Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
เที่ยวข้ามภาค จากอีสานสู่ล้านนา อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (Phu Kradueng National Park) จ.เลย
    • Posts-1
    Paipasu •  November 19 , 2017

    สวัสดีครับ ผมนี่ห่างหายจากการท่องเที่ยวไปเกือบปี สำหรับทริปๆ นี้เกิดจากผมอยากทดสอบสภาพร่างกายหลังจากลดน้ำหนักลงมาได้ 45 kg. จาก 120 kg. เหลือ 75 kg.ครับ ผมปั่นจักรยานวันละ 60 km. แบ่งเป็นเช้า 30 km. เย็น 30 km. แล้วก็ซิตอัพกับสควอชอย่างละ 3 เซ็ต  เซ็ตละ 100 ครั้ง หลังๆก็เปลี่ยนจากปั่นจักรยานมาเป็นวิ่งรอบสนาม 10 รอบ ฝนมันตกปั่นจักรยานไปไกลๆแล้วกลับบ้านไม่ทัน  เมื่อก่อนสมัยหนัก 120 kg. ผมเคยไปขึ้นภูกระดึงมาครั้งหนึ่งแล้วครับ ตอนนั้นใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่าๆ กว่าจะถึงหลังแป ถึงแบบร่อแร่ปางตายเลยด้วย  คราวนี้มาดูกันครับว่าผมจะใช้เวลาเท่าไร 

     

    ทริปๆนี้ไม่ได้ไปถึงใจกลางภาคอีสานนะครับ เป็นการเที่ยวแถวประตูสู่ภาคอีสาน เป็นอีสานตอนบน นี่เป็นแผนที่คร่าวๆที่ผมได้ไปมาในทริปนี้

     

    วันที่ 1 (9/11/2560) ผมออกเดินทางจากบ้านประมาณเกือบๆเที่ยงครับ กะนอนที่เขาค้อสักคืนหนึ่งก่อน

     

    ระหว่างทางก็มีเมฆครึ้มๆตลอดทาง ได้แต่ภาวนาว่าฝนอย่าตกเลย มีเสื้อกันฝนนะ แต่อยู่ใต้เบาะ  ถ้าตกนี่ควักออกมาไม่ทันแน่นอน

     

    สี่โมงเย็นกว่าๆ ผมก็มาถึงเขาค้อ  ทางบางช่วงกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุง  ในภาพคือมีรถมาราดน้ำดับฝุ่น ผมก็ขับตามมาตั้งนานนึกว่ารถดับเพลิง อยู่ดีๆ น้ำก็ไหลออกมาเฉยเลย  ดีที่ทิ้งระยะห่างพอสมควร ไม่งั้นเละตั้งแต่ต้นเกม

     

    ผมมานอนที่ไปรษณีย์เขาค้อครับ พอกางเต็นท์เสร็จก็ไปตลาดนัดหาอะไรกิน เห็นตอนขับเข้ามาพอดี

     

    สักหกโมงเย็นกว่าๆ พระอาทิตย์ก็เริ่มตกครับ

     

    หลังจากพระอาทิตย์ตกผมก็มาทำอาหารเย็นกิน  มาม่ากับปลากระป๋องรสปลาร้า อยากกินมานานละ มันก็อร่อยดีนะ แต่กินไปนานๆโคตรจะเค็ม

     

    แล้วก็ได้เวลานอนครับ แต่กว่าจะนอนหลับได้นี่พักใหญ่ๆ เสียงมอเตอร์ไซค์แว้นทั้งคืน   (ข้างๆนั่นไม่ใช่รถผมนะครับ เอามาประกอบรูปเฉยๆ เห็นเท่ดี 555)

             

    ค่าใช้จ่าย
    น้ำมัน (สวรรคโลก)         110         บาท
    น้ำมัน (สำรอง)              120         บาท
    น้ำมัน (วังทอง)               60          บาท
    ปลากระป๋อง                   30          บาท
    น้ำ                               20          บาท
    แอปเปิ้ล                        20          บาท
    ค่ากางเต็นท์                   80          บาท
    รวมทั้งหมด (1วัน)        440         บาท

    • Posts-2
    Paipasu •  November 19 , 2017

    วันที่ 2 (10/11/2560)  ผมตื่นตีสี่กว่าๆ นอนไม่ค่อยหลับครับ เพราะเสียงแว้นมอเตอร์ไซค์เนี่ยแหละ แล้วก็เสียงหมาเห่า ดูทรงแล้วเป็นสิบๆตัว ช่วงนี้น่าจะฤดูผสมพันธุ์พอดี เจี๊ยวจ๊าวกันทั้งคืน

     

     

    หลังจากถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศผมก็มาเก็บของเพราะอยากจะไปให้ถึงภูกระดึงก่อนเที่ยง จะได้ขึ้นภูวันนี้เลย ขี้เกียจนอนรออีกคืน

     

    ผมเริ่มออกเดินทางจากไปรษณีย์เขาค้อหกโมงเช้า มาถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึงประมาณ 10 โมง

     

    จัดกระเป๋าสัมภาระที่จะแบกขึ้นภูครับ ตอนแรกคิดว่าไม่หนัก ผมก็ว่าผมเอามาแต่ของที่จำเป็นแล้วนะ ยังจะหนักอีกอะ ต้นเกมก็น่าจะแบกชิลๆ แต่เลทเกมนี่ไม่อยากคิด

     

    ประมาณ 10 โมงครึ่ง ติดต่อเจ้าหน้าที่เสร็จ ผมก็เตรียมลุยละครับ หลังจากนี้ไม่ถ่ายรูปละครับ เก็บกล้องเข้ากระเป๋าเลย เหลือไว้แต่โทรศัพท์มือถือ เอาไว้ฟังเพลง

     

    ผมเดินไม่เร็วมากครับ แต่เดินได้เรื่อยๆ พักจุดละ 1-2 นาทีก็เดินต่อ พักนานเดี๋ยวขี้เกียจ มาคราวนี้ผมก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียวเลย ไม่ถามคนที่ลงมาว่าอีกไกลไหมแล้วครับ เพราะมาคราวก่อนผมถามตลอดทางเลย แต่ก็ได้คำตอบเหมือนกันหมด “อีกนิดเดียวครับ/คะ” โถ่ถ่ถ่ถ่ถ่ถ่ นิดเดียวแต่ไม่ถึงสักที T T

     

    มีไอติมด้วย ผมพึ่งรู้ เป็นไอติมกระทิที่อร่อยมากกกกกกก สดชื่นนนนนนนน

     

    ในที่สุดผมก็มาถึงหลังแป คราวนี้ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่งครับ เริ่มขึ้นประมาณ 10 โมงครึ่งถึงหลังแปบ่ายสอง 

     

    ถ่ายรูปเสร็จผมก็เดินไปจุดกางเต็นท์ต่อ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที

     

    มาถึงก็รีบหาที่กางเต็นท์เลยครับ เพราะจะต้องตากผ้า ตอนขึ้นดันทะลึ่งใส่กางเกงยีนส์ เปียกเละเลย เน่าแน่นอน ตากผ้าเสร็จก็ไปหาอะไรกิน สุดแสนจะหิว ข้าวที่นี่ก็ราคาเท่าเดิม จานละ 60 บาท แต่ก็เยอะอยู่ครับ พออิ่มผมก็มานอนพักเอาแรง ตอนเย็นจะไปดูพระอาทิตย์ตก ณ ผาหมากดูก

     

    นอนเล่นเพลินไปหน่อยครับ มาแทบไม่ทัน มาถึงพระอาทิตย์ก็ริบหรี่ๆแล้ว 

     

    ก็เห็นป้ายบอกระยะทางประมาณ 2 km. แต่ผมว่ามันไกลกว่านั้นนะ ผมกะเวลาเดินไว้สักครึ่งชั่วโมง เอาเข้าจริงซัดไปสี่สิบห้าสิบนาที

     

    ตอนขาไปไม่เท่าไร ขากลับเนี่ยแหละคัรบ มืดตึบ ออกจากผาเป็นคนสุดท้ายด้วย ผมเห็นมีคนอยู่เป็นเพื่อนก็เลยนั่งเล่นไปเรื่อยๆจนมืด ที่ไหนได้ เค้าเช่าจักรยานมา โถ่ชีวิต T T ไม่เป็นไร ถือซะว่าซ้อมกลับจากผาหล่มสักพรุ่งนี้ละกัน

     

    มาถึงผมก็ไปหาข้าวกิน อาบน้ำ แล้วก็นอนนนนนนน หลับอย่างไวเลยคืนนี้ เพลียจัด

     

    ค่าใช้จ่าย
    ข้าว (7-11)                             30          บาท
    ค่ารถ+เข้า (อุทยานแห่งชาติ)      60          บาท
    ค่ากางเต็นท์ (2 คืน)                  60          บาท
    เครื่องดื่มเกลือแร่                      40          บาท
    ไอติม                                     25          บาท
    ข้าวกะเพราหมูกรอบ+ไข่ดาว        70          บาท
    น้ำ                                         50          บาท
    ข้าวกะเพราหมูสับ+ไข่ดาว           70          บาท
     รวม                                       405          บาท
       รวมทั้งหมด (2 วัน)                 845          บาท  

    • Posts-3
    Paipasu •  November 19 , 2017

    วันที่ 3 (11/11/2560)  ผมตื่นตีสี่กว่าๆ มาล้างหน้าแปรงฟันแล้วไปนั่งรอที่หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อจะไปผานกแอ่น ตอนนั่งรอเจ้าหน้าที่นำทางเจอเพื่อนเก่าด้วยครับ ชื่อทาก สนิทกัน (ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยยยยย)

     

    ฟ้าครึ้มมาเชียว

     

    ในที่สุดพระอาทิตย์ก็มา นึกว่าจะได้บรรยากาศอึมครึมซะแล้ว

     

    แดดออกก็เริ่มร้อนละครับ

     

    แดดออกก็เริ่มร้อนละครับ

     

    สักเจ็ดโมงกว่าๆผมก็เดินกลับเต็นท์ละ หิวข้าวววว กินข้าวเสร็จผมก็เอาผ้าไปซักครับ เอาเสื้อผ้ามาชุดเดียว กะว่าจะได้แบกของเบาๆ แต่มันก็ไปหนักอย่างอื่นแทนซะงั้น  พอซักผ้าเสร็จผมก็ไม่ได้ไปไหนต่อละครับ รอไปผาหล่มสักทีเดียวเลย จุดอื่นๆครั้งที่มาคราวก่อนก็ไปมาหมดแล้ว แถมใบเมเปิ้ลยังไม่แดงด้วย เลยเก็บแรงไว้เดินตอนเย็นดีกว่า

     

    ผมพกหนังสือมา (น่าจะหนักเจ้านี่ด้วยแหละ) เลยนั่งอ่านไปเรื่อยจนบ่ายสองผมก็ออกเดินไปผาหล่มสักครับ เลาะไปทางหน้าผา คราวก่อนผมเช่าจักรยาน คราวนี้อยากลองเดินดูบ้าง

     

    เดินกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ สี่โมงครึ่งก็มาถึงผาหล่มสัก ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง เคว้งเลย มาถึงไวเกินไป กะมาถึงสัก 5 โมงครึ่ง จะนอนรอก็กลัวหลับยาวเดี๋ยวตื่นมาอีกทีมืด คนหายเกลี้ยง

     

    นั่งรอครับ ง่วงสุดๆ และเมฆก็มาอีกแล้วววววววว

     

    และแล้วพระอาทิตย์ก็โผล่มาครับผม

     

    แต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่ต่... มันมาอีกแล้ววววววว ครึ้มมาเชียว พระอาทิตย์โผล่มาให้ดีใจเล่นๆแป๊บเดียวเอง แล้วก็มุดเมฆหายวับไปกับตา สะเทือนใจมากอะ เดินมาอย่างไกล แต่ไม่เป็นไรครับ คิดซะว่ามาออกกำลังกาย หลังจากพระอาทิตย์มุดเมฆไป คนก็เริ่มทยอยกลับกัน แต่ผมนั่งรอต่อกะว่าอาจจะมีฟ้าระเบิด รอไงก็ไม่ระเบิด มืดตึบเลย

     

    สักหกโมงสิบห้าผมก็เดินกลับละครับ รีบเดินจ้ำๆกลับอย่างเดียวเลย กลัวน่ะไม่กลัวหรอกครับ บรรยากาศมันแสนจะดี เห็นทั้งดาวบนฟ้าดาวบนดิน อากาศเย็นสบาย เพลินดี แต่มันหิวข้าวครับ อารมณ์ตอนนั้นอยากกินข้าวไข่เจียวหมูสับ ผมเดินกลับ  2 ชั่วโมง ตอนเดินนี่ภาพข้าวไข่เจียวอยู่ในหัวตลอดเลย เป็นแรงขับเคลื่อนชั้นยอด จะกินระหว่างทางก็เดี๋ยวจุก พอผมมาถึงจุดกางเต็นท์ก็รีบตรงไปร้านข้าวสั่งข้าวไข่เจียวหมูสับกินให้หายอยาก  แล้วก็กลับมาอาบน้ำนอนนนนนนน

     

    ค่าใช้จ่าย
    ข้าวกะเพราหมูกรอบ+ไข่ดาว     70          บาท
    ปาท่องโก๋                             20          บาท
    น้ำ (2 ขวด)                         100          บาท
    ข้าวไข่เจียวหมูสับ (2 จาน)      120          บาท
    เครื่องดื่มเกลือแร่                    40          บาท
    รวม                                    350          บาท
    รวมทั้งหมด (3 วัน)          1,195          บาท

    • Posts-4
    Paipasu •  November 19 , 2017

    วันที่ 4 (12/11/2560)  ผมตื่นตีสี่ครึ่งล้างหน้าแปรงฟันเตรียมไปผานกแอ่น ตอนแรกกะไม่ไปแล้วแต่ดันตื่นเลยไปก็ไป

     

    มันช่างจ้าซะเหลือเกิน วันนี้ฟ้าเปิดครับ แต่เปิดจัดไปหน่อย เล่นซะร้อนเลย

    หลังจากนั้นผมก็กลับมากินข้าวเก็บของเก็บเต็นท์ แล้วออกเดินทางลงครับ ผมเดินไปทางผาหมากดูกแล้วอ้อมไปทางหลังแป อยากลองเดินไปทางนี้ดู ไม่มีคนเลย มีผมคนเดียว  ตอนที่อยู่บนภูเวลาเดินไปที่ต่างๆ ผมก็ไล่เดินเก็บขยะไปเรื่อยๆ แรกๆก็ถุงเล็กๆ แต่ยิ่งเก็บมันยิ่งเจอ เจอแล้วไม่เก็บมันรู้สึกอึดอัดใจ อันไหนเก็บได้ก็เก็บครับ

    ขาลงใช้เวลาลงประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ช้ากว่าขาขึ้นอีก มันก้าวขาไม่ออกแล้วอะครับ T T ไหนจะของ ไหนจะขยะที่เอาลงมาทิ้ง เก็บจนได้ถุงดำใหญ่ๆใบหนึ่ง เอามาชั่งข้างล่างซัดไป 3 kg. เล่นซะล้าเลย คนถามกันตลอดทาง “ขาเจ็บหรอพี่” ผมก็บอก “เปล่าครับ มันก้าวขาไม่ออกเฉยๆ” T T ขานี่สั่นเชียว

     

    พอลงมาถึงที่ทำการอุทยานผมก็อาบน้ำเลยครับ เละเทะทั้งตัว เหงื่อโชก ปวดเท้าด้วย ตอนแรกกะไปเชียงคานต่อ ไปเดินเล่นถนนคนเดิน แต่ดูสภาพแล้วไม่น่าเดินไว้ เลยตัดสินใจกลับไปทางเพชรบูรณ์ดีกว่า ไปนอนแถวนั้นคืนหนึ่ง แล้วก็กลับบ้าน จริงๆกะไปนอนภูทับเบิก แต่ตอนมาถึงทางแยกภูทับเบิกมันเย็นๆ ใกล้มืดแล้ว เลยไม่ไปดีกว่า มันต้องขึ้นเขา เลยไปนอนที่เดิม ไปรษณีย์เขาค้อ ผมก็นึกว่ามันใกล้ๆ อย่างไกลอะ มาถึงซะมืดเลย มาถึงก็กางเต็นท์ กินข้าว อาบน้ำนอนนนนนนนน รีเจนท์ตัวเอง พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านนนน

     

    ค่าใช้จ่าย
    ข้าวกะเพราหมูกรอบ+ไข่ดาว      70          บาท
    ปาท่องโก๋                              20          บาท
    ไอติม                                   25          บาท
    เครื่องดื่มเกลือแร่                     40          บาท
    น้ำมัน (ภูกระดึง)                     60          บาท
    น้ำมัน (สำรอง)                     150          บาท
    น้ำ                                      20          บาท
    ไส้กรอก                               40          บาท
    ส้มตำ                                   40          บาท
    ค่ากางเต็นท์                          80          บาท
    รวม                                    545         บาท
    รวมทั้งหมด (4 วัน)          1,740         บาท

    • Posts-5
    Paipasu •  November 19 , 2017

     

    วันที่ 5 (13/11/2560) ผมตื่นประมาณตี 5 นอนตั้งแต่ทุ่มสองทุ่ม เพลียจัด แต่มันนอนไม่ค่อยหลับหรอกครับ เหมือนเดิม ทั้งเสียงแว้นรถทั้งเสียงหมาเห่า แต่มันก็ลืมตาไม่ขึ้น ตัวมันอ่อนไปหมด

     

    เช้านี้มีหมอกครับ ผมมาเขาค้อตั้งหลายครั้ง พึ่งเจอทะเลหมอกครั้งนี้ครั้งแรกเนี่ยแหละ รู้งี้ไปนอนทับเบิกดีกว่า แต่ที่นี่ก็สวยดีครับ

     

    ตอนแรกผมกะกลับบ้านแล้วละครับ สภาพร่างกายเมื่อวานี่อย่างน่วม แต่พอนอนไปได้คืนหนึ่ง อากาศมันก็ดีขึ้นเยอะ เมื่อคืนยังเดินกะเผลกๆอยู่เลย ตื่นมาหายละ เลยตัดสินใจขึ้นภาคเหนือต่อดีกว่า อากาศกำลังหนาว ถ้าไปหลังจากนี้ช่วงอากาศหนาวจัดๆหรือช่วงดอกพญาเสือโคร่งบานคนจะเยอะ ว่าแล้วก็แวะปั๊มเอาเสื้อผ้าไปซัก แล้วก็เอามามัดไว้บนรถครับ กะว่าขับไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็แห้ง แต่เวลาติดไฟแดงมันก็จะอายนิดหนึ่ง 555+ (รูปนี้ถ่ายตอนแรกนะครับ พอถ่ายเสร็จผมก็จัดการย้ายผ้าที่มันห้อยๆไปไว้ที่อื่น ดูให้มันไม่ไปพันล้อรถแล้วค่อยออกเดินทางต่อ)

     

    คืนนี้แวะนอนที่อุทยานแห่งชาติขุนสถานครับ ตอนแรกกะไปดอยเสมอดาว แต่ง่วงเลยนอนที่นี่ละกัน กางเต็นท์เสร็จ กินข้าวอาบน้ำนอนละครับ เดินทางทั้งวัน ที่นี่มีที่ให้ชาร์จแบตเตอร์รี่สองที่ครับ คือหน้าโรงครัวกับในกองอำนวยการ ส่วนค่ากางเต็นท์แล้วแต่เราจะให้

     

    ค่าใช้จ่าย
    ข้าวกะเพราหมูสับ+ไข่ดาว          45          บาท
    น้ำมัน (วังทอง)                        45          บาท
    น้ำมัน (สำรอง)                       150          บาท
    ไส้กรอก                                 40          บาท
    น้ำ                                        20          บาท
    น้ำมัน (อุตรดิตถ์)                      70          บาท
     น้ำมัน (แพร่)                            60          บาท  
    ค่ากางเต็นท์                            50          บาท
    เครื่องดื่มเกลือแร่                      10          บาท
    รวม                                      490         บาท
    รวมทั้งหมด (5 วัน)            2,230         บาท

    • Posts-6
    Paipasu •  November 19 , 2017

    วันที่ 6 (14/11/2560) ผมตื่นมาตีห้าครึ่ง อากาศหนาวนิดหน่อยไม่หนาวมาก

     

    และแล้วพระอาทิตย์ก็มาครับ อากาศก็เริ่มอุ่นขึ้นๆ ปีแล้วผมมาเจอเมฆฝนเต็มๆ เลยกะมาแก้ตัวซะหน่อย

    หลังจากนั้นก็มานั่งคิดต่อว่าจะไปไหนดี เมื่อคืนคิดว่าจะไปภูชี้ฟ้า เพราะคราวก่อนมาเจอพายุ หมอกฟุ้งกระจาย เลยอยากไปใหม่ แต่ภูชี้ฟ้ามันต้องเดินขึ้นไปอีก 700 m. ผมเลยเปลี่ยนแผนดีกว่า สภาพร่างกายยังไม่ 100% ขาเดินขึ้นไม่เท่าไร ขาลงนี่แหละปัญหา  แล้วผมก็เบนทิศไปเชียงใหม่ ไปดอยอ่างขางดีกว่า ผมไปตามทางท่กูเกิ้ลแม็พมันบอก มันพาไปตามหมู่บ้านอย่างงงเลย

     

    และแล้วผมก็มาถึงทางขึ้นดอยอ่างขางครับ พอมาถึงดันเจอป้ายว่าห้ามผ่าน ทางทรุด น้ำตาแทบร่วงงงงง จะไปนอนไหนนิ เลยไปถามชาวบ้านว่าเค้าห้ามขึ้นหรอครับ ชาวบ้านเค้าบอกว่ามอเตอร์ไซค์ไปได้ โล่งเลยยยยยยยย นึกว่าต้องอ้อมไปอีกทางหนึ่งซะแล้ว

     

    และแล้วก็ขึ้นมาถึงจุดกางเต็นท์ของค่ายทหารครับ เปลี่ยนไปเยอะ ปรับปรุงซะหรูเลย

     

    ตอนกำลังติดต่อกางเต็นท์มีรถมาขายกับข้าวพอดีครับ เลยซื้อแคบหมูมากินกับมาม่าซะหน่อย การติดต่อกางเต็นท์ที่นี่เราก็ไปลงทะเบียนกับทหารที่ร้านค้า แล้ววางบัตรประชาชนไว้ครับ

     

    ขาตั้งกล้องครับ เอามาเป็นที่คว่ำจานซะเลย 555+ ช่วงนี้ดอยอ่างขางกำลังปรับปรุง  ร้านอาหารอาจจะน้อยนิดหนึ่ง

     

    เพื่อนใหม่ครับผม ^^

     

    บรรยากาศช่วงเย็นที่จุดกางเต็นท์ครับ

     

    ข้างหลังนั่นคือร้านขายของของทางค่ายทหารครับ อย่างกับร้านกาแฟ มีจุดให้ชาร์จแบตเตอร์รี่ด้วยนะครับ

     

    ค่าใช้จ่าย
    น้ำมัน (แพร่)                     80          บาท
    ข้าวกะเพราหมูสับ+ไข่ดาว    50          บาท
    น้ำมัน (พะเยา)                  80          บาท
    เครื่องดื่มเกลือแร่               10          บาท
    น้ำ                                  20          บาท
    มาม่า+ไข่                        40          บาท
    แคบหมู                           10          บาท
    รวม                               290         บาท
    รวมทั้งหมด (6 วัน)     2,520         บาท

    • Posts-7
    Paipasu •  November 19 , 2017

    วันที่ 7 (15/11/2560) ผมตื่นมาตีสี่ ตื่นเพราะเสียงหมาเห่าเนี่ยแหละครับ มันอยู่บนเขาอะ เห่าทีนี่เสียงสะท้อนอย่างก้อง เลยออกมาดูดาวเล่น แต่ไม่มีหรอกครับ เมฆเยอะจัด ได้แต่รอให้พระอาทิตย์ขึ้นมา

     

    เมฆเยอะไปหน่อย แต่ก็พอได้เห็นแสงอาทิตย์ยามเช้านิดหนึ่ง

     

    แสงอาทิตย์มาแล้วครับ ค่อยอุ่นหน่อย เมื่อคืนนี่อย่างหนาวเลย น้ำค้างแรงด้วย

     

    นั่นคือจุดชมวิวม่อนสนครับ เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ ดอยอ่างขางอะ  ตรงจุดชมวิวม่อนสนมีเพิ่มศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านกาแฟด้วยครับ

    สักเก้าโมงผมก็ออกเดินทางต่อ วันนี้จะไปนอนที่ปาย ไปเดินถนนคนเดิน สภาพร่างกายเริ่มโอเคละ ผมลงจากดอยอ่างขางทางเส้น อ.เชียงดาว ผ่านบ้านอรุโณทัย ผมว่าบรรยากาศเส้นทางนี้ดีนะ ไม่ชันมากด้วย แค่มันไกลกว่าแล้วก็ทางแคบเพราะมันเป็นเส้นผ่านหมู่บ้าน ก็ถือซะว่าขับรถเล่นกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ผมไม่ได้จอดรถถ่ายรูปนะครับ เพราะทางมันแคบรถวิ่งสวนตลอด

     

    ผมมาถึงปายบ่ายสองกว่าๆ ก็หาอะไรกินก่อนแล้วไปกางเต็นท์นอนที่ปายริเวอร์แคมป์ ผมมากางที่นี่ทุกครั้งครับ เจ้าของใจดีเป็นกันเองสุดๆ เสร็จแล้วผมก็นอนพักแป๊บหนึ่งแล้วก็ไปที่สะพานบุญโขกู้โส่ที่หมู่บ้านแพมบก

     

    ปีแล้วมาเจอช่วงเกี่ยวข้าวไปแล้ว ปีนี้ก็เหมือนเดิมครับ 555+

     

    ผมออกจากสะพานบุญประมาณหกโมงกว่าๆ ไปหาอะไรกินที่ถนนคนเดินต่อ

     

    นี่ผมอยู่เมืองไทยหรือแถวยุโรปเนี่ย ฝรั่งล้วนๆ เห็นหน้าตาเอเชียๆหน่อยก็เป็นคนจีนซะงั้น แต่ละคนนี่ตัวอย่างสูง ผมนึกว่าตัวเองเป็นเผ่าคนแคระหรือไม่ก็ฮ็อบบิท 

     

    เดินวนไปวนมา กินโน้นกินนี่ไปเรื่อยๆ จนสามทุ่มกว่าๆก็กลับมานอนละครับ

     

    ค่าใช้จ่าย
    น้ำมัน (ปาย)                        100          บาท
    ขนมปังปิ้ง                            10          บาท
    ห้องน้ำ                                20          บาท
    ข้าวกะเพราหมูกรอบ+ไข่ดาว    40          บาท
    ข้าวเหนียว+ส้มตำ                  40          บาท
    ไส้กรอก                              20          บาท
    ผัดหมี่                                 10          บาท
    เบคอน                                20          บาท
    ค่ากางเต็นท์                       100          บาท
    รวม                                   360          บาท
    รวมทั้งหมด (7 วัน)         2,880          บาท

    • Posts-8
    Paipasu •  November 19 , 2017

    วันที่ 8 (16/11/2560) เมื่อคืนอากาศดีมากครับ ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป ผมตื่นเช้ามาตีห้าครึ่งล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ออกไปจุดชมวิวหยุนไหลครับ แต่ว่าวันนี้หมอกลงฟุ้งเลย

     

    จริงๆถ้าตามกำหนดการที่ผมคิดไว้คร่าวๆ วันนี้ผมกะไปปางอุ๋งครับ แต่แต่พอดีมีงานด่วนวันที่ 18 เลยต้องเปลี่ยนแผน เดี๋ยวกลับไม่ทัน ผมออกจากปายประมาณเก้าโมงกว่า มาถึงเชียงใหม่สักเที่ยงๆ พักกินข้าว ตอนแรกจะกลับบ้านเลย แต่มันเพลียๆ อีกเกือบ 300 km. กว่าจะถึงบ้าน เลยกะนอนที่เชียงใหม่อีกคืน แต่จะนอนในตัวเมืองเชียงใหม่ก็วุ่นวาย ผมเลยไปดอยอินทนนท์ซะเลย 555+ ไม่ถึง 100 km. ยังไงก็ดีว่า 300 km.

     

    พอมาถึงดอยอินทนนท์ก็ขึ้นไปเที่ยวข้างบนยอดดอยซะหน่อย เผื่อพรุ่งนี่รีบกลับ เดี๋ยวไม่มีเวลาขึ้นมา บนยอดดอยอากาศหนาวมาก ประมาณ 12 ํC

     

    ขาลงก็จอดถ่ายรูปตามจุดชมวิวต่างๆก่อนครับ

     

    ณ จุดชมวิว กม.42 มาทีไรไม่เคยเจอแสงสวยๆเลย คราวนี้โชคดีแฮะ

     

    พอฟ้าเริ่มมืดผมก็กลับมาจุดกางเต็นท์ละครับ หิวข้าว อยากกินไข่ดาว กลับมาทอดไข่กินกับมาม่ารสกะเพราซะหน่อย

     

    ค่าใช้จ่าย
    ค่าเข้าหยุนไหล               20         บาท
    แคบหมู+มาม่า+ไข่          20         บาท
    น้ำ                               20         บาท
    น้ำมัน (เชียงใหม่)          130         บาท
    น้ำมัน (สำรอง)              160         บาท
    ข้าว+โค้ก                      70         บาท
    มาม่า+ไข่                      50         บาท
    น้ำมัน (จอมทอง)             50         บาท
    ค่าเข้า+กางเต็นท์          100         บาท
    แคบหมู                         20         บาท
    รวม                             640         บาท
    รวมทั้งหมด (8 วัน)   3,520         บาท

    • Posts-9
    Paipasu •  November 19 , 2017

    วันที่ 9 (17/11/2560) ผมตื่นมาตีห้ากว่า ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวไปจุดชมวิว กม. 42 ครับ มาหลายครั้งแต่เจอเมฆครึ้มตลอด วันนี้ลองไปวัดดวงอีกรอบ

     

    ผมมาถึงคนแรก มาตั้งแต่มืดๆ เห็นฟ้าครึ้มๆ ก็หวั่นๆว่าจะพลาดอีกไหม ผมก็นั่งรอจนพระอาทิตย์เริ่มขึ้น ก็โล่งใจครับ ฟ้าไม่ปิดซะทีเดียว

     

    สักพักนักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็เริ่มมาละครับ

     

    พระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาเต็มดวงแล้วละครับผม

     

    หลังจากนั้นผมก็ขึ้นไปแถวกิ่วแม่ปานครับ แต่ไม่ได้เข้าไปนะ ผมอยากกินไส้อั่วเฉยๆ จำได้ว่าอร่อย เลยไปซื้อไว้กินมื้อเช้า แล้วก็ต้องรีบกลับแล้วด้วย

     

    เอามาอุ่นสักนิด กินกับมาม่าต้มยำกุ้ง ซดน้ำต้มยำร้อนๆ เผ็ดๆ เช้าๆ อากาศหนาวๆ ฟินขอรับบบบบ

     

    ไอ้สองงงงงง ให้พี่กินสะดวกเหอะ 555+ หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จผมเก็บของออกเดินทางกลับละครับ บ้านผมอยู่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ผมใช้เส้นทางผ่าน อ.บ้านโฮ่ง อ.ลี้ อ.เถิน อ.ทุ่งเสลี่ยม ระยะทางประมาณ 270 km. ทางช่วง อ.ลี้ ถึง อ.เถิน นี่อย่างมันเลยครับ นึกว่าอยู่แม่ฮ่องสอน 555+ แต่รถบรรทุกเยอะไปหน่อย

     

    ค่าใช้จ่าย
    ไส้อั่ว                              50          บาท
    ข้าวขาหมู+ส้มตำ              65           บาท
    รวม                               115          บาท
    รวมทั้งหมด (9 วัน)     3,635          บาท

    • Posts-10
    Paipasu •  November 19 , 2017

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    ธรรมชาติที่สวยงามจะอยู่กับเราไปอีกนานถ้าเราช่วยกันดูแลรักษาครับ เห็นเดี๋ยวนี้ตามอุทยานแห่งชาติมีการแบ่งประเภทขยะด้วย อันนี้เยี่ยมเลยครับ คนละไม้คนละมือ เพื่อธรรมชาติที่ยังเหลืออยู่ ผมเห็นทุกสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมักจะมีขยะเรี่ยราดเต็มไปหมด ผมก็พยายามคิดในแง่บวกว่าเค้าอาจจะมาตอนมืดๆแล้วมันหล่นก็เป็นไปได้ 555+ สุดท้ายผมก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพตอนบ่ายสามกว่าๆ หน้าไหม้เลยครับทริปนี้ ลืมเอาผ้าคลุมหน้าไปด้วย 555+ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาโดยตลอดครับผม ^^ ขอบคุณครับบบบบบบ...

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

  1. View more