ทริปสบายๆ สามคืนสี่วัน ที่หมู่เกาะชุมพร

         ทริปแรกของปี การเดินทางลงใต้ จุดหมายอยู่ที่จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นประตูสู่ภาคใต้อีกจังหวัดหนึ่งเดินทางโดยรถส่วนตัวจากชลบุรี-ชุมพร

Day 1

          พอถึงชุมพรเราขอเดินทางต่อไปอีกหน่อยที่ระนอง เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดระนอง หลายคนอาจจะมีจุดมุงหมายไปคลายร้อนที่ทะเล หรือไปติดเกาะที่มีความสวยงามของเมืองไทย แต่ทริปนี้เราจะไปคลายร้อนด้วยความร้อน!! นอนแช่ออนเซ็นเมืองไทยที่ระนอง ก่อนที่เราจะกลับไปติกเกาะที่ชุมพรพอเดินทางมาได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วครับ “บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน” ออนเซ็นเมืองไทย จังหวัดระนอง         บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก แต่ละบ่อจะอุณหภูมิสูงประมาณ 56  องศาเซลเซียล ประกอบด้วยธาตูต่างๆ ไม่มีสารหรือกลิ่นกำมะถันเจือปน ​หลังจากแช่ออนเซ็นได้ที่แล้วเราก็กลับชุมพรอีกครั้ง เตรียมตัวติดเกาะถึงชุมพร ขึ้นเรือ NJ.ทัวร์ มุ่งหน้าสู่เกาะมัตรา หรือมาตรา ที่พักของเราถ่ายรูปท่าเรือเล่นๆครับก่อนถึงที่พักในที่สุดเราก็มาถึงที่พักของเรา เกาะมัตรา ได้บรรยากาศสุดๆ

Day 2

           เช้าเเรกที่เกาะมัตรา เตรียมตัวขึ้นเรืออีกครั้งไป “เกาะทะลุ” ดำน้ำดูปะการังวันแรก เป็นอีกเกาะนึงที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดชุมพร        ลักษณะ ของเกาะเป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก จะมีโพรงถ้ำขนาดใหญ่หลายถ้ำ สามารถว่ายน้ำดำดูปะการังรอบเกาะและลอดไปยังฝั่งตรงข้ามได้             พอเหนื่อยกับการดำน้ำดูปะการังที่เกาะทะลุแล้ว เราก็ไปต่อที่ “เกาะง่ามใหญ่” เกาะนี้เป็นเกาะหินปูนซึ่งมีการสัมปทานรังนกนางแอ่น รอบกาะเป็นทางผ่านของร่องน้ำและโขดหินใต้น้ำ   เราพักเหนื่อยโดยการนั่งเรือชมรอบเกาะของเกาะง่าม ไปดูความสวยงามของ “บ้านพักคนเฝ้ารังนก” ที่สร้างกระท่อมเล็กๆ เรียงรายอยู่บนผาหิน เป็นที่แปลกตาของคนที่มาเที่ยว           อีกฝั่งของเกาะง่ามใหญ่ ยังมีสิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติ ที่เป็นอันซีนไทยแลนด์ นั่นคือ “หินฝ่ามือพระพุธทเจ้า” ชาวประมงเชื่อว่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นที่หลบลมพายุ และปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัย        หายเหนื่อยกับการดูสิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติแล้ว ลุยต่อครับ ดำน้ำดู “ดอกไม้ทะเล” ดอกไม้ทะเลขึ้นอยู่บนหินเหมือนพรมนุ่มๆ ที่พริ้วไหวตามกระแสน้ำ          กลับถึงที่พักอีกครั้งเวลาใกล้ค้ำทำอะไรดี ตกหมึกดีกว่า ตกหมึกครั้งแรกในชีวิตก็โดนหมึกกัดมือซะงั้น ช่างมันนี่แหละคือประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้"ตกเอง ย่างเอง กินเอง" ครับ หมึกสดๆ

Day 3

            ตื่นแต่เช้าตั้งแต่ ตีห้า คิดว่าจะได้ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์กลับขึ้นอีกฝั้งไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ได้เห็นแส่งแบบรางๆก็ได้อารมไปอีกแบบ         ขอขึ้นหาดก่อนหาอะไรกินเพิ่มพลังที่ “หาดทรายรี” จากนั้นแวะชมอีกเกาะที่อยู่ไม่ไกลกับหาดทรายรีนัก คือ “เกาะมะพร้าว” เกาะแห่งนี้ก็เป็นเกาะสัมปทานรังนกนางเเอ่นอีกเกาะที่ไกล้ฝั้งที่สุด เป็นแนวหาดยาวประมาณ 100 เมตร หาดสีขาวสวยสดุดตา              ก่อนกลับที่พักขอแวะกระโดดน้ำ ดูปะการัง อีกสัก สองสามเกาะ เกาะแรกกับเกาะที่สองอยู่ไกล้กัน คือ “เกาะแรด และเกาะหลักแรด” เป็นเกาะหินปูนที่ไม่มีชายหาด รูปลักษณ์คล้ายเเรด ใกล้กันมีโขดหินเล็กๆ สามก้อน เชื่อว่าเป็นที่ผูกแรดจึงเรียกว่าหินหลักเเรด แรด...แรดจริงงง            เกาะที่สาม คือ “เกาะลังกาจิว” เป็นอีกเกาะที่มีความสวยงามในชุมพร น้ำใสหาดสวยมีเเนวปะการังด้านตะวันตกของเกาะ เหมาะสำหรับการเล่นน้ำดำดูปะการัง เป็นเกาะที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนืองจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประภาสเพื่อทอดพระเนตรการเก็บรังนกบนเกาะนี้ 3 ครั้ง และได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ของพระองค์ไว้บนผนังหินปากถ้ำ ทางด้านใต้      กลับที่พักถ่ายรูปเล่นหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน   ที่เกาะมัตรามีสุนัก สามตัวเจ้าถิ่น เเดงสองดำหนึ่ง

มีสาวน้อยหนึ่งตัว ที่ตาขาวแกเลียงไว้ ชื่อน้องกิ้ก ผมก็ไม่รู้หรอกว่าตัวผุ้หรือตัวเมีย แต่ชื่อกิ้กผมคิดว่าน่าจะตัวเมียนะ 555

ตาขาว ผู้ที่ดูแลเกาะมัตรา จะว่าแกเป็นเจ้าของเกาะก็ว่าได้

อยู่คนเดียวรู้สึกคิดถึงใครสักคน........

แต่พออยู่ สาม สี่ คน ความคิดถึงนั้นก็เริ่มหายไป.......เริ่มแล้ว เริ่มจะบ้าแล้ว

Day 4

           เช้าวันสุดท้าย วันนี้ไม่ได้ไปไหนไกล โดดน้ำดูปะการังหน้าเต้นที่พักตัวเองนี้แหละ ที่ “เกาะมัตรา” หรือเกาะมาตรา หรืออีกชื่อคือ เกาะตังกวย เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวสะอาด น้ำใส สลับกับโขดหินเรียงรายอยู่หน้าเกาะ บริเวณรอบๆเกาะมีปะการังน้ำตื้นที่มีความสวยงามอีกเกาะที่ไม่แพ้เกาะอื่นเลยทีเดียว เกาะนี้เหมาะสำหรับนักท่องเทียวที่ไม่ชอบดำน้ำลึกและว่ายน้ำไม่แข็งหรือว่ายน้ำไม่เป็น    

ทริปนี้ก็ขอจบเท่านี้เจอกันใหม่ทริปหน้า

ขอบคุณนะครับที่อ่านจนจบ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ