารเช้า บริการด้วยนะค้า เราถือคอนเซปมื้อเช้าสำคัญ เพราะฉะนั้นต้องเติมพลังก่อนออกเดินทาง

ที่นี้ก้จะมีซีเรียล แซนวิส ขนมปัง เนย แยมต่างๆ ผลไม้ก็จะมีกล้วยหอม น้ำส้ม นม และก็มีไข่ต้มด้วย ต้องขอบอกหน่อยนะค้า ทานเสร็จแล้วเราต้องเก็บจานชามแก้วน้ำไปล้างด้วยนะค้า เพราะที่นี้เค้าให้เราบริการตัวเองน้า

อิ่มแล้ววว ล้อหมุน ไม่จริงง ชะนีแก๊งนี้นี๊ดกาแฟ จะบอกว่าด้านหน้าที่พักเนี่ย เป็นร้านกาแฟ ชื่อ Artisan cafe เราก็ทำการสั่งกาแฟเลยค่าาา ลาเต้เย็นหนึ่งแก้ว มีส่วนลดให้ด้วยน้า เพราะพักที่ oxotel จำไม่ได้แล้วว่ามีได้ลดไปเท่าไหร่ แต่ตอนเชคอินเค้าเป็นคูปองมา ก้เลยใช้ซะเลย 

ระหว่างรอก้แอบเก็บภาพบรรยากาศในร้านไปด้วยเลย ได้กาแฟมาแล้ว พร้อมมั๊ย? ออกเดินทางกันเถอะเน๊อะ พร้อมแล้วไปกันเล้ย!!!! ~159km. จากตัวเมืองเชียงใหม่ สู่ดอยอ่างขาง ฝนตกสลับกับหยุดบ้างมาตลอดทาง เราใช้เวลา เกือบสามชั่วโมงมาถึงสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ระหว่างทางก้มีหมอกลงมาเป็นระยะ เราก้ขับรถเปิดไฟเพื่อความปลอดภัย ใช่ป่าว? ตอบเลยว่าไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ค่า แต่ด้วยว่าระยะและสภาพอากาศเช่นต้องเปิดค่า เพื่อให้รถที่สวนทางมาจะได้มองเห็นได้ง่ายขึ้นเนอะ ระหว่างทางเราให้เพื่อนเราถ่ายวิดีโอไว้ด้วย เสียดายจัง ลงตรงนี้ไม่ได้ เอารูปไปแทนละกันเน้อ เมื่อถึงสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ก้มีการเก็บค่าธรรมเนียมค่าเข้า เราจำได้ว่า ค่าเข้าคนละ 50฿ ค่ารถด้วย แต่ แต่ แต่ สำหรับคนที่พักที่พักของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง แจ้งได้เลยไม่ต้องจ่าย เลาม้ายยู้ววววว โถ่วจ่ายไปตั้งสองร้อยกว่า โถ โถ โถ นี่แหละน้าไม่ได้ศึกษาข้อมูลมา ใช่หรา คือเราก้ไม่รู้ว่าลืมได้ยังไง พักที่พักอุทยานมาก้ตั้งเยอะ คอนเซปเดียวกันหมด แต่เราลืมไง ลืม ลืม ไม่เป็นไรเน๊อะะะ ครั้งนี้เราจองบ้านไว้หลังนึงนอน 4 คน เข้ามาปุ๊บเราก้ไปติดต่อเอากุญแจ จ่ายค่ามัดจำกุญแจเสร็จสรรพ ด้วยเวลานะตอนนั้นบ่ายสองกว่าๆ แล้ว เลยมื้อเที่ยงมาไกลแล้วว ร้านอาหารโครงการก็อยู่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ แอบบอกคือตั้งใจมากินอาหารโครงการหลวงอยู่แล้ว จะบอกว่าสามมื้อหลังจากนี้ เราฝากท้องไว้ที่นี้ตลอด แหะๆ

นี่ๆ จำชื่อเมนูไม่ได้ ซ๊ากอย่างแต่อร่อยทุกอย่างนะค้า คอนเฟิร์ม เอ๊ะ จะว่าจำไม่ได้ซ๊ากอย่างก้ไม่ใช่ เราแนะนำเมนูนี้สุดๆ ปลาเทร้าทอดสมุนไพร ไม่รู้จะมีใครชอบบ้าง แต่เราชอบ เพื่อนเราก้ชอบนะ  อื้อหือ ปลาเทร้าทอดกรอบ น้ำจิ้มก้เด็ด อ๋อ อ๋อยยย ตอนนี้เรารีวิวตอนเที่ยงคืนสี่สิบห้านาที หิวมั๊ย ถามใจเธอดูวววววว พอเถอะเน๊อะะ ข้าม ข้าม ข้าม ไว้รีวิว มื้ออื่นเน้นๆ เนอะ

หลังจากทานอิ่ม พวกเราก็ตะเวรเที่ยวในสถานีเกษตร แต่ขอบอกก่อนเลยว่า เที่ยวไม่ครบนะ อันเนื่องจากฝนตก ก็ได้ไปสวนบ๊วยมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีดอกบ๊วยอย่างฤดูหนาว ฤดูนี้ วันนี้ ก็สวย อย่างที่เค้าควรจะเป็น :)

เขียวชะอุ่ม ชุ่มฉ่ำ โอโซนเต็มปอด จะว่าหน้าฝนคนไม่เยอะก็ใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนเลย บ้านทุกหลังถูกจองเต็มหมด อาจจะเพราะ ช่วงวันหยุดวันแม่ หยุดยาว 3วันติดกันก็คงจะใช่ ทำให้บรรยากาศที่นี้ไม่เงียบเหงาเกินไป แต่ก็ไม่ถึงกับต้องแย่งกันกินแย่งกันใช้ อย่างที่ฤดูหนาวยอดฮิต หลังจากที่พวกเรา ถ่ายรูปตรงสวนบ๊วยไปได้สักพัก ฝนก้ตกลงมาปรอยๆ ทำให้การจะไปไร่ชา2000 เป็นอันยุติลง เนื่องจากถามเจ้าหน้าที่เค้าก้ไม่แนะนำให้ไปตอนนี้ ค่อยไปพรุ่งนี้เช้าตามที่เจ้าหน้าที่บอกละกัน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อนร่วมทริป พวกเราก็เลยไปเดินเล่นกันนิดหน่อย ตรงตลาดด้านหน้าสถานีเกษตร เพื่อนๆ ก็ไปจับจ่ายซื้อของ ขนม นม เนย ของฝากเล็กๆ น้อยๆ กันไป 

หลังจากนั้นก็กลับเข้าที่พัก จะบอกว่าทริปนี้จะเป็นทริปแห่งการพักผ่อนจริงๆ เหมือนเปลี่ยนที่นอนกันซะเฉยๆ ฮ่าๆๆ จะบอกว่าแก่แล้วก้ไม่ใช่ นี่เราอายุแค่ยี่สิบกลางๆ เองนะะะะ แต่ด้วยบรรยากาศของหน้าฝนแล้ว ทริปนี้ขอเที่ยวแบบนี้นะคะ คนดี 

ภายในบ้านพักก็จะมี 2ห้องนอน ห้องน้ำก็จะอยู่ในภายในห้องนอนของทั้งสองห้อง ส่วนโถงกลางก้จะมีโซฟา ทีวี เตาผิงปะ เค้าเรียกเตาผิงใช่มั๊ย? ที่นี่ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมให้นะ แต่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ตอนแรกก้คิดว่านี่ไม่ใช่หน้าหนาว ไม่มีพัดลมเลยหรอ เอ๊ะ คืนนี้จะนอนหลับมั๊ย คือเราเป็นคนร้อนง่าย เลยกังวลไว้ก่อน พอตกค่ำเท่านั้นละค้าา รู้เลย คืนนี้นอนหลับสบายแน่ๆ ออกจากบ้านไปทานข้าว ขอผ้าคลุมไหล่หนึ่งผืน จะเล่าว่า พอตกค่ำออกไปสั่งอาหารร มาทานกันที่บ้าน นั่งกินข้าว เล่นเกมส์ เม้าส์มอยกันไปเรื่อย แอบกระซิบมีโปเกม่อนเยอะอยู่นา เสาก็มีให้หมุน แถมมีซากุระไปอีก เพื่อนเรานี้ เหมือนเปลี่ยนที่จับโปเกม่อน สนุกสนานกันไปค้า คือเข้านอนกันตั้งแต่สามทุ่ม แต่ แต่ แต่ ตีหนึ่งแล้วววว ยังจับโปเกม่อนกันอยู่ ยึดยิมกันไปจ้า พรุ่งนี้ตื่นกันสายแน่ๆ แพลนสำหรับพรุ่งนี้ เราจะไปไร่ชา2000 บ้านนอแล บ้านขอบด้ง แล้วก้ไปพักกันที่บ้านระเบียงดาว ที่ได้รับการกล่าวขานว่าที่พักหลักร้อย วิวหลักล้านกันนะคะ แล้วเจอกันค่า
 

ห่างหายไปนานมว๊ากกกกก กว่าจิได้กลับมาอัพเดทกันต่อ แฮรรรร่ พอดีช่วงนี้ชีวิตวุ่นๆ กันไปสักหน่อย 
ไปเที่ยวต่อกันเลยค่าาาาา

กว่าจะไปถึงบ้านระเบียงดาวววว ก้ช่วงเกือบเย็นล้าววว คือออกจะตื่นสายนิ้ดนุง กว่าจะอาบน้ามแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย ก้ยกกระเป๋าไปเก็บที่รถพร้อมกับการไปทานอาหารเช้า เราถือคติมื้อเช้าสำคัญเสมอมา เอ๊ะะะะ หรือจะเป็นการกินสำคัญที่สุดกันแน่ ฮ่าาาา เช้านี้พวกเราก้ยังไปทานกันที่ร้านอาหารของโครงการหลวงเช่นเคย เราคุยกันว่าจะทานอาหารที่นี้ เชคเอ้า แล้วก้ไปสั่งการแฟตรงสวนดอกไม้แทน เพราะว่าจะไปถ่ายรูปปป แค่นั้นแหละ ฮ๋าๆ

อาหารที่สั่งกันไปก้มีข้าวต้มคนละถ้วย และก้เห็ดรวมชุบแป้งทอดหรือไงนี่แหละ จามม่ายล่าย รสชาติอาหารก้อร่อย คิดดูสิ อากาศแบบสิบกว่าองศาก้จริง แต่ลมพัดโชยมาตลอดๆ พร้อมด้วยข้าวต้มร้อนๆ ฟินแค่ไหนนน ส่วนภาพอาหารนั้น ไม่ได้ถ่าย จบปิ๊งงงง หิวหรอ ก้ป่าว แต่ข้ามชอตนี้ปายด้ายยางงายยยยย ถถถถถถถ เอาบรรยากาศมาฝากแทนข้าวต้มร้อนๆ นะคะทู้กคนนน 

นี่ๆ อุณหภูมิเช้านี้ที่อ่างขางงง เด่วจะหาว่าเว่อร์ไปอีกกกกกกกกกกกกกก คืออุณหภูมิไม่ได้ต่ำมาก แต่ลมมันแรงงไง๊ 
เพื่อนเราถึงกะต้องขอผ้าคลุมไหล่กันสักหน่อย

ระหว่างรออาหาร เราก้ไปเชคเอ้าจะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่าเน้ เดินเล่น ถ่ายรูปมานิดหน่อย

รูปนี้จากมุมเคาเตอร์ระหว่าง จนท. กำลังจัดการกับการเชคเอ้าของห้องอื่นๆ :)

คือเราชอบมุมนี้มาก ถ้าได้นั่งทานโกโก้ร้อนสักแก้วคงดี ฮ๋าๆ แต่อย่าลืมว่าจะไปทานกาแฟกันตรงโน้นนน แปลงดอกไม้ ตรงทางออกโน่นจ้าา อดใจไว้ๆ อิ้อิ้

นี่งายยย มาถึงแล้ว ละก้สั่งคาปูชิโน่เย็น เพื่อออออออออ คือยังไง ท้าทายอากาศช่ายม้ายยยยย


ตรงจุดนี้ก้จะเป็นร้านขายของฝากด้วยน้า เพื่อนเราก้แบบช้อปกันกระจาย ซื้อชากันกระจุยย ฮ๋าๆ เราเหรอก้เดินมาถ่ายรูปไปเรื่อยๆ หมอกลงหนักมากกกกกก

หลังจากที่ได้อาหารและเครื่องดื่มลงท้องแล้วนั้น การพจญภัยของเรากำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เย้ เช้านี้เรามีที่ที่ตั้งใจจะไปคือ ไร่ชา2000 บ้านขอบด้ง บ้านนอแล เดินทางกันเลยเริ่มมม !

เจอป้าย จุดชมวิว จอดๆ มีม้าด้วย เอ๊ะ หรือลา ล่อ โอ๊ย ม้านั้นแหละ เชื่อสิ ไม่มั่นใจอ่าาา ปล.ใครรู้บอกด้วยค้า แยกไม่ออกจีจี 

ตรงไหนคือจุดชมวิวที่ป้ายบอกก แต่คือชอบมุมนี้มากๆ นะ เจ้าม้าในเฟรม มีคอกไม้สีขาวกั้น ไม่รู้ยังไงเอาเป็นว่าชอบองค์ประกอบภาพ จึงได้ภาพนี้มา ฮ๋าๆ  
เดินทางกันต่อตามป้ายกันไปเน๊อะะะ

เรา : นั้นไงแกร๊ ป้ายชา2000 ใช่ตรงนี้รึป่าว แยกเลี้ยวซ้ายอะ
เพื่อน : ไม่รู้วว
เรา : คิดในใจ กรุจิถามมันทามม๊ายยย ตอบไม่เคยได้ โอเคขับตรงไปก่อนละเดี๋ยวเจอชาวบ้านค่อยถาม ยังไงก้มีที่จะไปอีกสองจุด ถ้าใช่ทางนี้ค่อยวกกลับมาได้เนอะ ยิ้มสวย :)
ปล.เราไม่เคยหงุดหงิดเพื่อนเรื่องนี้น้าาาา เพราะถ้าหลงพวกมันก้หลงเป็นเพื่อนเรา แต่เราก้บ่นงี้ตลอดแหละ เพื่อนคงชิน คบกันมานานเกิ๊น เลยรู้กัน อิ้อิ้

โอเค เลยจริงด้วย จอดอีกทีคือ ฐานปฏิบัติการบ้านนอแลละจ้า ฮ๋าๆ

สุดเขตประเทศไทย ชายแดนไทย-พม่า
เพิ่งรู้ว่าเขตแดนเค้ากันด้วยไม้แค่นี้ แต่ก้เป็นฐานปฏิบัติการทหารอะเนอะ
  ก่อนจากตรงนี้ เราก้ได้สอบถามพี่ๆ ทหาร ทำให้รู้ว่าตรงนั้นแหละ ตรงที่เราเลี้ยวซ้ายตอนแรกนั้นแหละ คือไร่ชาสองพัน ตามแผนที่คือ เราต้องแวะ บ้านขอบด้ง ไร่ชาสองพัน และสุดท้ายก่อนลงจากดอยอ่างขางคือฐานปฏิบัติการบ้านนอแล แต่ที่เราทำได้จริงคืออออ ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล ไร่ชาสองพัน และบ้านขอบด้ง ฮ๋าๆ นี่แหละเราาา สมกับเป็นเราจริงๆ อัจฉราสไตล์ค้าาาาาาาาา แฮร่

มาถึงล้าวว ไร่ชาสองพัน รู้แล้วทำไมที่เมื่อวานพี่เค้าบอกว่าค่อยมาตอนเช้า ทางโหดมาก ชันและแคบ แต่เราก้มาถึงแล้วนะ ปลอดภัยด้วย ขอให้ปลอดภัยตลอดทริปน้า กราบบบ >/\<

เราหลงรัก ความเขียวชะอุ่ม ของหน้าฝนเข้าแล้วหล่ะสิ ไหนจะหมองจางๆ อ่างขางฤดูไหนก้สวยจริงๆ นะ ร้ากเยย

เดินเล่นถ่ายรูปกันไปป แปบเดียว แปบเดียวจริงๆ ฝนเทลงมาค่า เพิ่งจะบอกหลงรักหน้าฝนกันไปตะกี้ ลงมาให้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันล้าววว

ตกลงกันกับเพื่อนว่า มูฟเถอะะะ เดี๋ยวจะตกกันไปกว่านี้ แต่สาเหตุที่แท้จริงคือ เราปวดฉี่ค่าา ปวดฉี่มากกๆ ซึ่งตรงไร่ชาจะมีโรงงาน ก้เลยไปขอเข้าห้องน้ำ เลยได้ไปวิวสวยๆ อีกมุมนึง หลังโรงงานชา อิ้อิ้ เข้าห้องน้ำแล้ว สบายตัวแล้ว ได้ภาพสวยๆ มาให้ฟินอีกแล้ว เดินทางกันต่อค่า สถานีต่อไปบ้านขอบด้ง 

สงสัยจะหลงรักความเขียวชะอุ่มเข้าแล้วจริงๆ :)

จอดรถละ ลงมาเดินถ่ายรูปเล่น ท่ามกลางฝนปรอยๆ จะบอกว่ามีเพื่อนไม่ยอมลงจากรถด้วย แต่ไม่เปนไร เพื่อนบอกรอในรถนะะ เราก้โอเค้ พอเรากระหน่ำกดชัตเตอร์ด้วย i6 คู่ใจจนหนำใจ ก้ถึงเวลาที่จะเดินทางกันต่อ 

ระหว่างทางหมอกก้ยังลงจัดเช่นเคย ขับรถต้องเปิดไฟ ระมัดระวังตัวเองไว้ก่อนดีที่สุดเน๊อะะ วิวข้างทางก้ อย่างงี้ง้ะะ จะไม่ให้หลงรักได้ไง

ลงจากดอยอ่างขางก้มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงดาว ของดีเชียงดาวคืออะรายยย ได้ยินมาว่าโด่งดัง ขาหมูเชียงดาว ต้องโดนต้องโดน เดี๋ยวว นี่เพิ่งมา ยังไม่ถึงตีนดอย คิดถึงของกินแล้วค่า ระหว่างทางก้มีจุดชมวิวซุ่ยถัง เป็นจุดชมวิวที่สวยไม่แพ้กันค่า และก้ถือว่าเป็นการพักรถไปในตัวด้วย เค้าห่วงนังอ้วนเค้ามากกว่าตัวเองจะเหนื่อยไปอิ๊ก
 
เดินทางกันต่อค่า หิวแล้ว จุดหมายต่อไปของเราคือ ขาหมูเชียงดาวเจ้าเก่า ถึงแล้วร้านจะเป็นบ้านไม้ทรงโบราณ ไม่ได้มีเฉพาะเพียงข้าวขาหมูอย่างเดียวนะ มีเมนูอื่นๆ สั่งเป็นข้าวราดก้ได้ แต่เราสั่งเป็นขาหมูหนึ่งจาน ข้าวเปล่าสี่ถ้วย ในตอนเริ่มต้น  เนี่ยๆ ดูขาหมูสิ น่ากิ๊นน่ากิน ละรสชาตินะไม่ต้องพูดถึงอร่อยสมคำร่ำลือ ไม่หวานรสชาติกลมกล่อม บรรยายไปเท่าไหร่ก้ไม่เท่าไปลองเองหรอกหน่า เชื่อสิๆ ไปลองๆ ฮ๋าๆ ตอนต้นสั่งข้าวคนละจาน สุดท้ายมีการสั่งข้าวเพิ่มด้วยค้า อร่อยขนาดไหนคิดดู้วววว

สถานีต่อไปคือ ถ้ำเชียงดาว แวะไหว้พระสักการะกันหน่อย ทริปนี้ยังไม่ได้เข้าวัดเลยอะ

ที่นี้มีค่าธรรมเนียมจะเก็บตอนก่อนเดินเข้าไปในถ้ำ โปรดแต่งกายสุภาพด้วยน้า ถ้าใครนุ่งสั้นไปก้จะมีให้เช่าผ้าถุงค่า เมื่อเข้าไปในถ้ำก้จะมีไกด์นำทาง หากสนใจก้ติดต่อไกด์ได้เลย ตรงส่วนของถ้ำไม่ขออธิบายรายละเอียดนะ เพราะเราก้ไม่รู้เยอะ ฮ๋าๆ ข้ามๆ เดินเหนื่อย แก่ล้าวม่ายหวาย

พี่จากบ้านระเบียงดาวโทมาตามแล้ววว เย็นแล้วเดี๋ยวจะขึ้นมาลำบาก โอเค เดินทางกันต่อเถอะ ถัดจากถ้ำเชียงดาว มุ่งสู่บ้านระเบียงดาวว ขับไปเรื่อยๆ ก้จะเจอกับด่านที่ทำการป่าไม้ จัดการจ่ายค่าธรรมเนียม และลงชื่อเข้าด้วย คือเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก ยังมีผีเสื้อเยอะแยะมากมาย นางเกาะอยู่บนพื้นเลย ขณะที่เพื่อนเรากำลังจะลดกระจกลงแล้วกำลังจะกดชัตเตอร์ ก้มีจนท.เดินมา นางบินหายไปหมดเลยจ้า เสียดายมากกกกกก จนท.เดินมากล่าวย้ำอีกครั้ง ต้องกดแตรทุกๆ โค้งนะคับบบบ
จนท. : อย่าลืมกดแตร ทุกๆ โค้งนะคับ ที่นี้เค้าขับรถกันไม่แบ่งเลนนะ ระวังด้วย ต้องกดแตรนะ
เรา : ค่าาา รับทราบค่า

โอ๊ยจ้า เลยด่านมานิดเดียว เข้าใจแล้วค่า ทำไม จนท.ย้ำสุดแสนจะย้ำขนาดน้านนน ทางแคบและชันเป็นช่วงๆ ชันหน่ะเป็นช่วงๆ แต่แคบตลอดทาง รถแทบจะสวนกันลำบาก แต่เราก้ผ่านมันมาล้าววววว ในทางที่ยากลำบาก แต่ธรรมชาติ และอากาศที่แสนบริสุทธิ์ ทำให้ลืมทุกอย่างไปหมดจริงๆ 

ถึงล้าววว บ้านระเบียงดาว ไปเชคอิน เก็บของเข้าห้อง แล้วไปถ่ายรูปกันเถอะะะ  
วร้ายยยย เพิ่งจะดูนาฬิกาจะตีหนึ่งแล้ว งือ พรุ่งนี้เรามีงานเช้า งือ ขอตัวไปนอนก่อนนะะะะะะะ แล้วจะรีบมาต่อให้จบนะค้าาาา สัญญาๆ :)