กาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่หน้าร้อนโหดมาก ไปเที่ยวกาญหน้าร้อน แถมนั่งรถไฟพัดลมชั้นสามไปอีก แค่คิด ความร้อนก็วูบขึ้นในหัวแล้ว แต่ถ้าไม่ลองไปสัมผัส จะรู้ได้ไงว่าร้อนแค่ไหน ว่าแล้วตามผมไปเที่ยวกันเลย…
รถไฟพร้อมออกเดินทางแล้ววว
และแล้วก็มาถึงจุดพักแวะจุดที่ 2 สะพานข้ามแม่น้ำแคว โดยจุดนี้ จะให้เวลาหยุดพักทั้งสิน 25 นาที
ลงจากรถได้ก็รีบวิ่งลงไปถ่ายรูปรัว ๆ จากนั้นก็ออกเดินทางกันต่อเลย
ระหว่างทางก็ชมนก ชมไม้ ชมภูเขา ชมแม่น้ำเรื่อยไปอีก 1 ชม. ก็จะมาถึงไฮไลท์สำคัญของเราครั้งนี้ คือ ทางรถไฟสายมรณะ โดยรถไฟจะหยุดจอดตรงสถานีถ้ากระแซ 1 ซึ่งอยู่ตรงหน้าสวนไทรโยครีสอร์ทพอดี ก่อนหนึ่งครั้ง ผมก็เอากระเป๋าฝากเพื่อนลงไปเก็บก่อน จากนั้นผมก็นั่งรถไฟต่อไปยังสถานีถ้ำกระแซ 2 ซึ่งเป็นเส้นทางจุดที่เป็นไฮไลท์ ระยะทางประมาณ 350 เมตร
ถ้านั่งฝั่งซ้ายมือ จะเห็นแม่น้ำและสะพาน ถ้านั่ง ขวามือ จะติดหน้าผา โชคดีที่ผมได้นั่งด้านซ้ายพอดี
ส่วนใครนั่งด้านหน้าผา เขาบอกว่าให้เอามือลูบที่หน้าผาแล้วอธิษฐาน แล้วสิ่งที่ขอจะสมหวัง
มองย้อนกลับไปจะเห็นสวนไทรโยครีสอร์ท รอก่อนนะ เดี๋ยวกลับมา
ณ เวลาขณะนั้นตื่นตาตื่นใจมาก โผล่หัวออกไปถ่ายรูปรัว ๆ
ไหนหันกลับไปข้างหน้าอีกทีสิ ไปถึงไหนและ แต่มุมนี้ก้อไม่ค่อยเห็นไรจริง ๆ
หันหลังกลับไปอีกรอบ คราวนี้รถไฟเอียงวุ้ย ความเสียวเพิ่มขึ้น
เริ่มกลับมาสู่ระนาบปกติและ ไปกันต่อเลย
ระหว่างทางก็แวะไหว้พระกันหน่อยที่ถ้ำกระแซ สาธุ สาธุ
ระหว่างเดินกลับก็ผ่านจุดที่เขาซ่อมสะพานอยู่ด้วย จุดนี้ต้องหลบดี ๆ คนเยอะ ๆ มีสายไฟด้วย
โค้งนี้วิวสวย หยุดถ่ายเซลฟี่สักหน่อย แชะ ๆ
มองย้อนกลับไปก็จะเห็นโค้งน้ำ สวยงาม ด้านล่างจะเป็น บ้านริมแควแพริมน้ำ รีสอร์ท
เขาน่าจะเริ่มซ่อมสะพานมาสักระยะแล้วนะ ไม้หมอนรถไฟสภาพยังใหม่อยู่เลย
ถึงพื้นดินแล้วว มีรูปปั้นสวัสดีมาต้อนรับ
มาดูความสูงสะพานกันบ้าง ตกลงมามีขาหักแน่ ๆ
เข้ามาในรีสอร์ทและ หญ้าที่นี่เขียวมากกกถึงมากที่สุด
ด้านในห้องพักก็ประมาณนี้ ขโมยรูปจากเว็บไซต์เขามาให้ดูนะครับ เพราะลืมถ่ายไว้
หลังจากกินข้าวเสร็จก็นอนพักผ่อน ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย เรามีนัดอีกทีตอนบ่ายสี่โมงครึ่งเพื่อไปล่องแพเปียกกัน
The Raft X-Team (ล่องแพเปียก)
กิจกรรมที่ทางสวนไทรโยค รีสอร์ท โดยใช้วิถีชาวกาญจน์ ในการใช้แพเป็นหลัก มาประยุกต์กับกิจกรรม Adventure โดยลาก แพเป็นขบวนทวนแม่น้ำแควน้อย 2 กม. แล้วปล่อยแพล่องจากน้ำอิสระ โดยผู้เล่นจะสวมเสื้อชูชีพ แล้วกระโดดลงน้ำลอยตัวมาขึ้นที่รีสอร์ทหรือบนแพ พร้อมชมวิวสะพานถ้ำกระแซได้ตลอดตั้งแต่แรกจนจบ โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยให้กับทุกท่าน เนื่องจากที่ตั้งรีสอร์ทเป็นแน้วโค้งรับน้ำยาวกว่า 500 เมตร ท่านจึงสะดวกสบายในการขึ้นจากแม่น้ำ
ตรงนี้น้ำไม่ลึก ยืนถึง แต่น้ำจะเชี่ยวมาก ถ้าพร้อมแล้ว ก็ปล่อยตัวตามสบาย ไหลตามน้ำไปเรื่อย ๆ
แดดไม่มีแล้ว น้ำเย็น ๆ คลายร้อนได้มากเลย
เผลอแว๊บเดียว ลอยมาถึงรีสอร์ทแล้วว… ด้านหน้ารีสอร์ทมีเครื่องเล่นทางน้ำให้เล่นด้วย แต่ต้องเสียเงินเพิ่มต่างหาก
วันนี้คงหมดแรงจะเล่นเครื่องเล่นและ กลับไปเล่นน้ำต่อหน้าแพดีกว่า
ถึงแล้วววว รีบฟรีสไตล์เข้าไปเลย หากเลยไปกว่านั้นต้องไปขึ้นท้ายแพ ต้องเดินย้อนกลับมาอีก เสียพลังงานเพิ่ม
หลังจากเล่นน้ำจนหนำใจก็ขึ้นไปอาบน้ำ เตรียมตัวทานอาหารเย็นกัน โดยอาหารเย็นวันนี้ ทางรีสอร์ทได้จัดไว้ให้เป็นแบบบุฟเฟห์ แต่มีข้อแม้คือสามารถเติมได้แค่บางอย่างเท่านั้น เช่น ไข่เจียว แกงจืด น้ำพริกกะปิ พวกปลาทอดหรือไก่ทอดจะเติมไม่ได้
หลังจากนี้ยังมีกิจกรรมรอบกองไฟกับอาหารมื้อดึกอีก แต่ด้วยความเหนื่อยผมเลยขอกลับไปนั่งเล่นหน้าแพดีกว่า