Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
1 day Trip กับรถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์(Pa Sak dam) จ.ลพบุรี
    • Posts-1
    JiCha •  December 09 , 2019

    1 Day Trip กับรถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

    กฏข้อแรกของการท่องเที่ยวที่ 1 ปีจะมีแค่ 3 เดือนคือความไว 

    ไม่ต้อง งงค่ะ ขนาดเราจองในวันแรกกว่าจะโทรติดการรถไฟ กดจนมือหงิก ตั้งใจจองตู้แอร์ แต่แอร์เหลือที่นั่งคนละที่ เราไปสองคนต้องแยกกันนั่ง เลยไม่จองแอร์เปลี่ยนไปจองที่นั่งธรรมดาแทน นั่นก็คือพัดลม!! ตึ่งๆๆนึกถึงอากาศบ้านเราก็เสียวๆอยู่จะร้อนไหม...

    จองตั๋วแล้วก็ชำระเงิน ราคาตั๋วรถไฟราคา 290 ไป-กลับ/คน ชำระเงินเสร็จแล้วเราจะไปรับตั๋วรถไฟที่สถานีไหนก็ได้  ตั๋วก็จะหน้าตาแบบนี้มีระบุชื่อผู้โดยสาร ที่นั่ง ทั้งขาไปและขากลับ

     

    หลังจากนี้ก็รอวันเดินทาง 

    วันเดินทางเราออกจากบ้านไปถึงหัวลำโพง 06.30 น. รีบมากลัวไม่ทันรถไฟออก 07.10 น. แต่ปรากฏว่ารถไฟเสียเวลาไป ชม.ครึ่ง จ้า หัวรถจักรเสีย รอเอาหัวรถจักรมาเปลี่ยน ออกเดินทางประมาณ 09.30 น. ออกเดินทางมาได้สักระยะ พนักงานของการรถไฟก็แจก โบร์ชัวร์ให้คนละแผ่น ในนั้นจะมีบอกรายละเอียด สถานีไหนบ้าง เวลาไปและกลับ

    ก็จะมีสถานีตามนี้ค่ะ 

    1.กรุงเทพ 2.สามเสน 3. ชุมทางบางซื่อ 4.บางเขน 5.หลักสี่ 6.ดอนเมือง 7.รังสิต 8.อยุธยา 9.สระบุรี 10.ชุมทางแก่งคอย 11.แก่งเสือเต้น 12.เขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์ 13.จุดชมวิวรถไฟลอยน้ำจอด 30 นาที 14.โคกสลุงจอด35 นาที 15.เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 

    ใครที่อยู่ระหว่างทางตามสถานีต่างๆนี้ก็สามารถรอขึ้นที่สถานีใกล้บ้านได้เลยค่ะ เพราะแต่ละที่นั่งจะมีระบุในตั๋ว ทุกคนต้องนั่งในที่ของตัวเอง ทั้งขาไปและกลับ 

    เนื่่องจากของเราช้าไป 1.30 ชม. กำหนดการเดิมรถไฟต้องถึงสถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 11.32 น. และเดินทางกลับในเวลา 15.30 น. รถไฟเลื่อนเวลาให้เราได้มีเวลาเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ เที่ยวของเราขากลับเลยเลื่อนออกไปเป็นเวลา 16.30 น. แทนเพื่อชดเชยเวลาที่เรารอในตอนเช้า 

    ประชาสัมพันธ์จะประกาศว่าใครที่จะไปที่ไหน เที่ยวไหนให้ขึ้นชาลชลาไหนก็ไปตามนั้นค่ะ  อาหารเครื่องดื่มจะซื้อไปเลยหรือจะซื้อบนขบวนรถก็ได้ค่ะมีขายอยู่เรื่อยๆ 

    • Posts-2
    JiCha •  December 09 , 2019

    ในตั๋วจะมีระบุว่า เราต้องขึ้นคันที่เท่าไร และจะมีป้ายบอกที่แต่ละโบกี้ว่าเป็นคันที่เท่าไร ก็เดินไปขึ้นตามนั้น 

    โชคดีที่อากาศเย็นช่วงนี้ เราเลยนั่งรถไฟเรื่อยๆ ดูวิว อากาศกำลังดี ไม่ร้อนจนเกินไป 

    ระหว่างการเดินทางก็จะมีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟมาดูแลเราเรื่อยๆ มีแจ้งกำหนดการ แจ้งสถานี แจ้งว่าจะจะมีอาหารขาย มีเล่นเกมส์แจกพวกกุญแจ แจกโปสการ์ด เก็บขยะ 

    ก่อนถึงที่จอดชมวิวจะแวะรับผู้โดยสารที่สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็จะมีผู้โดยสารที่ขึ้นและลงตรงนี้เพิมจำนวนขึ้นมา ถ้าไม่มีที่ว่างก็ต้องยืน 

    น้ำน้อยก็จะมีชาวบ้านเอาสัตว์มาเลี้ยง กระจายทั่วไปให้เห็น 

     

    แง พิมพ์ผิด ต้องเขียนว่าเขือนป่าสักชลสิทธิ์ บรรบากาศก็แบบนี้ คนจะเยอะๆ ช่วงแรกๆที่รถไฟจอด สักพักก็จะขึ้นรถ ถ้าจะให้ปลอดคนหน่อยก็ต้องรอคนขึ้น ขบวนรถ 

    โชคดีที่เรานั่งตู้ที่ 3 เดินมาหน้าขบวนรถได้ มาถ่ายรูปด้านหน้าได้ เมื่อครบ 30 นาทีแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเรียกขึ้นขบวนรถเพื่อเดินทางต่อไปที่สถานีโคกสลุง 

    • Posts-3
    JiCha •  December 09 , 2019

    สถานีโคกสลุง

     

    สถานีนี้ก็จะมีชาวบ้านนำสินค้ามาขาย จอดให้เราซื้อสินค้าได้ 35 นาที ก่อนจะเดินทางกลับนำเราไปส่งที่สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 

     

    ก่อนถึงสถานีเจ้าหน้าที่จะย้ำเวลาที่ขบวนรถจะกลับเข้ากรุงเทพให้เราอีกที เพื่อจะได้ไม่ตกรถ 

    เรามีเวลาที่จะอยู่ที่เขื่อนประมาณ 3 ชม.มีทางเลือกให้เรา 2 ทางเลือกคือ 

    1. อยู่ภายในเขื่อน ภายในเขื่อนจะมีกิจกรรมรถรางให้เรานั่งชมวิวเขื่อน ไหว้พระ หรือจะนั่งทานอาหารริมเขื่อน ชมพิพิธภัณฑ์ปลา 

    2.ออกไปข้างนอก ข้างนอกจะมี 2 ทางเลือก คือไปสายรถที่ดูทุ่งทานตะวัน กับไปดูเฟิร์นยักษ์ เราเลือกดูทุ่งทานตะวันค่ะ เสียค่ารถตู้คนละ 60 บาท รถตู้จะวน ส่งเราเสร็จจะวนไปรับท่านอื่นต่อ เราจะไปที่ต่อไปเราก็รอให้รถตู้มารับ 

    ที่แรกของสายทานตะวันคือพาไปไหว้พระที่ วัด เดินทางจากที่ท่ารถตู้ไม่เกิน 5 นาที ตอนเราขึ้นคนขับรถตู้จะถามเราว่าจะแวะทานข้าวก่อนไหม แต่ในบนรถเราไม่มีใครทานก็เลยไปวัดเลยค่ะ 

    ไหว้พระเสร็จก็เดินลงไปรอรถตู้เพื่อไปทุ่งทานตะวันต่อค่ะ 

     

    เสร็จจากนี้ก็ไปที่บ้านกล้วย จะมีต้นกล้วสูงราว 3 เมตร รูปปั้นกล้วยใหญ่ๆ ร้านกาแฟ มีให้นมลุกหมู 

    เรามาถึงก่อนเวลา เข้าไปเดินเล่นในเขื่อนแปปนึง แล้วก็ออกมารอที่สถานีรถไฟค่ะ เพื่อกลับเข้ากรุงเทพค่ะ 

     

     

    • Posts-4
    JiCha •  December 09 , 2019

    ค่าใช้จ่าย

    แท็กซี่จากบ้านไปหัวลำโพงไปกลับ 160

    ตั๋วรถไฟ 290*2 =580 บาท

    รถตู้นำเที่ยว 60*2 =120 บาท

    ข้าวเหนียวหมู 60

    ข้าว 80

    แห้ว 30 น้ำ 30 

    เม็ดทานตะวันของฝาก 200 บาท

    รวมค่าใช้จ่าย 2 คนทริปนี้ 1260 คนละ 630 บาท 

    ค่าใช้จ่ายเท่านี้แต่ได้ออกไปเห็นโลกกว้างอีกมุมนึง บางคนก็พาลูกไป บางคนก็พาพ่อแม่ไป ลองไปกันดูนะคะ ปีนี้อาจจะจองทันหรือเปล่าไม่รู้ เพราะขบวนรถเดินทางเฉพาะเสาร์อาทิตย์ เดือน พ.ย.62 - ม.ค.63 ค่ะ แต่นอกจากเส้นทางนี้ ก็มีเส้นทางอื่นๆอีกนะคะ ลองดูข้อมูลที่การรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นวันเดย์ทริปหรือ 2 วัน 1 คืน ที่เดินทางโดยรถไฟ แล้วเจอกันทริปหน้าค่ะ 

    *ปล.เราพยายามนำเสนอข้อมูลให้ เพราะก่อนหน้าเราไปถามบางคนต้องจองตั๋วรถตู้ล่วงหน้าไหมแล้วไม่ได้คำตอบ เลยมาเขียนให้ท่านที่ไม่รู้แบบเราได้ไปดูบ้างค่ะ **รถตู้ไม่ต้องจองล่วงหน้านะคะ มาถึงสถานีก็เดินไปซื้อมีเจ้าหน้าที่บนรถไฟให้คำแนะนำสงสัยตรงไหนถามได้หมดเลยค่ะ