Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
ทริปในฝัน หนาวนี้ ที่ภูกระดึง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (Phu Kradueng National Park) จ.เลย
    • Posts-1
    Athita •  January 04 , 2016

    ภูกระดึง... ภูเขารูปหัวใจ <3

    เป็นกระทู้แรกที่รีวิวนะคะ ^^ ก่อนอื่นมาดูชื่อทริปก่อน ว่าทำไมถึงเรียกว่าทริปในฝัน นั่นก็เพราะว่าเทอมนี้เรียนหนักมากกกกกก จนฝันทุกวันว่าเมื่อไหร่จะปิดเทอม  เพราะอยากไปเที่ยวจนใจจะขาดนั่นเองค่ะ 555555 และแล้วก็ชวนเพื่อนมาภูกระดึงเยอะแยะมากมาย แต่สุดท้ายก็มีผู้ตกลงใจมาด้วยแค่สองคน 555 โดยส่วนตัวเอมเคยมาแล้วนะคะ แต่อีกสองคนยังไม่เคยมาค่ะ เลยต้องพามาลิ้มรสกันสักหน่อยยยย :D 

    หลังจากตกลงใจกันเสร็จ จองเต็นท์ที่อุทยานเรียบร้อย ซึ่งเกือบจะจองไม่ได้ค่ะ เพราะวันที่เข้าพักตรงกับศุกร์ เสาร์- อาทิตย์คนจึงจองเต็มหมดเลย รอจนวันก่อนเดินทางจริงๆค่ะกว่าจะจองได้ เย้!  หลังจองเต็นท์ได้ที่พักแล้ว เราก็วางแผนเดินทางกันก่อนเลยค่ะ ที่คิดกันไว้คือไปภูกระดึง 3 วัน 2 คืน (25 - 27 ธันวาคม 2558) แต่พวกเราอยู่จังหวัดอุบลฯจึงต้องออกเดินทางจากอุบลฯ ไปพักที่ขอนแก่นก่อน 1 คืนค่ะ ค่ารถโดยสารจากอุบลฯมาขอนแก่นตกคนละ 230 บาท พอถึงเช้าวันที่ 25 ธ.ค. เวลาตีห้าเป๊ะ!ก็โบกแท็กซี่ไปลงที่ บขส. รถ ป.2 ขอนแก่น-เมืองเลย (ภูกระดึง) ค่ารถโดยสารคนละ 85 บาทค่ะ รถออกทุกๆ 30 นาทีค่ะ เดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ก็ถึงร้านค้าที่จอดรถแดงขึ้นภูค่ะ ><"

    หลังจากพักกินข้าวกันเสร็จขึ้นรถแดง เพื่อไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึง โดยเสียค่ารถคนละ 30 บาทค่ะ ถ้าเหมาคันก็คันละ 300 บาทค่ะ

    พอถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ก็ไปติดต่อที่พัก ยื่นหลักฐานการจอง และเสียค่าธรรมเนียมเข้าคนละ 20 บาทค่ะ ส่วนเต็นท์และเครื่องนอน เราจะไปติดต่ออีกทีบนภูกันนะคะ ^^

    หลังจากผ่านขั้นตอนการชำระค่าธรรมเนียมเสร็จเรียบร้อย สำหรับคนที่ต้องการจ้างลูกหาบเพื่อบรรเทาความหนักของสิ่งของ ต้องมาจุดๆนี้ค่ะ ซึ่งเขาคิดราคากิโลกรัมละ 30 บาทค่ะ ไม่แพงเลยค่ะ เพราะกว่าจะขึ้นไปถึงยอดภูมันโหดมากจริงๆค่ะ 5555 (รอจ่ายเงินตอนรับของข้างบนเลยนะคะ)
     

     

    ครั้งหนึ่งในชีวิตขอพิชิต ภูกระดึง เย้!

     

    จากนั้นเราก็มายื่นบัตรเข้าและเริ่มเดินทางกันเลย!!! ลุยโลดดดดดด!!!

     

    สำหรับการเดินขึ้นภู เราจะผ่านซำต่างๆตามนี้เลยค่ะ ซึ่งเดี๋ยวเอมจะอัปรูปป้ายต่างๆให้ดู (แต่ติดรูปเอมเยอะหน่อยขออภัยด้วยนะคะ ><”)

     

    เดินๆเถอะเรา แฮ่ๆ ซึ่งกว่าจะถึงซำแฮกก็หนักหนาสาหัสมากๆค่ะ 55555555 เป็นซำที่โหดสุดแล้ว เหนื่อยโฮกกกกก ได้ยินเสียงบ่น เสียงหัวเราะกันตลอดทาง 555 เป็นสีสันของผู้มาพิชิตภูกระดึงจริงๆค่ะ ^^

    .

    จากที่จะเป็นลมกันไปหลายต่อหลายรอบ...

    ก็ถึงแล้วนะซำแฮกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!><" แวะถ่ายรูปสักหน่อยยยยยยยยย

    เย้ๆ :D

     

    ถ่ายรูปเสร็จพักเหนื่อยกันสักหน่อยค่ะ ซึ่งที่ซำแฮกราคาของก็จะประมาณนี้เลยค่ะ ซึ่งหากซำสูงขึ้นไปก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆนะคะ เพราะแม่ค้าก็ต้องจ้างลูกหาบ หาบขึ้นมาเหมือนกันค่ะ :))

    (แอบถามแม่ค้าว่าซำหมายถึงอะไร ได้คำตอบมาว่า แปลว่า แม่น้ำ แอ่งน้ำนั่นเองค่ะ )

     

    พร้อมแล้ว ก็ลุยต่อเลยค่ะ เย้เย้!! (แม้ว่าเธอนั้นไม่รู้จักชั้นสักหน่อยแต่ฉันก็แอบชอบเธอไม่ใช่น้อย เอ้ยยย ไม่ใช่แล้ว 555)

     

    ซึ่งแต่ละซำจะเป็นป่าคนละประเภทกันนะคะ อย่างซำแฮกจะเป็นส่วนของป่าเต็งรัง ซึ่งเป็นไม้ผลัดใบ เกิดไฟป่าบ่อย ต้นไม้จึงมีเปลือกหนาๆเพื่อปรับตัวให้อยู่รอดดดดดดด นั่นเองค่ะท่านผู้ชมมมมมมมมม

     

    ก่อนถึงซำกอซางค่ะ ดูสภาพแต่ละคน  555555555555

     

    ตลอดทางจะได้ยินเสียงเพลงจากพี่ลูกหาบตลอดค่ะ ...ไสว่าสิบ่ถิ่มก๊านนนนนน 555 หญิงแกร่งมากๆค่ะ ^^

     

    จากนั้นก็อดทน พักบ้าง เดินบ้างพอผ่านซำต่างๆมาได้ค่ะ 55555

     

    มาถึงจุดชมวิวอีกซำค่ะ ซำกกโดน หมอกเยอะมากค่ะ มองเห็นเขาและวิวข้างล่างลางๆ

     

    เห็นใบเมเปิ้ลหรือก่วมแดงเปลี่ยนสีให้ชื่นฉ่ำหัวใจบ้างแล้วค่ะ อิอิ ดีใจ ><

     

    จากซำแคร่ไปถึงหลังแปนี่ก็โหดใช่เล่นค่ะ ทางชันมากกกกกกกก แง แต่เจอต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ชอบมากเลยล่ะค่ะ กอดหน่อยยยยยย :D

    จากที่กลั้นใจ กัดฟันเดินขึ้นบันไดมาได้ ก็ถึงแล้วล่ะค่ะ หลังแป!!!

    .

    ..

    ... แท่นแท๊นนนน..

    ข้างบนวิวสวยจังเลยยยยยยยย ลมเย็น เห็นป่าสนเขาแล้ววววววววววววว!!!!!!

    เย้ๆ "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" จ้าาาาาาาาาา

     

    ถ่ายรูปป้ายยย ระยะทางต่างๆก็ตามนี้เลยค่ะ ^^ วิวข้างบนก็สวยค่ะ ^^ รู้สึกอากาศข้างบนนี้ สดชื่นจังเลย บวกกับความอดทนที่จะขึ้นมาได้นี่รู้สึกตัวเองสุดยอดจริงๆเลยค่ะ 555555555

     

    จากหลังแปก็เดินทางกันไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง เดินทางราบประมาณ 3.2 กม. ค่ะ ระหว่างทางก็ผ่านป่าสนเขา มองทิวทัศน์ไปเรื่อยชิลล์ๆ(มั้งคะ) 5555 T-T

     

    หม้อข้าวหม้อแกงลิงก็มี ถ้าเดินไปทางผาต่างๆจะมีเยอะมากค่ะ 

     

    เฟินก็มาน๊าาาาาาาา เยอะมาก ตลอดเส้นทางค่ะ 

     

    ดอกไม้ข้างทางงงงงงงง :))

     

    แล้วเราก็เดินๆ ถ่ายรูปๆ กันมา นี่โคนสนเพศเมียค่ะ ^^

     

    ทางดินทรายเดินยากสุดๆ แต่ก็นุ่มเท้าดีค่ะ ^^

    .
    .

    จนในที่สุดก็ถึงสักที ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง !!!

    คนเยอะจริงๆค่าาาาาาาาาา :D

    กว่าจะถึงที่นี่ก็ปาไปบ่ายสี่โมงเย็นค่ะ 555555555 ตั้งใจว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก แผนก็ล่มค่ะ เพราะเหนื่อยมากกกกกกก TT จากนั้นก็ไปติดต่อเรื่องเครื่องนอนที่นี่ค่ะ  

    ขนาดของเต็นท์ที่มีบริการ ( ราคาที่แจ้งไว้เฉพาะเต็นท์ไม่รวมเครื่องนอน ) เว็บไซต์จองเต็นท์ก็ตามนี้ ค่ะ http://www.dnp.go.th/parkreserve/tent_reservation.asp?lg=1  

    -     เต็นท์โดมขนาด 3 คน   ราคา   225   บาท / คืน

    -     เต็นท์โดมใหญ่ขนาด 6 คน   ราคา   450   บาท / คืน

    -     เต็นท์เคบิ้นขนาด 6 คน   ราคา   450   บาท / คืน

    ส่วนใครจะเอาเต็นท์ไปเองก็สามารถเอาไปได้โดยต้องเสียค่ากางเต็นท์ด้วยค่ะ 

    เครื่องนอนที่มีบริการให้เช่า

    -     ถุงนอน   ราคาถุงละ 30 บาท / คืน

    -     แผ่นรองนอน   ราคาแผ่นละ   20   บาท / คืน

    -     หมอน   ราคาใบละ   10 บาท / คืน

    -     ผ้าห่มผืนใหญ่ ผืนละ 50 บาท/ คืนค่ะ (ราคาอาจจะคาดเคลื่อนได้นะคะ กลัวจำผิด 555 แต่เอมเสียเงินตามนี้ล่ะค่ะ) 

    แล้วเราก็ไปรับผ้าห่ม หมอน ที่รองนอนเรียบร้อยค่ะ  นี่คือภาพบริเวณเต็นท์ที่เราอยู่ค่ะ เต็นท์กว้างมากกกก แต่ติดกันไปนิด ถ้านินทาใครคงได้ยินหมด อุ๊ป ไม่ใช่แล้ววว >< 555555 

    สำหรับวันที่ 25 ธันวาคม พวกเราเหนื่อยมาก พากันนอนพัก หาอะไรกิน แล้วกลับมาอาบน้ำนอนกันค่ะ ><"
    เดี๋ยวกลับมาต่อวันที่ 26 นะคะ ^_^

     

    • Posts-2
    Athita •  January 06 , 2016

    26/12/58 อนาคตที่สดใสรอเราอยู่ !

    เช้าแล้ววันนี้ยังไม่สาย..ตื่นมาก็ร้องเพลง ถึงเธอ... ^^ สวัสดีค่ะ สำหรับเช้าวันนี้ ต้องเรียกว่าเช้ากันจริงๆค่ะ เพราะพวกเราต้องตื่นกันตั้งแต่ตีห้า เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นค่ะ ระยะทางไป-กลับ ก็ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้นเอง! 555 เอมนี่รีบสุดเลยค่ะ เพราะรีบมาจองห้องน้ำ อาบน้ำอาบท่า กลัวคนเต็มเพราะช่วงที่มาคนเยอะมากกกกกกก

    หลังจากที่ล้างหน้าล้างตากันเสร็จเรียบร้อย ก็คว้ากล้องและไฟฉายเตรียมตัวเดินเลยค่ะ มาภูกระดึงไฟฉายจำเป็นมากๆเลยนะคะ ห้ามลืม เด็ดขาด! เพราะตอนที่เดินๆมามองไม่เห็นอะไรหรอกค่ะ มองแค่ทางข้างหน้ากับคนข้างๆให้เห็นก็พอ 5555

    พอเดินมาเรื่อยๆจากหนาวกลายเป็นเริ่มจะร้อนค่ะ เพราะเดินกันมาไกลพอสมควร เหงื่อเริ่มซึม 555 เดินมาไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงแล้วค่ะ ตอนนี้เรานั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้นกันนนน ^^ (ตื่นเต้นๆ)

     

    เริ่มเห็นแสงตะวันค่ะ รอๆๆๆ

    .
    .

    รอจน 7 โมง ไหนพระอาทิตย์ 555555555555 เจอแต่หมอก หมอก และหมอก ซึ่งหมอกเยอะพอๆกับคนเลยค่ะ แต่สวยมากกกกกกกกกก เย็นมากด้วย เอากล้องออกมาแชะภาพกระจายอย่างไม่กลัวความชื้นกันเลยทีเดียววววววว

     

    มาเรื่อยๆค่ะ หมอกผู้น่ารัก 555555 ความรู้สึก ณ ตอนๆนั้น คือเหมือนอยู่ในความฝันเลยค่ะ เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึง เวลาหมอกลงเยอะๆ จะเผลออุทานออกมาว่า โหหหหหหหหห หมอกกกกกกก !!

     

    บางจังหวะก็น่ากลัวเหมือนกันนะคะ >< ถ้าถ่ายหนังผีนี่ก็หลอนใช่เล่นค่ะ 555

     

    สิ่งสวยงาม ...ฝอยลมค่ะ เป็นไลเคนนะคะ เจอเยอะมากบนนี้เพราะความชื้นสูงงงงงและอากาศบริสุทธิ์ค่ะ คอนเฟิร์มมมม!!

     

    จากนั้นก็ถ่ายรูปกับป้ายสักหน่อยยยยยยยย ^^

     

    แล้วก็เดินทางกลับค่ะ ถ่ายรูปเล่นมาตามทาง...

     

    กระดุมเงินก็มีค่ะ ^^

     

    ระหว่างเดินกลับหมอกก็ยังลงมาเรื่อยๆค่ะ ... นึกว่าอยู่เมืองนอก (มโนอีกแล้ววว 555) ติดรูปเอมเยอะหน่อย ขออภัยด้วยนะคะ เพราะตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมาเขียนรีวิว 555 เขินจัง ><

     

    ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากๆค่ะ โคนสนนี่จะติดหน้าอยู่แล้ววววววววววว ชอบบบบบบ 

     

    จากนั้นก็เดินไปที่พัก ...เมื่อเดินถึงที่พัก ก็ไปแวะกินข้าวก่อนไปเดินป่ากันต่อค่ะ วันนี้เราจะเริ่มเดินไปทางน้ำตกนะคะ 

     

    ระหว่างทางก็พากันดูสนสามใบ สนสองใบ พืชนั่นโน่นนี่ แมลงกันไปตามประสาเด็กวัยใสค่ะ 55555

     

    ดูเจ้าตัวนี้มันเท่ดีจริงๆ 55555

     

    นี่ต้นสนสามใบค่ะ ตามหามานานนนนนนนนนนน ปกติเห็นสนสองใบเยอะกว่าค่ะ (สังเกตความแตกต่างตรงที่จำนวนใบและลักษณะของเปลือกนะคะ จะแตกต่างกันอยู่ ^^)

     

    ระหว่างทางที่เดินไปหาน้ำตกที่แรกก็จะเป็นป่าสนโปร่งๆนะคะ เดินๆๆๆๆๆ (ท่าเดินนางบ่งบอกว่าเหนื่อยล้ามาก 555 สู้ต่อไปนะ)

     

    ป่าสนที่จะเห็นบ่อยๆ นึกว่าอยู่ในยุคไดโนเสาร์ ><

     

    สักพักก็พ้นป่าสนแล้วค่ะ วิ่งๆ 5555

     

    เอ๊ะๆๆๆ ได้ยินเสียงน้ำตก....ว้าววว เห็นแล้ว...

    เห็นแล้ววว...

    ...ต้นเมเปิ้ล!!!! แดงเต็มต้นเลยค่ะ :D ภารกิจแรกสำเร็จ!

     

    ที่น้ำตกเพ็ญพบใหม่ จะมีน้ำตกและต้นเมเปิ้ลด้วยล่ะค่ะ ^_^

     

    จากนั้นก็เดินต่อค่ะ เดินผ่านป่าที่เย็นมากๆ ต้นไม้เยอะมากชอบมากๆค่ะ 

     

    ผ่านน้ำตกมาเรื่อยๆค่ะ...

    เอ๊ะ!!!!  ดอกอะไรเหมือนไข่ดาว 555 คล้ายดอกส้านนะคะ แต่เอมก็ไม่แน่ใจ 5555 สวยดีค่ะ ^^ (อัปเดตทราบชื่อแล้วนะคะ ดอกเมี่ยงหลวงค่ะ :D)

     

    จนสุดท้ายก็มาถึงน้ำตกถ้ำใหญ่ค่ะ เมเปิ้ลสวยมากกกกกก นี่ขนาดน้ำไม่เยอะนะคะ ถ้ามาช่วงปลายฝนต้นหนาวนี่คงจะสวยมากแน่ๆเลย แชะภาพมาซะเยอะเลยค่ะ  (ตัดเอมออกไป 55 พอดีคนเยอะ ถ่ายวิวไม่ค่อยสะดวก TT)

     

    หลังจากชื่นชมกันอยู่นาน ยังไม่ได้นั่งพักเลย ก็เดินต่อค่ะ ระยะทางตามป้ายเลยยยยยยยย

     

    ออกจากป่าน้ำตกก็มุ่งไปทางสระอโนดาตเพื่อไปผาหล่มสักเพื่อดูพระอาทิตย์ตกค่ะ ตลอดเส้นทางมีป้ายบอกทางตลอดค่ะ ไม่ต้องกลัววววว แค่เกือบ 8 กิโลเมตรเอง จิ๊บๆ 5555

     

    เดินๆๆๆๆ ด้วยความอดทนและแสนจะเหน่อยล้า แต่มีเพื่อนร่วมทางตลอดทำให้ไม่เหงาเลยค่ะ 555 รีบๆเดินค่ะ เพราะต้องออกจากแถวๆนี้ก่อน 15.00 น. นะคะ เพราะหลังจากนี้จะเป็นเวลาพี่ช้างเขาออกหากิน จะมีป้ายเตือนบอกเป็นระยะๆไว้ค่ะ 

     

    วิวข้างทางนึกว่าอยู่ทุ่งหญ้าสะวันนา สวยไปอีกแบบ แต่แดดก็แรงใช่ย่อย ที่สำคัญเริ่มพากันหิวแล้วค่ะ 555 เพราะฝั่งทางน้ำตกไม่มีร้านค้าให้พักนะคะ ผู้เดินทางควรเตรียมของกินติดตัวมาด้วย เดี๋ยวจะหิวจนเป็นลมเอา ด้วยความห่วงใยค่ะ :)

    กลั้นใจเดินด้วยความสนุกหรรษา (หรือเปล่า 555) ...

     

    ก็ถึงแล้วค่ะ ผาหล่มสักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! ความรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เพราะสุดท้ายก็จะได้นั่งพักกินของอร่อยๆแล้ววว เย้!

     

     หลังจากกินข้าวกินของหวานเสร็จก็ไปหาที่ดูพระอาทิตย์ตก ซึ่งมุมมหาชนคนเยอะมากกกกกกกกกกกกก แอบถ่ายได้รูปเดียว 555 ใครมาไม่ถึงผาหล่มสัก ก็เหมือนไม่ได้มาถึงภูกระดึงเลยล่ะค่ะ ^^

     

    เอมเลยขอมานั่งดูตรงผาตรงนี้ แล้วนี่คือภาพที่เห็นค่ะ 

    แท่นแท๊นนนนนนนนน

    วิวจริงๆสวยมากค่ะ มองเห็นยอดภูเรือด้วย... อยากหยุดเวลา 5555

     

    หลังจากมองวิว สูดอากาศบริสุทธิ์รอ …สุดท้ายแล้วก็ไม่เห็นพระอาทิตย์ตกนะคะเพราะเมฆเยอะมาก 5555 แอบผิดหวังเพราะปีที่แล้วเห็นพระอาทิตย์ตกสวยมากกก ยิ่งท้องฟ้าหลังจากนั้นสวยจนเกินบรรยายมากค่ะ ^^ 

     

    เดินทางกลับ เริ่มมืดแล้วค่ะ อากาศเย็นลงเรื่อยๆค่ะ

     

    เดินมาถึงผาเหยียบเมฆ แวะเติมพลัง เย้! มันเผากับอากาศเย็นๆ  ช่างโรแมนติกแท้ (หราา 555) กินไปได้คำเดียว ก็หลุดมือค่ะ หัวละ 40 บาทเลยนะ รู้มั้ยยย TT

     

    เดินทางกลับแบบมืดๆ ท้องฟ้ายามค่ำคืน… ไฟฉายจึงจำเป็นมากๆค่ะ

    เป็นคืนที่เมฆเยอะมากค่ะ เห็นดวงจันทร์แว๊บๆ

     

    ซึ่งกว่าถึงที่พักก็สามทุ่มค่ะ พอถึงที่พักก็งีบหลับยาวจนลืมกินข้าวเย็นกันเลยล่ะค่ะ 5555

    จบแล้ววันที่ 26 เดี๋ยวต่อวันที่ 27 ที่โพสต์ต่อไปค่ะ ^^

    # สำหรับคนที่สนใจเดินไปทางผาต่างๆเพื่อที่จะไปผาหล่มสักจะได้บรรยากาศแตกต่างกันไปค่ะ สวยไปอีกแบบสไลต์ผาๆ 5555 จะเห็นต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงเยอะมากเลยล่ะค่ะ ^^ แต่แดดจะแรงหน่อย เพราะเราเดินไปตามริมผา เอมชอบสุดคือผาเหยียบเมฆค่ะ เหมือนเมฆลอยอยู่ใต้เท้าเราจริงๆ ต้องลองไปดูค่ะ :D ตามผาต่างๆจะมีร้านค้าให้พักทานข้าวด้วยนะคะ แต่ทางน้ำตกไม่มีค่ะ 

    #ภูกระดึงแต่ละฤดูจะสวยแตกต่างกันไปนะคะ ถึงวันนี้จะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น-ตก แต่ก็ให้ความรู้สึกสวยไปอีกแบบ มาแต่ละครั้ง ไม่เหมือนกันสักครั้ง 5555 ถ้าจะให้ดีเช็คสภาพอากาศมาก่อนเดินทางค่ะ

    #การสื่อสาร ช่วงที่เอมไป โทรศัพท์ดีแทคไม่ค่อยมีสัญญาณค่ะ โทรได้เฉพาะตามผาต่างๆ ^^ อากาศเย็น แบตจะหมดเร็วมาก หาที่ชาร์จสำรองมาด้วยก็จะดี แต่ที่นี่มีบริการชาร์จแบตด้วยค่ะ ครั้งละ 20 บาท สำหรับโทรศัพท์และกล้อง หรือชาร์จตามร้านอาหารก็ได้ค่ะ ^^

     

    • Posts-3
    Athita •  January 06 , 2016

    27/12/58 ลากลับแล้วนะ ภูกระดึง <3

    วันที่ 27 ธันวาคม 2558 ตื่นเช้าไปหาของกินกันค่ะ จะลงภูกลับบ้านกันแล้วววววววววววว

    ดวงตะวันก็น่ารัก โผล่มาให้ใจชื้นกันนิดหน่อยยย :D กดชัตเตอร์กันหน้าเต็นท์เลย ^^

     

    หลังจากเก็บเสื้อผ้าที่จะฝากลูกหาบลงภู แล้วเอาไปชั่งน้ำหนักเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปหาของกินกันค่ะ พาร์ทของกิน ราคาข้าวจานละประมาณ 60-70 บาทค่ะ หมูกระทะชุดละ 300-500 บาท เอมนี่อยากกินหมูกระทะมากเลยค่ะ ได้แต่อดใจไว้ รอลงภูก่อนเถอะค่ะ จะจัดให้พุงกางเลย เพราะตอนนี้ตังค์หมดแล้ว 5555

     

    เช้าๆกินปาท่องโก๋ กับน้ำชาฟรี 5555 ชุดละ 20 บาทเองค่ะ กินๆๆ คุณป้าทำร้อนๆเลย

     

    รับกาแฟร้อนๆสักแก้วไหมคะ ^^

     

    หลังจากกินข้าว นั่งพักผ่อนกันเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเดินดูของฝาก ของที่ระลึกกันเถอะ!

     

    คิดถึงนะ ภูกระดึง <3

     

    เดินกลับที่พัก เก็บของ... ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่มาวันเดียวกับเราก็กลับพร้อมกันค่ะ 

     

    เก็บของเสร็จพร้อมแล้วก็เดินกันเลย แชะรูปต้นเมเปิ้ลที่ศูนย์นักท่องเที่ยวเก็บไว้ให้หายคิดถึงก่อนค่ะ :D

     

    เดินผ่านหลังแป..ลงมาตามซำต่างๆ จะบอกว่าขาสั่นมากค่ะ เพราะหมดแรงกับเดินทั้งสองวัน เข่ากับเท้านี่จะปวดมากๆ ควรหาไม้ค้ำเดินลงกันลื่น ด่วนๆเลยค่ะ 

     

    ควรออกกำลังกายก่อนมาด้วยนะคะ จะได้ไม่ล้ามาก วันที่เอมลงเป็นวันที่คนลงมาเยอะมากๆ และคนขึ้นมาก็เยอะมากๆค่ะ เวลาขึ้น-ลง ก็ต้องระมัดระวังตัวเอง ช่วยเหลือคนอื่น และมีน้ำใจกันมากๆค่ะ ^_^ 

     

    พักเหนื่อยด้วยหวานเย็นสักถ้วยค่ะ ชื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนใจ :D

     

    วิวธรรมชาติข้างทางค่ะ  สังเกตว่าจะมีดอกไม้สีม่วงเยอะมากค่ะ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ? ว่าทำไมถึงมีดอกไม้ออกสีม่วงๆเยอะ :))

     

     

    มุมเงยเราก็ไม่พลาดค่ะ

     

    เดินต่อไป..

     

    โอ้แม่สาวน้อยยย 555 ผีเสื้อตัวนี้มันน่ารักมากเลยค่ะ เปลี่ยนมุมให้กล้องตลอดเลยยย ^^

    .

    .

    .

    จนสุดท้าย ก็ถึงแล้วค่ะ เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ! อยากจะก้มกราบพื้น 55555 ดีใจหลายยยยย

     

    จากนั้นก็เดินทางกลับกันด้วยรถแดงไปยังที่รอรถขอนแก่น-เมืองเลย ซึ่งตอนกลับประมาณบ่ายสาม รถคนเต็มมากๆค่ะ  แต่มีพี่ผู้ชายใจดีลุกให้นั่ง ^^ ฝากขอบคุณไป ณ ที่นี้ด้วยนะคะ  :D ถึงขอนแก่นก็ต่อรถไปอุบลเลย เป็นอันว่าจบทริปค่ะ ^^

    สำหรับทริปนี้ ถือเป็นการออกกำลังกายครั้งยิ่งใหญ่ในรอบปี 555 เดินกันจนเหมือนสมองไม่ได้สั่งให้เดิน แต่ขามันเดินไปเอง เเต่ก็คุ้มค่าสุดๆค่ะ ตลอดเส้นทางมีทั้งเสียงบ่น เสียงหัวเราะ ถึงจะเหนื่อยทุกคนก็ยังมีรอยยิ้มให้กัน เเละมีน้ำใจมอบให้กันและกัน เเม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม คงเป็นเพราะเรากำลังเผชิญกับความรู้สึกเดียวกันเลยเข้าใจกันดีมั้งคะ 5555 ซึ่งหาสถานที่ที่จะได้ความรู้สึกแบบนี้ยากนะคะ ประทับใจมากจริงๆ <3

    สุดท้าย อยากฝากให้นักท่องเที่ยว ช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่ให้ลูกหลานเราได้ดูกันนะคะ ทำง่ายๆแค่ไม่ทิ้งเศษขยะ เศษพลาสติกตามที่ต่างๆ และไม่ทำลายต้นไม้ใบหญ้า นั่นเองค่ะ :)

    ขอขอบคุณผู้ร่วมทริปทั้งสองคนที่น่ารักมากๆ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณคำติชมต่างๆ และหวังว่าการรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์... แล้วอย่าลืมมาเที่ยวภูกระดึงกันเยอะๆนะคะ ^_^

     

     

    • Posts-4
    Adulvit •  January 07, 2016
    • Strong point:
    • Weak point:
    • Conclusion:
    Score
    • Athita  อดุลวิทย์เล่นด้วยเหรอออออออออออออ 07 January 2016 11:56:50
    • Posts-5
    Labschool •  January 07, 2016
    • Strong point:
    • Weak point:
    • Conclusion:
    Score
    • Posts-6
    Somchai •  February 26, 2016
    • Strong point:
    • Weak point:
    • Conclusion:
    Score