พ า ร่ า ง ก า ย ไ ป ช า ร์ ต แ บ ต + ฟ อ ก ป อ ด ที่ " คี รี ว ง "
KIRIWONG VILLAGE'S THE BEST,PUREST "O Z O N E" IN THAILAND
ว่างๆ เบื่อๆ ตาจะปิด ง่วงนอน ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยมานั่งเขียนรีวิวเที่ยว "หมู่บ้านคีรีวง" แก้ง่วงดีกว่า
ตอนแรกว่าจะไม่เขียนรีวิวฉบับนี้แล้ว เพราะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าทริปผ่านๆมา แต่อีกใจก็นะอยากเก็บบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวของตัวเองไว้ด้วย เลยเปลี่ยนใจมาเขียนรีวิวบันทึกการเดินทางดีกว่า
ทุกวันนี้พี่ๆที่บริษัทมักจะมาถามเป็นประจำว่า “หยุดเสาร์อาทิตย์นี้มีแพลนไปเที่ยวไหนอีก?” คือถูกถามคำถามนี้แทบบบบบบบบบบจะทุกอาทิตย์เลย พอไปเที่ยวละคล้ำแดดกลับมาก็ โดนแซวทุกวันจนกว่าหายคล้ำแดด 555+ เอาที่พี่ๆสบายใจนะ อิอิ
การเดินทางสู่บ้านคีรีวงในครั้งนี้นั้นเริ่มต้นจากที่เคยแพลนว่าจะไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ อีกทั้งตั๋วเครื่องบินก็แพงเอาการอยู่ ดังนั้นจึงพับทริปคีรีวงใส่ในลิสต์ไว้ก่อน ถ้ารู้ว่าจะไปปีนี้นะ แม่งจองตั๋วเครื่องล่วงหน้าตั้งแต่ปีที่แล้วละ 555+ แต่ก็ไม่ทันละ มาจองเอาล่วงหน้าอาทิตย์เดียวออกก่อนเดินทาง ของถูกไม่ชอบ ก็จ่ายแพงไป ครั้งนี้บินกับสายการบิน Lion Air ในราคาที่ไม่ถูก แต่ก็ไม่แพงจนเกินไป รายละเอียดค่าเสียหายต่างๆไว้ท้ายรีวิวละกัน
บางคนอาจจะสงสัยว่าบินในประเทศจะใช้ Passport ทำไมนะ คืองี้คับทุกอย่างมันมีเหตุหล 555+ พอดีบัตรประชาชนเพิ่งจะหมดอายุก่อนไปคีรีวง เลยไม่มั่นใจว่าบัตรหมดอายุมันยังใช้งานได้อยู่ไหม ซึ่งไม่เสี่ยงดีกว่า เผื่อเอาไปแล้วใช้ไม่ได้ ก็อดเลยนะ ดังนั้นเลยเอาพาสปอร์ตไปใช้งานแทนละกัน กันดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วจะแก้ไม่ทันนะเห้ย พาสปอร์ตเองก็จะหมดอายุปีหน้าละ ต้องรีบๆกาที่เที่ยวต่างประเทศละ อิอิ เดือนกรกฎามีทริปไปCebu, Philippines ตื่นเต้นมาก เพราะเดินทางไปคนเดียวในประเทศที่หลายๆคนมองว่าไม่ปลอดภัย มันก็อันตรายทุกที่แหละครับ ไปไหนก็ต้องเซฟตัวเองเสมอ เอ่านอกเรื่องละๆ 555+พอนั่งเครื่องมาถึงสนนามบินเมืองคอน เรียกชื่อถูกไหมนะ ถ้าผิดก็ขอโทษด้วยนะครับ ชื่จังหวัดนครศรีธรรมราชคือยาวววววเกินไปจริงๆ อิอิ ถึงสนามบินแล้วก็ต้องต่อแท็กซี่200บาทเข้าไปในเมือง เพื่อไปต่อรถสองแถว25บาทเข้าบ้านคีรีวง จากสนามบินไปคีรีวงใช้เวลาไม่นานมาก นั่งชมวิวไปแป๊บๆก็ถึงคีรีวงละ
นั่นทางไปคีรีวงครับ รูปนี้ถ่ายระหว่างขากลับจากคีรีวง เห็นธรรมชาตเขียวขจีแล้วมันสดชื่นมากๆ ใจจริงอยากลงไปถ่ายรูปกลางถนนเลยนะ ก็ได้แต่คิดแล้วก็เลยผ่านไปปปปปปป
วิวทิวทัศน์ระหว่างทางตั้งแต่ปากทางเข้าคีรีวงนี่คือแบบมันดีต่อใจมาก หันไปทางไหนก็เขียววววววววววว อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม พูดเว่อร์ไปไหม ก็ไม่นะ มันคือความจริงที่เห็นมากับตาของตัวเอง
ทริปนี้ไม่ได้ไปกลับเสาร์-อาทิตย์ เพราะถ้าไปแค่คืนเดียวอาจจะไม่ได้ความฟินเท่าไหร่นัก เลยไปแม่ง 3วัน2คืน แต่จะไป2คืนได้ไงในเมื่อวันจันทร์ต้องทำงาน คิดสิคิด เอาไงดีๆ อยากไปก็ต้องได้ไป สุดก็ใช้กลยุทธ์ “ลาพักร้อน” นี่แหละง่ายดี จัดไปอย่าให้เสีย!! และทริปนี้ก็เช่นเคย ไม่ได้ตั้งใจจะไปคนเดียว ชวนเพื่อนแล้ว แต่ก็หาคนไปหารค่าใช้จ่ายไม่ได้ หรือไม่มีคบละวะ น่าคิดนะ!! ซึ่งก็โดนปฏิเสธด้วยเหตุผลเดิมๆตามเคยคือ “I have no money ไม่มีเงิน” การเดินทางคือการลงทุน อยากไปแต่ไม่อยากเสียเงิน ก็ไม่ไปอ่ะถูกต้องที่สุดแล้วล่ะ ไม่มีไรมากตามนั้น 555+
“บ้านคีรีวง” ยอมรับเลยว่าเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้เมื่อปีที่แล้วนี้เอง ก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย พอลองเสิร์ชกูเกิ้ลดูก็เห็นรีวิวมากมายเกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งนี้ ตอนนั้นจึงมีความรู้สึกว่า เห้ย!! น่าสนว่ะ อยากลองไปเที่ยวดูบ้างว่าหมู่บ้านอากาศดีที่สุดในประเทศไทยมันเป็นยังไง
“บ้านคีรีวง” ยอมรับเลยว่าเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้เมื่อปีที่แล้วนี้เอง ก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย พอลองเสิร์ชกูเกิ้ลดูก็เห็นรีวิวมากมายเกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งนี้ ตอนนั้นจึงมีความรู้สึกว่า เห้ย!! น่าสนว่ะ อยากลองไปเที่ยวดูบ้างว่าหมู่บ้านอากาศดีที่สุดในประเทศไทยมันเป็นยังไง
หมู่บ้านคีรีวงเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ในจัหงวัดนครศรีธรรมราช ทางภาคใต้ของประเทศไทย จุดที่น่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวของหมู่บ้านแห่งนี้คือแม่น้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้านและอากาศที่สดชื่นนนน มีทิวทัศน์ภูเขาเขียวชอุ่มที่สวยงามล้อมรอบหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ที่รู้จักกันดีในเมืองไทยกับสมญานามที่ว่า ”หมู่บ้านที่อากาศบริสุทธิ์ที่สุดในประเทศไทย” นั่นเอง
สะพานบ้านคีรีวงนับว่าเป็นแลนด์มาร์คของหมู่บ้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ เพราะเห็นว่ากันว่าใครไม่ถ่ายรูปตรงนี้ก็แสดงว่ามาไม่ถึงคีรีวง เขาว่ากันอย้่งงั้นนะ อิอินี่ไง "ส ะ พ า น บ้ า น คี รี ว ง" แลนด์มาร์คยอดนิยมของหมู่บ้าง ดูให้เต็มๆตาไปเลยยยยย 555+ รูปนี้ถ่ายตอนเช้าวันจันทร์ คืออยากถ่ายนานแค่ไหนก็ถ่ายไป ไม่มีใครมาเข้ากล้อง ติดกล้อง หรือแย่งกันถ่ายเพราะแทบบบบบบบบบไม่มีนักท่องเที่ยวหลงเหลืออยู่เลย
มาต่อๆ พอมาถึงคีรีวงปุ๊บ ฟ้า ฝน สภาพอากาศก็มาต้อนรับแขกด้วยการเทฝนลงมา เพื่อให้เห็นความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ อืมมมมมนะ ปลอบใจตัวเองไปงั้นแหละ 555+ แต่ไม่ว่าสภาพอากาศตจะเป็นยังไง สะพานแห่งนี้ก็ดึงดูดผู้คนให้มาแชะรูปไม่น้อย มีเสน่ห์ในแบบคีรีวง แต่พอฝนตกเข้าจริง ต่างคนต่างวิ่งหนีหลบฝนให้วุ่นเลย 555+
พอฝนเทลงมาก็ต้องรีบหาที่หลบฝนก่อน คือแบบโหยยยยยยย เพิ่งมาถึงไง ยังไม่รู้ทิศทางหมู่บ้านเลย อะไรอยู่ไหนยังไง แต่ดีนะพกร่มมาด้วย ก็กางร่มเดินกลางสายฝน หาที่หลบแป๊บบบบบบ สุดท้ายก็เข้าไปหลบในร้านอาหาร จำชื่อร้านไม่ได้ละ
ไอ้ย๊ะๆ!! นึกว่าจะพลาดไม่มีรูปร้านไปเข้าไปหลบฝนมาซะแล้ว ยังอุตส่าห์ถ่ายติดมานิดหน่อย ร้านด้านขวาสุดคือร้านที่ผมไปนั่งหลบฝนและกินข้าวเที่ยงมาครับ วิวร้านอาหารก็ถือว่าค่อนข้างสวยเลยล่ะ
พี่ที่ร้านอาหารบอกว่าวันไหนฝนตกหนักๆนะ หลังฝนตกจะมีน้ำตกไหลให้เห็นจากภูเขาฝั่งโน่นนนนนนนนน ไอ่เราก็นั่งรอ เผื่อจะโชคดีได้เห็นน้ำตกไหลลงจากเขา ก้ได้เห็นจริงๆ แต่น้ำน้อยมาก ฮ่ะๆๆ
พอฝนหยุดตกก็ได้เวลาออกไปหาที่พักที่จองไว้แล้ว ว่าแต่ที่พักอยู่ไหน จักรยานยังไม่ได้เช่าเลย ฝนจะตกนานไหม ก็นั่งรอฝนหยุดวนนนนนนไปละกัน พอฝนหยุดก็ออกไปหาร้านเช่าจักรยาน วันละ50บาท 2วันก็100บาท จัดไป1คัน แล้วปั่นไปที่หาที่พัก
ทริปนี้พักที่ "หนำชายคลอง" ชื่อแปลกๆนะไม่รู้แปลว่าอะไร แต่ที่รู้ๆคือที่พักแห่งนี้ติดแม่น้ำนะเห้ยขอบอกๆ มันฟินตรงนี้แหละครับพี่น้อง นี่คือที่พักที่ตามหาและต้องการเนียะบอกแล้วว่าติดแม่น้ำ กลางคืนนี่ฟินสุดๆเพราะมีเสียงแม่น้ำไหล ทำให้รู้สึกหลับสบายมากๆ ภายในห้องพักเป็นไงไปดูกันเลย
บ้านเป็นหลังมี2แบบ ห้องแอร์ อยู่โซนในและห้องพัดลม อันนี้เด็ดกว่าที่ว่าราคาถูกกว่าและติดแม่น้ำด้วย ไม่โดนยังกัดด้วยถือว่าเพอเฟคละ
โดยรวมแล้วที่พักแห่งนี้ถือว่าเยี่ยมมาก ถูกใจมาก +กับราคาที่ดีต่อใจ ใครไปคีรีวงผมแนะนำที่พักนี้เลย อาจจะไกลจากแหล่งชุมชนเล็กน้อย แต่รับรองว่าบรรยากาศเงียบสงบเหมาะการพักผ่อนเป็นอย่างมากนะ
พอบ่ายแก่ๆ เริ่มเหนื่อยกับการปั่นจักรยานตะลอนรอบหมู่บ้าน เลยเอาของไปเก็บที่พักแล้วลงมาเล่นน้ำคลายร้อนบริเวณหน้าที่พักสักหน่อย น้ำเย็นสดชื่นมากๆ นั่งแช่น้ำชิลๆสบายๆ กินลมชมวิวไป ชาวบ้านที่นี่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สบายๆตามสไตล์คีรีวงเลย อาบน้ำตามแม่น้ำ ซักผ้าบ้าง ล้างพืชผักบ้าง ซึ่งดูแล้วก็แอบยิ้มตามไปด้วย เพราะชาวบ้านที่นี่ดูมีความสุขกันมาก อัธยาศัยดี ยิ้มทักทาย ปลื้มมากกกกกก :)
จากนั้นก็เดินลัดเลาะขึ้นไปตามแม่น้ำ เดินไปทำไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แค่อยากเดินเล่น หาที่เล่นน้ำ ก็เดินขึ้นไปเรื่อยๆ คือไม่ค่อยมีคนเดินนะ มีแต่ตรูนี่แหละบ้าเดินขึ้นไปตามแม่น้ำคนเดียว
เหนื่อยก็พัก อยากเล่นน้ำตรงไหนก็แวะ มาคนเดียว ทำไรก็ตามใจฉัน สบายๆ
ชอบตรงนี้มาก เป็นน้ำที่ปล่อยออกมาจากท่อน้ำไว้ใช้อาบน้ำของชาวบ้าน เลยไปอาบบ้าง น้ำเย็นและแรงสะใจสุดๆ แต่หินก็นะลื่นเกินจนลื่นนนนนมากกกกกก นี่ลื่นล้มจนได้แผลกลับมาอีกเช่นเคย วันแรกก็จบแค่นี้แหละ ได้แผลแล้วเดินกลับที่พัก กว่าจะถึงที่พักก็เล่นเอาซะมืดเลยวันนี้อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใสสสสสสสสสส เหมาะแก่การเที่ยวชมรอบหมู่บ้านมากๆ ที่แรกก็ปั่นจักรไปที่นี่เลย
คนส่วนใหญ่ที่มาคีรีวงคงพลาดที่จะไปสถานที่แห่งนี้แน่นอน "หนานหินท่าหา" แต่ผมไปแล้วคือแบบบบบ คนเยอะมากกกกกกกก ไปแป๊บๆแล้ววนกลับมาในเขตชุมชน หาจุดที่เงียบๆนั่งพักผ่อนสบายๆดีกว่า
กว่าจะหาที่เงียบๆได้ก็หาอยู่ตั้งนาน จนมาเจอจุดนี้ แทบไม่มีคนเลย ริมแม่น้ำใกล้ๆที่พักนี่แหละและปลาพลวงเยอะมากกกกก ไม่ใช่แค่ตรงนี้นะ จุดอื่นๆก็เยอะมากเช่นกัน
วันนี้ซื้ออาหารมาให้ปลา 2ถึง 20บาท ให้แป๊บเดียวหมดละ ไปซื้อมากอีก 2 ถุง คิดว่าปลาคงจะอิ่มกันละ เอ่าเห้ยไม่เหมือนที่คิดเลยนี่หว่า หมดอีกละ 555+ ไปซื้อาอีก 4 ถุง รอบนี้หมดก็คือหมดนะ กินไม่รู้จักอิ่ม 555+ ก็นั่งเล่น นั่งนอน ว่ายน้ำเล่นตรงนี้นานอยู่พอควร
ตอนนอนแช่น้ำอยู่ก็เห็นพี่เขาเล่นกับน้องหมาอยู่เลยเข้าไปทักทาย บ้านพี่เขาติดแม่น้ำเลย มาเล่นน้ำอาบน้ำตรงนี้ประจำ เห็นสีหน้าน้องหมาละ นั่นอยากเล่นน้ำจริงๆใช่ไหมหรือถูกพี่เขาบังคับทางสายตาให้ไปอาบน้ำ 555555+
บ่ายๆคนเริ่มบางตาลงก็ปั่นมาแชะภาพที่สะพานกันต่อ ช่วงบ่ายๆวันอาทิตย์คนก็เริ่มน้อยลงละ เพราะเดินทางกันกลับบ้านกัน จะมีก็คนที่มาเที่ยวไม่กี่คนที่ยังอยู่ คนที่ยังอยู่คืนวันอาทิตย์นั่นแหละที่ได้ซึมซับความเงียบสงบของคีรีวงจริงๆ
อ้ายคนจนจ่ำต้องทนปั่นรถถีบ จะไปจีบอีน้องคนงาม พอไปถึงอ้ายก่อฟั่งเอิ้นถาม อี่น้องคนงามกิ๋นข้าวแลงแล้วกา เห็นรูปนี้ปุ๊บทำนองเพลงนี้ก็วิ่งมาทันทีเลย คนเหนือจะรู้จักเพลงนี้เป็นอย่างดีเลยล่ะ 555+ช่วงที่ไปน้ำในแม่น้ำไหลไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ถ้าน้ำเยอะกว่านี้ทิวทัศน์ต้องสวยทวีคูณมากกว่านี้แน่ๆ แต่แค่ได้เห็นความสมบูรณ์เขียวขจีของธรรมชาติที่นี่ก็ถือว่าคุ้มมากละ
วันเสาร์-อาทิตย์ เป็นช่วงที่คนเดินทางไปคีรีวงกันเยอะมากถึงมากที่สุด รถติดบนสะพาน คือแบบเยอะจนถอนหายใจเลยนะ มีทั้งคนที่มาพักและมาแบบไปกลับ คนบ้านใกล้ก็คงไปเที่ยวไปกลับ แต่คนมาพักเองก็เยอะเหมือนกันนะ ดีที่ผมตัดสินใจไป3วัน2คืน ส-อา-จเดินทางกลับบ่ายวันจันทร์ ซึ่งทำให้ได้เห็นความเงียบสงบของคีรีวงในวันที่แทบบบบบบบบบบบบบไม่มีนักท่องเที่ยวหลงเหลืออยู่เลย คือมันเงียบสงบมาก เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ ขนาดไปนั่งรถสองแถวเข้าเมือง ทั้งคันมีผมคนเดียว เหมือนรถส่วนตัวมากกกกกก 555+ คือตอนแรกก็หวั่นๆว่า ผู้โดยสารคนเดียว เขาจะเข้าไปส่งไหมนะ แต่ลุงก็ไป เพราะเป็นรอบวิ่งของลุง ละให้ลุงไปส่งถึงสนามบินเลย จะได้ไม่ต้องเข้าไปในเมืองให้เสียเวลา จบทริป บ้านคีรีวง
>> ทริปต่อไปก็ "ลุยเดี่ยวประเทศฟิลิปปินส์ 4D3N" << ไว้จะกลับมารีวิวการเดินทางอีกแน่นอนครับบบบ :)
>>>ติดตามภาพการเดินทางอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่<<<
INSTAGRAM : https://www.instagram.com/ssck.todd/
*ค่าเสียหายของทริปบนี้*
1. ตั๋วเครื่อง ไป-กลับ Lion Air = 2,130THB
2. ค่าแท็กซี่ = 200 THB
3. ค่าที่พัก หนำชายคลอง 810 x 2 คืน = 1,620THB
4. ค่าเช่าจักรยาน 2 วัน = 100 THB
5. ค่ารถสองแถวไป-กลับ คีรีวง = 50 THB
6. ค่ารถสองแถวไปส่งสนามบิน = 200 THB
7. ค่าอาหารและอื่นๆ = 800 THB
รวมทั้งหมดประมาณ : 5,100 THB
อืมมมมมมมมมจะว่าไปแม่งก็หมดไปเยอะอยู่นะเนียะ นึกว่าจะถูกกว่านี้อีก 555+