หลังจากพ้นสันคมมีด หรือ สันวัดจงวัดใจอะไรนั่นแล้ว
ก็ถึงเนินสุดท้ายผมตั้งให้ว่าเนินช้างลื่น
แมร่งลื่นผุด ๆ ถ้าฝนตกไม่ต้องเดินขึ้นเลย
แค่เห็นก็ไม่รุ้จะขึ้นยังไงแล้ว เดินดินสูงชันกว่า 45 องศา ไม่ต้องคิดตอนลง
นาทีนั้น เหมือน เอ็นม่า วัตสัน มายืนอยู่ตรงหน้า แล้วชวนไปจุดสุดยอดเขา พร้อมยืนมือมาให้ช่วยจูง หุหุ
ไม่สนอะไรแล้ว รีบปีนขึ้นไปจุดสุดยอด ทันที
เมื่อถึง ปลายทางแล้วสิ่งแรกที่คิดว่าจะทำคือ มองวิว 360 องศา ที่เค้าร่ำรือมาว่าสวรรค์บนดิน
แต่สิ่งที่ทำจริงคือนอนแผ่สองสลึง
ราวสิบนาทีได้
แล้วก็ได้ยินเสียงลูกหาบ … ลูกหาบคนเดิม (มรึงเอาอะไรกรูอีก กรูไม่มองลงไปข้างล่าง ไม่ต้องบอกให้มองเบย)
พี่ตี๋ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (เออกรูชื่อตี๋ กรูเหนื่อยย ขอพักหน่อยยย)
รุ้ง ๆ ๆ ๆ (กรูไม่ได้ชื่อ รุ้ง ว๊อยยย)
รุ้ง กิน น้ำ พี่ตี๋ รุ้ง กิน น้ำ
วิญญาณตากล้องเข้าสิงอีกครั้ง
ลุกพรึ่บ ด้วยความกระตืนรือร้น เพื่อจะถ่ายรุ้งกินน้ำ
รุ้งกินน้ำจาง ๆ จางโครต ๆ หาตั้งนาน ก็หาไม่เจอ กรูกดก่อนแระ
ตรงไหน ๆ ๆ ตรงนั้น ๆ ๆ พี่ตี๋
แช๊ะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (อยากบอกว่ายังไม่เห็นด้วยตา ต้องมามองหลังกล้องหา T T ตาดีกันจริ้งงง)
แวปป มาจุดกางเต็นท์กันเลย
เกิดอาการคันมือครับ
ยังถ่ายไม่หนำใจ
อยากได้ดาว อยากได้ดาว อยากได้ดาว
จัดการให้พี่ จนท. ช่วยเข้าฉากนั่งกองไฟ เต็นท์เตรียมเข้าฉาก วางแฟลซไว้เรียบร้อย
เกรงใจมากเลย น้องเอ คนนั้น (น้องมันคงคิดว่ายุ่งไรกะกรูอีกเนี่ย)
ผมติดกองไฟเพื่อจัดฉาก(ปกติก็ก่อกองไฟประกอบอาหารอยู่แล้วครับ)
น้องมันก็มานั่งผิง T T ผมต้องเข้าไปกระชับพื้นที่ (ศัพท์กำลังอินเทรน)
น้องเอ เลยย้ายไปนอน เปิดไฟอ่านหนังสือในเต็นท์
โอ้ววว ไม่ได้ over แสงแรงผุด ๆ(ซื้อเต็นท์ใหม่ ลายสวย ๆ เพื่อมาประกอบฉากเบยนะ หุหุ)
ต้องเข้าไปกระชับพื้นที่อีกครั้ง T T ไม่อยากทำเบย _/\_
ยังถ่ายไม่ทันเสด เหมือนสวรรค์แกล้ง กรรมติดจรวด
ฝนไล่ช้าง !!!!
ลูกหาบบอกพี่ตี๋เก็บ ๆ ๆ เถอะ นะนะนะ มันมาแล้ว
ไม่ทันขาดคำ ซูมมมมมมมมม
T T D700 T T
T T เลนส์ Nano T T
T T เฮ้ย Flash SB910 T T
รีบเก็บเข้าเต็นท์แทบไม่ทัน
ตัวเปียกโชก เข้ามานั่งเช็ด กล้อง เลนส์ แฟลซ ด้วยอาการสั่นเทา (เสียมั้ยวะ ฮ่า ๆ )
ลองกด ๆ แช๊ะ ๆ ๆ เว้ยยเฮ้ยย ของเค้าดี บึก อึด ทน
จบวันอันแสนยาวนานด้วย อาการสั่นจากความหิว
พร้อมใจคิดถึงมาม่า ที่ตากฝนอยู่ในกองไฟ ฮือ ๆ ๆ ๆ หิว ๆ ๆ ๆ
ยังดีที่ไม่ต้องแย่งผ้าห่มแล้ว ถุงยาง เอ้ย ถุงนอน ที่เตรียมไว้ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
เช้าวันใหม่ เนื่องจากยังไม่สะใจ (ตากล้องแม่งโหดสลัด)
จึงขอขึ้นไป พิชิตความกลัว บนสันคมมีอีกครั้ง
เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น บนดินแดนที่เรียกได้ว่าดุจสรวงสวรรค์
น้องเอ ไม่ไปแล้ว 55+ สงสัยยังโกรธ
ลูกหาบ อยู่กับน้องเอ และจนท.คนนึง เพื่อเก็บเต็นท์ ที่นอน ฯลฯ เตรียมพร้อมกลับ (แอบบนินทาจนท.โด๊บ ไม่ฟิตนี่หว่า ฮู้ ๆ ๆ )
ครั้งนี้เริ่มชิน เพราะครั้งแรกทุก ๆ คน นั่นละอาจจะทำอะไรไม่ถูก แต่ครั้งที่สองจะเริ่มชำนาญขึ้น เนอะ ๆ
เริ่มย่างก้าวอย่างมั่นใจ
เพิ่งรู้ว่าระดับความสูง 1,249 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
เวลาเดินบนสันเขานี่ พื้นดินที่หุบเขามัน เหมือนขยับสวนเรา เวียนหัวดี
สำหรับน้องเอ ในเรื่องที่อ่าน ๆ แล้วเข้าใจผิดทำให้คิดว่าเป็น สาว ใส สวย น่าเจี๊ย ละก็
ขออภัยไว้ ณ. ที่นี้ อยากให้ได้ลุ้นกันบ้างอะไรบ้าง 55+
แต่แท้จริงที่เล่าถึงตัวละครนี้ขึ้นมาเพราะอยากบอกว่า
การเดินทาง 4 วัน 3 คืน (ที่บ้านอีต่อง บนเขาช้างเผือก และตลาดทองผาภูมิ อีกคืน)
กับใคร หรือกรุ๊ปใด ก็ตาม
ยิ่งเป็นทริปที่ ลำบาก ทรมาณ ทดสอบสภาพจิตใจ ความกลัวด้วยแล้ว
ควรเดินทางกับคนที่ “คอเดียวกัน” จริง ๆ จะช่วยให้ดื่มด่ำธรรมชาติได้อย่างครบครัน
เพราะนอกจากธรรมชาติที่สุดยอดแล้ว ผมได้ กินมาม่า(ดราม่า) หลายเรื่องกับน้องเอนี่ละ โดยเฉพาะตอนที่ออกจากบ้านอีต่องแล้ว
ความประทับใจของผมจึงเหมือน เหล้าที่ผสมมาอย่างดี แต่ดันมีเม็ดยาขมตกไปในแก้ว
เรื่องราวบางตอนอาจฟังดูตลก แต่เรื่องราวดราม่าของจริง บั่นทอนการถ่ายภาพไม่น้อยเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น ปลายปีนี้ผมอยากไปถ่ายภาพ ภูเขาไฟ
เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
ดังนั้นผมจึงเริ่มรับสมัครหาผู้ร่วมทริปตั้งแต่วันนี้ เอาที่เป็น “คอเดียวกัน” ไปเบย
อายุ 18-25 (จะได้มีแรงเดิน)
มั่นใจสูง (จะได้ไม่ยกเลิกทริป)
ผมสั้น (จะได้ไม่ต้องสระผมเวลาไปทริป)
ขาว (จะได้ … เอ่อ เหมือนผมแระกัน)
สุดท้ายสำคัญ
ม๊ากกกก
สวย หมวย อึ๋ม
จ๊ากกกก ไม่ใช่แระ ฟิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววว
ถ่ายรูปเสร็จ เก็บของ กินข้าว กินปลา(มีป่ะ)
ก็ได้เวลาเดินทางกลับ
ขามาผมเดินช้าาา มาก จนโดนแซว เดี๋ยวหยุด ๆ เดี๋ยว หยุด
เอาฟระ ขากลับมาแข่งกัน ผมจับมือแทคทีมกับ จนท.โด๊บ ที่แอบกินแรงไม่ยอมไปดูพระอาทิตย์ขึ้น
ปล่อยให้พี่นนท์ เดินกะน้องเอ ผมเดินนำอยู่นิดหน่อย เพราะน้องเอลืมของไว้เลยกลับไปเอาที่จุดกางเต๊นท์
พักบ้าง เดินบ้าง พร้อมร้องทักให้พี่นนท์ให้ได้ยินไปเป็นระยะตลอดทาง
เมื่อถึงบ้านอีต่อง คณะผม และลูกหาบนั่งกิน น้ำกันอย่างสบายใจ
ซ็อตที่ผมพลาดเลยก็คือไม่ทันได้หยิบกล้องถ่าย พี่นนท์ ที่เดินหน้าแดงงง ก่ำ มาพร้อมหอบเล็ก ๆ (ไม่สิ เยอะเหมือนกัน หุหุ)
“พี่ไหนบอกว่าเดิน แทบทุกวัน สบายไม่เหนื่อย ไมเดินไม่ทันผมละ”
พี่นนท์ไม่ตอบ ... ยืนหอบอยู่ หุหุ
ปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะของทุกคนชาวคณะ
อ้อ แล้วอย่าถามผมนะว่ามีที่อาบน้ำมั้ยอะไรยังไง อ่านเจอมั้ยละว่าผมอาบน้ำตอนไหน ฮ่า ๆ ๆ