Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
บันทึกการเดินทาง กาญจนบุรี (ต้นจามจุรียักษ์ - อุทยานแห่งชาติเอราวัณ) อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan National Park) จ.กาญจนบุรี
    • Posts-1
    พิรุณ •  March 05 , 2016

    เดินทางแบบผิดแผน

    "ชีวิตที่ไม่เคยพลาด ... คงเป็นชีวิตที่ไม่เคยทำอะไรเลยเสียมากกว่า"

    ถ้าต้องปลอบใจตัวเองกับแผนที่วางไว้ผิดพลาดหลายจุด ประโยคข้างบนคงจะเป็นประโยคที่ดีประโยคหนึ่ง

    สะพานข้ามแม่น้ำแคว - ชุมชนเก่าถนนปากแพรก - ต้นจามจุรียักษ์ - อุทยานแห่งชาติเอราวัณ - ป้อมปี่ - สะพานมอญ นี่คือแผนที่วางเอาไว้อย่างคร่าว ๆ สำหรับการเดินทางถ่ายรูปในครั้งนี้ ซึ่งกะเอาไว้ว่าจะออกเดินทางตั้งแต่ตี 3 เพื่อจะได้ถึงจุดหมายแรกทันแสงช่วงพระอาทิตย์ขึ้นโดยที่ไม่ต้องรีบขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจมากนัก

    นั่งเตรียมของตั้งแต่ก่อนนอน แต่ใช้เวลานานพอสมควรทำให้มีเวลานอนไม่มาก คิดไปคิดมาก็พบแผนที่ผิดพลาดตั้งแต่ยังไม่ได้เดินทาง นั้นคือ ... สะพานข้ามแม่น้ำแคว และชุมชนเก่าถนนปากแพรกนั้นอยู่ในเขตชุมชน และไม่ใช่จุดใกล้ที่ค้างแรม นั้นหมายความว่าผมต้องจอดรถมอเตอร์ไซค์พร้อมสัมภาระจำนวนมาก (กระเป๋าข้างมอเตอร์ไซค์ 2 ใบ บรรจุดของเต็มไปหมด และเต็นท์อีก) ถ้าโดนขโมยไปก็ทำให้ทริปล้มเลย

    "อย่ากระนั้นเลย เราแค่แวะผ่านไปดูก่อนแล้วกัน ถ้าที่ทาง ทำเลโอเค ก็ค่อยหาโอกาสแวะกลับมาถ่ายรูปในตอนขากลับก็ได้" ผมบอกตัวเองในใจ

    23 กุมภาพันธ์ 2559 ตื่นตี 5 ไปเลย ก็ไม่ถึงกับผิดแผนเพราะกะจะแค่แวะไปดูจุดหมาย 2 จุดแรกก่อนอยู่แล้ว ส่วนจุดที่ 3 ไปเร็วมากคงถ่ายรูปยากอยู่แล้ว ซึ่งผมก็เดินทางอย่างชิว ๆ ไม่รีบร้อนนัก และไม่นานก็ถึงจุดหมายแรก

    - - - - - - - - - -

    หาเพื่อนคอเดียวกัน ชอบเดินทางเพื่อไปถ่ายรูปด้วยมอเตอร์ไซค์ กางเต็นท์บ้าง หาที่พักถูก ๆ บ้าง เน้นประหยัด ลุยได้ ช่วยเหลือกัน หรือจะซ้อนกันไปก็ยินดี ชาย - หญิง ไม่เกี่ยง Facebook : Fasndee

    • Posts-2
    พิรุณ •  March 05 , 2016

    สะพานข้ามแม่น้ำแคว

    อาจจะเพราะผมเดินทางไกลมาหลายทริปก่อนหน้านี้ ครั้งนี้มาถึงจุดหมายแรกในกาญจนบุรีซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพนัก ทำให้รู้สึกว่ามันมาถึงไวมาก แต่สิ่งที่คิดไว้นั้นไม่ผิดไปจากที่คิดเท่าไหร่สำหรับ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ไปถึงช่วงก่อน 8 โมงเห็นจะได้ แต่คนเยอะมาก

    ผมดูทำเลแล้ว คิดว่าของหายแน่ถ้าจอดรถทิ้งไว้ และถ้าผมจะไปถ่ายรูปจริง ๆ คงต้องเดินไปเดินมา เลยไม่อยากเสี่ยง ไม่อย่างนั้นถ้าของหายทริปก็จบลงแค่ตรงนี้ เสียความรู้สึกอีกต่างหาก คิดเอาไว้ว่าถ้ามีโอกาสมากับคนอื่นก็คงจะหาโอกาสแวะที่นี่ ผลัดกันเฝ้าของและไปเดินเที่ยว หรือถ่ายรูป

    ส่วนชุมชนเก่าที่ถนนปากแพรก ผมไม่ได้แวะไป แต่คิดไว้ว่ามันคงไม่ต่างกันหรอก ว่าแล้วก็ตัดสินใจข้ามไปจุดหมายที่ 3 กันเลยดีกว่า

    • Posts-3
    พิรุณ •  March 05, 2016
    • Posts-4
    พิรุณ •  March 05, 2016
    • Posts-5
    พิรุณ •  March 05 , 2016

    ต้นจามจุรียักษ์

    วิ่งย้อนกลับไปไม่ไกลนักบนถนนหนทางที่ดีเยี่ยมต่างจากที่เดาเอาไว้ (แต่ก็ไม่แปลกใจนักเมื่อผมได้คุยกับแม่ค้าในพื้นที่แล้วรู้ว่า ที่แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยอะพอสมควร ทางการก็เลยน่าจะเร่งทำถนนให้เดินทางได้สะดวกนั้นเอง) ไม่นานก็ถึง ต้นจามจุรียักษ์

    สิ่งที่ผิดคาดจากแรกคงเป็นขนาดของมันที่ใหญ่กว่าที่คิด และสภาพแวดล้อมที่ต่างจากที่คิด แต่โดยรวมก็ถือว่าน่ามาเยี่ยมชม ตอนผมไปยังจัดว่าเช้าอยู่ประมาณ 8 โมงครึ่ง ยังไม่มีนักท่องเที่ยวซักคน แต่ก็จะสังเกตุเห็นร้านรวงอยู่รอบ ๆ จำนวนไม่น้อย มีร้านอาหารตามสั่ง และของกินเล่น เพียงแต่ว่าร้านยังไม่เปิดกันซักเท่าไหร่ เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่มากันเลย มีผมเป็นคนแรกที่มาถึง

    ผมมาในช่วงนี้ เป็นฤดูที่ต้นไม้หลาย ๆ ต้นทิ้งใบสีเหลืองเต็มพื้น สำหรับจามจุรียักษ์ก็เช่นกัน แต่มันไม่ได้ทิ้งใบจนหมดต้นเหมือนไม้พันธุ์ทิ้งใบหมดต้นแบบนั้น อย่างไรก็ดีการที่มาถ่ายรูปมันในช่วงนี้ทำให้เราได้ภาพที่เห็นกิ่งก้านชัดเจน ได้อารมณ์ไปอีกแบบ

    ผมเดาว่าถ้าผมมาช่วงปลายฝน หรือหน้าฝน ต้นคงเป็นพุ่มอีกแบบ คงมีแต่ใบเขียวเต็มไปหมด และถ้าจำไม่ผิดมันจะออกดอกหน้าร้อนก็คงจะเห็นดอกสีชมพูแซมบาง ๆ แน่ ๆ

    ถ้าคุณอยากมาถ่ายภาพสวย ๆ ให้เห็นต้นโดยรวม ก็ควรจะมาเช้าแบบผม เพราะถ้าสายกว่านี้นักท่องเที่ยวจะเริ่มมา ถ่ายรูปก็ติดรถที่จอดอยู่ในที่จอดที่อยู่ข้าง ๆ นั้นแหละ และติดนักท่องเที่ยวอีก ตอนผมกำลังจะเดินทางต่อประมาณ 9 โมงกว่านิด ๆ ก็เห็นมีฝรั่งพาครอบครัวขับรถยนต์มาเที่ยวกัน

    จามจุรีต้นนี้ดูแล้วก็รู้ได้เลยว่ามีอายุมาก เห็นว่ากันว่าอายุเป็น 100 ปี+ บางกิ่งของต้นนั้นห้อยละเลียดพื้นมาเลยทีเดียว ผมประทับใจกับที่นี่พอสมควร เสียดายแค่ว่าถ่ายรูปในหลาย ๆ มุมถ้าจะให้เห็นพุ่มทั้งต้นก็จะต้องติดบ้านเรือนของชาวบ้านแถบนั้น

    • Posts-6
    พิรุณ •  March 05, 2016
    • Posts-7
    พิรุณ •  March 05 , 2016

    อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

    เดินทางต่อจนมาถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยที่ถนนนั้นไม่ได้เดินทางยากเลย ถนนดี และวิ่งตรง ๆ มาเรื่อย ๆ ไม่สลับซับซ้อนอะไร บริเวณก่อนถึงอุทยานฯ ก็มี 7-11 มีร้านขายของแถว ๆ นั้นอีกเยอะ พอมาถึงหมู่บ้านก่อนเข้าอุทยานฯ ก็มีตลาดสดอีก (แต่ผมไม่แน่ใจว่ามีขายของสดไหม เห็นเหมือนมีแต่พวกร้านอาหาร) ครั้นพอเข้าไปถึงหน้าอุทยานฯ ก็มีร้านขายอาหารอีกหลายร้าน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวอด

    ผมมาถึงที่อุทยานฯ น่าจะก่อนเที่ยง มีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์แยกออกจากรถยนเป็นสัดส่วน ที่จอดรถยนต์ก็กว้างมาก ที่จอดมอเตอร์ไซค์มีโซ่ไว้สำหรับให้เราล่ามเข้ากับรถด้วย (ต้องหากุญแจมาเอง)

    ที่นี่ผิดจากที่ผมคิดไว้เยอะ เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ แม้ว่าวันที่ผมไปจะเป็นวันอังคาร คนควรจะน้อย และที่ทำให้ผมแปลกใจอีกอย่างคือ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ (อาจจะเพราะเป็นวันทำงานด้วย คนไทยกำลังทำงานกันอยู่)

    ผมถึงไม่แปลกใจว่าทำไมแถวนี้ถึงมี 7-11 มีร้านค้าเยอะแยะมากมาย แถมตรงที่จอดรถก็มีบริการจ้างรถกอล์ฟให้เรานั่งได้ 4 - 5 คนเพื่อไปถึงน้ำตกชั้นที่ 1 (จริง ๆ มันก็ไม่ไกลนักหรอก)

    ผมจอดรถแล้วก็กะว่าจะเดินไปดูที่ดูทางกางเต็นท์ว่าเป็นอย่างไง ถ้ามันไม่น่าสนใจก็กะว่าะจะได้เปลี่ยนแผนได้ถูกก่อนเย็นเกินไป เดี๋ยวจะหาที่นอนไม่ได้

    ระหว่างเดินไปก็ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ด้วย แต่มีปัญหาในการตัดต่อ (ผิดแผนอีกแล้ว) ผมไม่สามารถทำออกมาได้สำเร็จ - -' เสียดายมาก และยังมีคลิปที่ถ่ายตั้งแต่จุดกางเต็นท์จนเดินขึ้นน้ำตกตั้งแต่ชั้น 1 - 7 อีกด้วย ซึ่งเป็นคลิปยาว นั้นก็มีปัญหา เสียดายมาก

    พอไปดูจุดกางเต็นท์แล้วรู้สึกว่า ok ดีมาก ห้องน้ำเล็กไปนิด และมีจุดเดียว แต่ก็มีหลายห้อง เป็นห้องส้วม + ห้องน้ำภายในห้องเดียวกันเลย มีบริเวณล้างหน้าอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ส่วนบริเวณกางเต็นท์ก็เหมือนอ้างล้างหน้า (แต่นักท่องเที่ยวชอบเอามาล้างจาน ผมว่าไม่เหมาะ เพราะตรงจุดนั้นการจัดการของเสียน่าจะไม่ดีเท่าตรงบริเวณห้องน้ำ)

    ลานกางเต็นท์ใหญ่ ดูคร่าว ๆ แล้วน่าจะรองรับได้ 200 - 300 หลัง และแน่นอนมีบ้านพักด้วย แต่ผมไม่ได้ดูรายละเอียดบ้านพักเลย

    ผมคุยกับเจ้าหน้าที่ว่ามีคนมากางเต็นท์เยอะไหม เพราะผมเห็นนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ตอนผมมาถึงลานกางเต็นท์กลับมีเต็นท์ที่นักท่องเที่ยวใช้พักนั้นอยู่แค่ 1 หลังเท่านั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า เมื่อคืน (วันจันทร์ เป็นวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันหยุด) มี 40 หลัง ซึ่งถือว่าเยอะมากเหมือนกันครับ แต่ผมก็ไม่แปลกใจ เพราะส่วนใหญ่คนมักจะมากางเต็นท์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเริ่มเย็น

    หลังจากดูที่ดูทางเสร็จ พอใจแล้ว ผมก็กลับมาที่รถ แล้วติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งการจัดการที่นี่ต่างจากอุทยานฯ อื่น เพราะที่อื่นคุณจะต้องจ่ายเงินค่ากางเต็นท์เลย แต่ที่นี่คุณจะเขียนใบลงทะเบียน และเอาบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ไว้ แล้วก็ไปกางเต็นท์ได้เลย จะกลับวันไหนก็มาแลกบัตรคืน คิดเงินในวันที่กลับ ซึ่งก็เหมาะสมดี เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะ ทำแบบนี้จะลดความวุ่นวายได้มาก

    ถึงแม้ว่าจะมีที่จอดรถที่หน้าอุทยานฯ แต่คุณสามารถขับรถผ่านเข้าไปเพื่อไปที่จุดกางเต็นท์ จอดรถแถวบริเวณที่จอดรถตรงจุดกางเต็นท์ได้ครับ

    อ๋อ ก่อนถึงจุดกางเต็นท์ มันจะมีธารน้ำหลากท่วมสะพานข้ามเล็ก ๆ ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ ต้องระวังไว้ให้มาก มันลื่นมาก ๆ ผมเกิดมาไม่เคยเจอถนนลื่นขนาดนี้มาก่อน วิ่งผ่านจุดนี้ 4 รอบ ไถล 3 รอบครับ 1 ใน 3 รอบนั้นต้องบอกว่าล้มไปแล้ว แต่ฝืนใช้มือรั้งรถไว้ ปวดแขนเลยทีเดียว

    • Posts-8
    พิรุณ •  March 05, 2016
    • Posts-9
    พิรุณ •  March 05 , 2016

    บริเวณกางเต็นท์นั้นติดกับแม่น้ำเลยครับ และมีท่าเทียบแพสำหรับนักท่องเที่ยวที่พักอยู่กับรีสอร์ทที่มีบริการแพ สามารถเอาแพมาเทียบแล้วเดินต่อไปน้ำตกได้เลย

    ป่าแถบนี้กับฤดูแบบนี้ เราจะเห็นต้นไม้เป็นสีทอง ๆ ใบร่วง ๆ แต่ว่าป่าตรงน้ำตกนั้นเป็นสีเขียวนะครับ ฤดูนี้น้ำน้อย ถ้าเป็นหน้าน้ำคงสวยงามมาก ๆ ผมก็ไม่ได้สนใจเที่ยวน้ำตกเท่าไหร่ แต่พอมาที่นี่ก็ต้องบอกว่า สวยมากจริง ๆ ขนาดน้ำไม่เยอะมากนัก แต่ก็มีน้ำให้ว่ายเล่นได้เต็มที่ เพียงแต่น้ำที่ตกลงมานั้นไม่ซู่ซ่ามากนัก

    ผมกางเต็นท์เสร็จก็ลองเดินขึ้นน้ำตกดูก่อน เดินไปถึงชั้น 2 - 3 ก็จะเจอด่านที่นักท่องเที่ยวที่มีกระป๋อง ขวดพลาสติกจะต้องเอามาลงชื่อทำสัญลักษ์ และจ่ายเงินมัดจำต่อขวดไว้ ถ้าคุณเอาขวดเหล่านั้นกลับลงมาก็จะได้เงินคืน ซึ่งผมถือว่าเป็นการจัดการที่ดีมาก เพราะขยะน้อยกว่าสถานที่ท่องเที่ยวอื่นมากเมื่อเทียบกับปริมาณนักท่องเที่ยว

    ผมเดินไปถึงน้ำตกชั้น 4 ก็ไปต่อไม่ได้ เพราะจากชั้นนี้ไปจะใช้เวลานานขึ้น จำไม่ได้ว่าปิดไม่ให้ขึ้นกี่โมง (ข้อมูลอยู่ในคลิปที่เสีย) แต่เปิดให้ขึ้นตั้งแต่ 7 โมงเช้า (ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลช่วงนั้น บางคนก็ขึ้นกันไปก่อน)

    ขึ้นไม่ได้ผมก็กลับลงที่เต็นท์ พบว่าเริ่มมีคนมาพักเพิ่มแล้ว ยังเจอพี่ที่พาครอบครัวมากันเยอะเลย 3 เต็นท์ รถ 2 คัน เขาตะล่อนเที่ยวไปทั่ว ยังให้ผมแนะนำที่เที่ยวเลย ผมก็เลยบอกแผนว่าจุดหมายต่อไปของผมคือ ป้อมปี่ และสะพานมอญ และผมก็ให้ข้อมูลแผนที่การเดินทางไว้กับพี่เขา

    หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร ผมก็เอารูปมานั่งทำ พอฟ้ามืด มียุ่งผมก็เข้าเต็นท์นอน

    • Posts-10
    พิรุณ •  March 05 , 2016

    ตื่นตั้งแต่ตี 4 อากาศเย็นนิดหน่อยตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงคืน (แต่หัวค่ำไม่เย็นเลย) นอนกลิ้งไปกลิ้งมาซักพักใหญ่ก็ลุกเตรียมของออกมาถ่ายรูปบริเวณรอบ ๆ ในช่วงเช้า ออกมาจากเต็นท์ปุ๊บ เห็นเงาตะคุ่ม ๆ ตกใจนึกว่าหมี รีบมุดเข้าเต็นท์ จะวิ่งหนีก็ไม่กล้า กลัวมันวิ่งทัน ไม่รู้มันวิ่งเร็วแค่ไหน แอบ ๆ มองจากในเต็นท์ อ้าวหมูป่านี่นา - -'

    แต่ก็นั้นแหละ ผมก็ไม่กล้าออกจากเต็นท์อยู่ดี รอจนหมูป่าผ่านไปแล้วถึงออกมาถ่ายรูปต่อรอจน 7 โมงก็เริ่มถ่ายคลิปเดินทางตั้งแต่จุดกางเต็นท์จนถึงน้ำตกชั้น 7

    น้ำตกในช่วงชั้น 1 - 2 - 3 นั้นจะมีแคร่ไม้ให้เรานั่งพักเล่นจำนวนมาก ระหว่างทางมีร้านค้าขายน้ำ ขายขนมอยู่ 2 ร้าน แต่ตอนเช้า ๆ จะยังไม่เปิดให้บริการ เจ้าหน้าที่ดูแลน้ำตกก็จะยังไม่เข้าเวรกัน แต่เช้า ๆ นั้นผมก็แทบไม่เจอนักท่องเที่ยวเลย

    ถ้าเป็นช่วงเย็น ๆ แบบเมื่อวาน ผมจะเห็นคนมานั่งเล่นบริเวณแคร่ในน้ำตกชั้น 1 - 3 กันเยอะ เพราะอยู่ใกล้ ๆ กันหมด เดินไม่ลำบาก เห็นคนแก่ ๆ เยอะ ส่วนชั้น 4 ก็ห่างจากชั้น 3 ขึ้นไปเล็กน้อย ไม่ไกลอะไร

    ภาพด้านบนนี้เป็นทางเดินที่เป็นทางรถกอล์ฟด้วย เป็นระหว่างทางจากจุดกางเต็นท์ไปน้ำตกชั้นที่ 1 / ภาพช่วงนี้เป็นภาพช่วงบ่ายแก่ ๆ ของเมื่อวานนะครับ เพราะตอนช่วงเช้าไม่มีคนแบบนี้ รถกอล์ฟก็ยังไม่ให้บริการ ผมเอาภาพช่วงบ่ายแก่ ๆ เมื่อวานมาลงแทน

    จะเห็นว่าชั้น 1 - 3 นั้นใกล้กันมาก ส่วนชั้น 4 ไปชั้น 5 ไกลสุด ซึ่งมันก็ไม่ได้ไกลมาก แต่ทางตั้งแต่ชั้น 4 เป็นต้นไป ทางจะเริ่มชัน และเดินลำบาก ทำให้เรารู้สึกว่าไกล บางช่วงก็อาจจะมีลุยน้ำบ้าง หรือต้องปีนป่ายเล็กน้อย ใส่รองเท้าผ้าใบจะดีกว่า แต่ก็สามารถใส่รองเท้าแตะได้นะครับ ทางไม่ได้ลุยขนาดที่จะใส่รองเท้าแตะเดินไม่ได้ และเส้นทางก็ชัดเจนดี แต่ถ้ามาหน้าฝนอันนี้แนะนำรองเท้าผ้าใบน่าจะดีกว่า และควรจะลุยน้ำได้ด้วย

    3 ภาพด้านบนเป็นช่วงน้ำตกชั้น 1 - 3 ภาพเมื่อวานเย็น จะเห็นว่าน้ำน้อย แต่น้ำให้เล่นก็เต็มที่ปกติ ใสจนเห็นปลาว่ายไปมา ซึ่งปลามันไม่ค่อยกลัวคนเท่าไหร่ด้วย

    ผมขึ้นไปเรื่อย ๆ น้ำขวดใหญ่หมดเลยครับ เดินขึ้นกับลง ถ้าไม่มีน้ำแย่เลย แต่อย่างว่า ผมแบกเป้ใบใหญ่ใส่อุปกรณ์กล้องครบ แถมตอนขาขึ้นอีกมือนึงผมจะต้องถือกล้อง Action Camera ถ่ายวิดีโอไว้ตลอด ทำให้ค่อนข้างเหนื่อยเป็นพิเศษ เดินไปทั่วทุกชั้น ใช้เวลาเดินตั้งแต่จุดกางเต็นท์จนถึงชั้น 7 ก็ 1 ชั่วโมงพอดี ถ้าใครกำลังขา แขนดี และไม่พกของเยอะ คงใช้เวลาไม่นานก็น่าจะถึง เพราะมันแค่ 1.5 กิโลเท่านั้นเอง

    เสียดายคลิปจริง ๆ เพราะมันละเอียดดี ภาพนิ่งแทบไม่ได้ถ่ายระหว่างทาง ผมไปถึงชั้น 7 ถึงได้ถ่ายภาพนิ่งไว้บ้าง แต่ตอนไปถึงก็มีนักท่องเที่ยวไทยเป็นเด็กกลุ่มใหญ่มาถึงก่อนแล้ว (คงมาถึงก่อนที่ทางการเข้าอนุญาตให้ขึ้น เพราะเขาเปิดให้ขึ้น 7 โมง ผมเดินเข้ามาตอน 7 โมงพอดี) และหลังจากผมมาถึงสักพักก็มีชาวต่างชาติทยอยขึ้นมา รวมแล้วทั้งหมดก็เกือบ 20 คนได้

    ชั้น 7 เป็นชั้นที่มีลักษณะเฉพาะตัว สวยงาม น้ำเป็นสีฟ้าต่างจากชั้นอื่นเลยครับ ช่วงแรกก็ถ่ายติด ๆ คนไป แต่จะมีภาพหนึ่งที่ไม่มีคนอยู่เลย นั้นผมต้องรอจนคนเขาลงกันหมด เพราะว่าสักพักหลังจากคนทยอยขึ้นมาถึงกันแล้ว ก็ไม่มีใครมาอีกแล้วจนกว่าจะสาย ๆ หรือเที่ยง ๆ เลย ส่วนใหญ่จะเล่นกันแค่ชั้นต้น ๆ เท่านั้นครับ

    หลังจากถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอจนพอใจ ผมก็เดินลงไปจุดกางเต็นท์ ระหว่างทางลงก็พบว่าโทรศัพท์มีปัญหา ซึ่งผมใช้มันในการนำทางตลอด อีกทั้งรอบนี้ไม่ได้ทำการบ้านกับแผนที่กระดาษเลย ทำให้ไม่แน่ใจว่าป้อมปี่อยู่จุดไหนของแผนที่กระดาษกันแน่ อีกทั้งทางบ้านคงเป็นห่วงถ้าโทรติดต่อไม่ได้ ผมเลยตัดสินใจยกเลิกการเดินทางไปป้อมปี่ และสะพานมอญ ทั้ง ๆ ที่จุดหลักใหญ่ของการเดินทางครั้งนี้คือสะพานมอญแท้ ๆ แต่ก็ม่เป็นไร เพราะกาญจนบุรีไม่ได้ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่เลย ผมจะต้องมาอีกเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ

    • พิรุณ  ขอบคุณครับ อาจจะได้ไปเร็ว ๆ นี้แหละครับ แต่ยังไม่แน่ กำลังเลือกอยู่ว่าจะไป ทุ่งแสลงหลวง - ภูสอยดาว - ม่อนแจ่ม หรือจะไป กาญจนบุรีอีกรอบดี 09 March 2016 11:20:09
    • Watchy  ไปป้อมปี่เมื่อไหร่มาเขียนเล่าให้อ่านบ้างน่ะค่ะ วันก่อนผ่านแต่ไม่ได้เข้าไปเสียดายมากๆๆๆ 08 March 2016 21:25:18
    • Watchy  ชอบมากเรยขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์และภาพสวยๆๆให้ชม เคยไปเอราวัณแต่ก้ขึ้นไปแค่ชั้นที่สามเพราะเวลาจำกัด 08 March 2016 21:23:08
  1. View more