2 ดอย 3 คาเฟ่ เสน่ห์ “น่าน” หน้าฝน บนเส้นทางสายกาแฟ

คิดถึงหน้าฝนต้องคิดถึง “น่าน” คิดถึงหมอกขาวต้องคิดถึง "น่าน" คิดถึงกาแฟยิ่งต้องคิดถึง “น่าน” เพราะนอกจากเป็นเมืองศิลปะ วัฒนธรรม หรือเมืองชิคๆ ชิลๆ สโลว์ไลฟ์ถูกใจวัยรุ่น น่านยังเป็นแหล่งผลิตกาแฟอาราบิก้าชั้นดีอีกด้วย

ฝนนี้เลยจะพาไปจิบกาแฟฟินๆ ที่น่าน ขึ้นสองดอยซึ่งเป็นชุมชนคนปลูกกาแฟ พร้อมคาเฟ่ตัวเมืองคัดสรรมาแล้วอีกสามแห่ง จัดทริปให้เหมาะแบบสามวันสองคืนไปทั้งสัมผัสหมอกหน้าฝน และลิ้มรสกาแฟกันดีกว่า

วันแรก > ร้าน Erabica Coffee > นอนดอยสกาด  > วันสอง > เช้าดอยสกาด > นอนสวนยาหลวง > วันสาม > เช้าสวนยาหลวง > MIX ACADEMIC CAFE > น.น่าน

เส้นทางสองดอย สามคาเฟ่ จะฟินขนาดไหน ตามมาเที่ยวกันได้ครับ

--------------------------------------------------------------------------------

เดินทางถึงตัวเมืองน่านก็ขอแวะก่อนเลยที่ Erabica Coffee คาเฟ่สวยวินเทจในอาคารโคโลเนียลสีเหลือง-เขียว แห่งนี้ คือมือสำคัญที่พยายามผลักดันให้กาแฟน่านเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่ใช่เฉพาะในประเทศแต่รวมถึงต่างประเทศด้วย ดังนั้นคงต้องประหลาดใจหากมาที่นี่แล้วไม่ได้จิบกาแฟน่านดีๆ

ร้านเอราบิก้า คอฟฟี่ ใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากบ้านสันเจริญ หรือสวนยาหลวงอันโด่งดัง นำมาชงเป็นเครื่องดื่มหลากหลาย ใครชอบแบบไม่ต้องลีลามากก็ อเมริกาโน่ ลาเต้ คาปูชิโน่ ธรรมดาๆ แต่มาถึงนี่ทั้งทีแนะนำให้ลองซิกเจอร์เด็ดๆ หรือกาแฟสเปเชียลตี้จะดีกว่า ไม่ว่าจะเป็น ดริป ไซฟอน โคลด์บริว กาแฟไนโตร รวมถึง เอราบิก้า ซิกเนเจอร์ ที่นำกาแฟคั่วเข้มผสมกับน้ำมะไฟจีน ทานพร้อมผลมะไฟจีนอบแห้ง ได้รสชาติน้ำผลไม้เข้มๆ ติดหวานนิดๆ หอมกลิ่นกาแฟอ่อนๆ เป็นส่วนผสมของกาแฟน่านและผลไม้ขึ้นชื่อของน่านที่เข้ากันดี เมนูเครื่องดื่มร้อนเริ่มต้น 60 บาท เครื่องดื่มเย็นเริ่มต้น 80 บาท กาแฟพิเศษต่างๆ ราคาสูงขึ้นตามลำดับ เรื่องรสชาติและบรรยากาศในร้านให้คะแนนเต็มเลยเชียวล่ะ

เอราบิก้า คอฟฟี่ อยู่ที่ถนนรังสีเกษม ตำบลในเวียง ตัวเมืองน่าน
เปิดทุกวัน
8.00-19.00 น.
โทร. 0625599044
เฟซบุ๊ก Erabica coffee
www.facebook.com/erabicacoffee

ออกจากตัวเมืองน่าน มุ่งหน้าขึ้นสู่ ดอยสกาด ตำบลสกาด อำเภอปัว ที่นี่อยู่ห่างจากตัวอำเภอปัว 20 กิโลเมตร เดินทางไม่ยาก ใช้ทางหลวง 101 ไปเรื่อยๆ จนถึงตำบลสถาน แล้วเลี้ยวขวาขึ้นดอยอีก 15 กิโลเมตร เส้นทางขึ้นเขาไม่ถึงกับโหดร้าย ถนนคอนกรีตตลอดสาย ชำรุดบ้างนิดหน่อย ถึงอย่างนั้นรถยนต์เล็กก็ขึ้นสบายหายห่วง

ดอยสูงแห่งนี้เป็นชุมชนสองวัฒนธรรมคือคนเมือง (คนท้องถิ่นทางภาคเหนือ) กับชาวเขาเผ่าลั๊วะ อาชีพหลักคือปลูกเมี่ยง มะแข่น ทำเกษตร โดยมีกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่มาแรง และได้รับความสนใจมากขึ้นจากชาวบ้าน

จุดเด่นที่คอกาแฟต้องรักคือกาแฟดริป ใครอยากจัดตรงไปเลยที่ “สกาดดี โฮมสเตย์” กับ “บ้านจักษ์กะพัฒน์” อยู่ต้นทางเข้าบ้านสกาด ทั้งสองแห่งเป็นรุ่นแรกๆ ในการปลูกกาแฟบนดอยสกาด รวมทั้งทำโฮมสเตย์ที่พัก เลือกที่ไหนก็ตามชอบใจเพราะเป็นญาติพี่น้องกันนั่นแหละ แถมมาช่วยกันดูแลเป็นปกติ

ทริปของเราครั้งนี้พักที่สกาดดี โฮมสเตย์ แต่ก็แวะไปดริปกาแฟที่บ้านจักษ์กะพัฒน์ แล้วนั่งรถกระบะขึ้นไปชมไร่กาแฟจักษ์กะพัฒน์ด้วยครับ

พักที่ สกาดดี โฮมสเตย์ สิ่งที่เราจะได้รับคือห้องพัก อาหารสองมื้อเย็นกับเช้า ชุดดริปกาแฟ และฟรีสำหรับชาร้อนต่างๆ ที่เราสามารถชงทานได้ตลอดเวลา มานั่งชิลจิบชาจิบกาแฟ ที่ระเบียงพร้อมชมวิวหมู่บ้านบนขุนเขา โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่สายหมอกคลอเคลียตลอดเวลา

ห้องพักที่นี่ถึงจะเป็นห้องรวมนอนตั้งแต่ 3-6 คน จัดทำไว้สะอาดเรียบร้อย มีทั้งห้องใหญ่และห้องเล็ก ถ้ามาคนเดียวหรือสองคนก็นอนห้องเล็กนี่แหละ

กาแฟอาราบิก้าดริปจิบกันในบรรยากาศสุดยอด หรือใครชอบทานชาแนะนำชาสีชมพูเป็นสูตรเฉพาะของที่นี่ ทำจากเมี่ยงหรือชาอัสสัมผสมสมุนไพรพื้นบ้าน รสชาติอ่อนๆ เช่นเดียวกับน้ำขิงสีชมพูรสกลมกล่อมละมุนละไม

ทั้งชุดกาแฟดริป ชุดชาขิงดอยสกาด ถ้าเข้าพักที่นี่จะรวมราคาอยู่ในแพ็คเกจอย่างที่บอกครับ แต่หากไม่ได้เข้าพักก็สามารถแวะมาลิ้มลองได้เช่นกัน กาแฟดริปฟูลเซ็ต 200 บาท ชาและน้ำขิง 100 บาท ใครชอบใจซื้อกลับไปชงทานเองที่บ้านได้ด้วย

หลังจากชิมกาแฟพลิ้วๆ ที่สกาดดีเสร็จแล้ว เราไปที่บ้านจักษ์กะพัฒน์ ร้านกาแฟและโฮมสเตย์เล็กๆ ที่บรรยากาศดีไม่แตกต่าง โลโก้ร้านเป็นผู้ชายสองคนยืนจับมือกัน ไม่ต้องตกใจหรอกนะ เพราะ จักษ์ กับ พัฒน์ คือพี่น้องฝาแฝดหนุ่มหล่อที่มีแม่ยกทั่วสารทิศเล็งไว้ (ฮา...) เช่นเดียวกับสกาดดี ที่บ้านจักษ์กะพัฒน์เราก็แวะมาทานกาแฟ หรือกินลมชมวิวแบบสบายๆ เหมือนมาหาเพื่อนกันได้โดยไม่ต้องเข้าพัก กาแฟเย็นเมนูต่างๆ อยู่ที่ 50 บาท กาแฟดริปชุดเล็ก 80 บาท ตัวเด่นๆ ที่อยากให้ลองคือกาแฟสีเหลือง (หมายถึงสีเมล็ดตอนสุกอยู่ที่ต้น) เยลโล่คาติมอร์ รสชาติละมุนละไม มีให้เลือกหลากหลายการคั่วอีกด้วยครับ หลังกระชุ่มกระชวยกับกาแฟดริปไปหลายเช็ต เราไปเดินเล่นในหมู่บ้านกันหน่อยดีกว่า ชุมชนที่นี่อยู่กันแบบเรียบง่าย บ้านเรือนเรียงกันไปตามแนวความชันบนไหล่เขา มีโรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ร้านค้าร้านขายของ ร้านก๋วยเตี๋ยว ผู้คนสัญจรไปมาตามท้องถนนเรื่อยๆ บนดอยสกาดยังมีโฮมสเตย์อีกพอสมควรให้เลือกพัก แต่สำหรับเจ้าที่ทำกาแฟด้วยก็ต้อง สกาดดี โฮมสเตย์ กับ บ้านจักษ์กะพัฒน์ นั่นแหละครับ

กลับมาทานอาหารเย็นที่ที่พัก สำรับรออยู่แล้ว น้ำพริกอ่อง น้ำพริกมะแข่น ผักสด แคบหมู หมูสามชั้นทอด ไก่มะแข่น ลาบหมู กินกับข้าวนึ่ง พร้อมชาสีชมพูกับน้ำขิง อาบอากาศหนาวๆ อร่อยทั้งอาหารและอร่อยทั้งบรรยากาศยามค่ำ ดีงามอย่าบอกใคร

เช้าวันใหม่ สายหมอกและไอชื้นลอยปกคลุมดอยสกาด บรรยากาศสดชื่นอย่าบอกใคร ยิ่งได้อาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมูร้อน เสิร์ฟคู่กับชุดดริปกาแฟ เป็นมื้อเช้าที่เรียบง่ายแต่ความสุขนั้นล้นเหลือ

วันนี้เรานัดคุณพัฒน์แห่งบ้านจักษ์กะพัฒน์ขึ้นไปชมสวนกาแฟบนภูเขา นั่งรถกระบะกระเด้งกระดอนสนุกสนานราว 20 นาที

ช่วงนี้หน้าฝนบรรยากาศชุ่มฉ่ำสุดใจ ต้นกาแฟติดผลเขียวๆ แล้วแต่ยังไม่สุกจนกว่าจะเริ่มหมดฝนเข้าหน้าหนาวตามเวลาของมัน ขึ้นมาเที่ยวบนนี้นอกจากจะได้ชมวิว ยังได้ดริปกาแฟกินบนเขา ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับเป็นราคารวมอยู่ในบริการนำเที่ยวขึ้นเขาอยู่แล้ว

คั่วแบบไหน โปรเซสแบบไหน บอกให้คุณพัฒน์จัดได้เลยตามใจชอบ ลองชิมลองจิบให้ครบทุกสูตร ดูว่าโปรเซสแต่ละแบบ คั่วแต่ละแบบจะให้รสชาติหรือกลิ่นหอมต่างกันมากน้อยอย่างไร

แบบนี้แหละถึงเรียกว่ามาทำความรู้จักกับกาแฟน่านแท้ๆ

สกาดดี โฮมสเตย์ อยู่ที่ตำบลสกาด อำเภอปัว
ราคาเข้าพัก 850-1,500 บาท ต่อคน ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าพัก ราคานี้รวมห้องพัก อาหารสองมื้อ ชุดกาแฟและชา ผู้ที่ไม่ได้เข้าพัก สามารถใช้บริการร้านกาแฟและชมวิวได้
โทร. 0830846411
เฟซบุ๊ก
Skaddee homestay สกาดดีโฮมสเตย์

บ้านจักษ์กะพัฒน์ อยู่ที่ตำบลสกาด อำเภอปัว
ให้บริการบ้านพัก พร้อมอาหารและนำเที่ยวสวนกาแฟ ราคาให้บริการที่พักกรุณาติดต่อสอบถามโดยตรง ผู้ที่ไม่ได้เข้าพัก สามารถใช้บริการร้านกาแฟและชมวิว ราคารถนำเที่ยวสวนกาแฟ พร้อมชิมกาแฟดริปต่างๆ
1,500 บาท ต่อเที่ยว
โทร. 0967206902
เฟซบุ๊ก บ้านจักษ์กะพัฒน์

ลงจากดอยสกาด ไปต่อกันที่ สวนยาหลวง บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา เส้นทางการเข้าสู่หมู่บ้านค่อนข้างไกล ขับรถข้ามเขาคดเคี้ยวหลายลูก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สูงชันมาก รถยนต์เล็กธรรมดาถึงที่สบาย เพียงแต่ขับช้าๆ ระวังสักนิดเพราะถนนคอนกรีตชำรุดหลายจุด

ชื่อสวนยาหลวงมีความหมายตรงตัว สวนคือพื้นที่เพาะปลูก ยาหมายถึงฝิ่น (ซึ่งนำมาสกัดเป็นยาระงับปวดหรือมอร์ฟีน) หลวงคือใหญ่ สวนยาหลวงจึงมีความหมายว่าพื้นที่ปลูกฝิ่นขนาดใหญ่ แต่นั่นเป็นเรื่องอดีต เพราะปัจจุบันไร่ฝิ่นขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศกลับกลายมาเป็นสวนกาแฟ

เมื่อปี พ.ศ. 2532 หลังการเลิกปลูกฝิ่น ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟแห่งแรกของจังหวัดน่าน นำโดยอดีตผู้ใหญ่บ้านเจริญศักดิ์ เลิศวรายุทธ์ จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟใหญ่ที่สุดของจังหวัด กินพื้นที่กว่าสี่พันไร่

บ้านสันเจริญเป็นหมู่บ้านชาวเมี่ยน หรือชาวเย้า การท่องเที่ยวเติบโตขึ้นทีละน้อยจากการผลักดันของคนกลุ่มเล็กๆ ที่มีโอกาส “ออกไปเห็น” สิ่งต่างๆ ข้างนอก และมองว่าบ้านตัวเองก็มีทรัพยากรทางธรรมชาติน่าสนใจมากพอที่จะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามา

ใครอยากเที่ยวที่นี่ให้ติดต่อโดยตรงที่คุณภูวนาท เจริญรัตนนุกุล (คุณกริช) ซึ่งจะมีบริการรถโฟร์วีลพาขึ้นไปพักแบบโฮมสเตย์กลางสวนกาแฟ รวมถึงขึ้นไปชมวิวสวยบนยอดดอยสวนยาหลวงความสูงประมาณ 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

สำหรับพวกเรา พอเดินทางถึงร้านกาแฟลาเปี้ยน คอฟฟี่ บ้านสันเจริญ นัดพบคุณกริชเรียบร้อย ก็นั่งพักสักหน่อยจิบชาเปลือกกาแฟให้ชื่นใจ

จากนั้นไม่นานนักรถโฟร์วีลนำเที่ยวซึ่งมีคุณกริชรับหน้าที่เป็นพลขับด้วยตัวเองก็สตาร์ตเครื่องพาเราขึ้นสู่สวนกาแฟบนสวนยาหลวง เส้นทางช่วงฤดูฝนเต็มไปด้วยความยากลำบากแต่ก็สนุกตื่นเต้นเร้าใจไม่น้อย ท่ามกลางสวนกาแฟกว้างขวาง สิ่งที่เราได้เห็นคือสายหมอกขาวโพลนเบื้องหน้า นี่แหละนะฤดูฝน บ้านพักที่นี่คือโฮมสเตย์อย่างแท้จริง เป็นบ้านดั้งเดิมซึ่งชาวสวนกาแฟใช้เป็นที่พักเฝ้าสวน ทุกวันนี้ยังใช้อยู่กันเป็นปกติ นอนรวม มีห้องน้ำแยกสองสามห้องด้านนอก ไม่มีไฟฟ้า มีเพียงไฟปั่น เพราะสภาพอากาศไม่เปิดและฝนตกบนเขา เราจึงไม่สามารถขึ้นยอดสวนยาหลวงได้ แต่การได้พักผ่อนท่ามกลางหมอกที่สดชื่นก็ถือว่าดีไม่น้อย และแน่นอนว่ากาแฟดริปดีๆ หอมกรุ่นสักหน่อยทำให้เรารู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้น มื้ออาหารเย็นแบบเรียบง่ายฝีมือชาวบ้าน กินอร่อยจนพุงแทบแตก ก่อนที่เวลาสักสองสามทุ่มหมอกฝนและไอชื้นจะยิ่งพัดเข้าปกคลุมกระท่อมไม้หลังน้อย การปิดประตูลงกลอนซุกตัวรับไออุ่นอยู่ใต้ผ้าห่มหนานุ่มดูจะเป็นไอเดียที่เข้าท่าที่สุด เช้าวันใหม่ยังเป็นไปตามคาด น่าประหลาดใจที่ผมไม่ได้รู้สึกเสียดายกับการอดขึ้นยอดสวนยาหลวง แต่กลับสนุกกับการหามุมถ่ายภาพหมอกขาวในสวนกาแฟ รวมทั้งการได้ละเลียดกาแฟดริปสักสองสามแก้ว ตอนสายๆ เราลงจากสวนกาแฟบนเขากลับมายังหมู่บ้านสันเจริญ ที่นี่ชาวบ้านรุ่นใหม่เติบโตไปตามกระแสวันเวลา แต่ผู้เฒ่าผู้แก่เกือบทั้งหมดยังนิยมสวมชุดประจำชนเผ่าอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

เราเดินเล่นสัมผัสวิถีของบ้านสันเจริญอีกสักพักก่อนต้องเดินทางต่อ อำลาที่นี่ด้วยภาพของการเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาซึ่งเปี่ยมเสน่ห์เหลือเกิน

สวนยาหลวง อยู่ที่บ้านสันเจริญ ตำบลผาทอง อำเภอท่าวังผา
ราคาแพ็คเกจนำเที่ยวพร้อมที่พักโฮมสเตย์ 5 คน ทริปละ 5,000 บาท
, 6-10 คนขึ้นไป 1,000 บาทต่อคน ราคานี้รวมอาหารสองมื้อ รถโฟร์วีล และกาแฟดริป
ติดต่อคุณกริช โทร. 0863907737
เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ

กลับเข้าตัวเมืองน่าน หากอยากดื่มกาแฟดริปดีๆ แนะนำให้มาที่นี่ไม่มีผิดหวัง MIX ACADEMIC CAFE อยู่ที่ปากซอย 2 ถนนเปรมประชาราฎร์ เป็นคาเฟ่สไตล์โมเดิร์นให้บริการเครื่องดื่มหลากหลายและขนมเค้ก ของหวาน เมนูเย็นต่างๆ ราคา 50-65 บาท ไม่แพงอะไรเลย ร้านน่ารักสาวๆ ต้องชอบ

สำหรับคอกาแฟดริปที่นี่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วจากบ้านมณีพฤกษ์ อำเภอทุ่งช้าง อีกหนึ่งแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าชั้นดีและมีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน ราคาเหยือกละ 99  บาท เลือกเมล็ดได้เลยว่าจะคั่วระดับใดหรือใช้กาแฟตัวใด มีให้เลือกหลากหลายพอสมควร

MIX ACADEMIC CAFE อยู่ที่ปากซอย 2 ถนนเปรมประชาราฎร์ ตำบลในเวียง ตัวเมืองน่าน
เปิดทุกวัน 8.00-19.00 น.
โทร. 0804510083
เฟซบุ๊ก Mix Academic Cafe'

สถานที่สุดท้ายในการตะลอนเส้นทางสายกาแฟที่น่านของเรา น.น่าน คาเฟ่สไตล์วินเทจและโรงคั่วกาแฟขนาดย่อมที่จะทำให้คนชอบกาแฟต้องหลงรักอีกร้าน อยู่ที่ถนนสุมนเทวราช เป็นบ้านเรือนไม้เก่าแก่สีน้ำตาลโดดเด่นริมถนน

ความหอมอบอวลของเมล็ดกาแฟคั่วแตะจมูกทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในร้าน มันต้องเป็นแบบนั้นแหละเพราะเครื่องคั่วกาแฟเครื่องใหญ่ตั้งอยู่โดดเด่นข้างประตู นอกจากร้านสวยเก่าแก่สไตล์บ้านไม้ ที่นี่ใช้กาแฟซึ่งเป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน เป็นผลผลิตจากบ้านน้ำกิ อำเภอท่าวังผา (ระหว่างทางเลี้ยวเข้าบ้านสันเจริญจะเจอป้ายบอกทางไปบ้านน้ำกิ) ที่นั่นมีชาวบ้านปลูกกาแฟพอประมาณ และเป็นสวนที่ปลูกอาราบิก้าหลายพันธุ์ผสมปนเป พอนำมาผ่านกระบวนการจนถึงคั่วเป็นเมล็ดจึงมีเสน่ห์ในตัวเอง ไม่ใช่พันธุ์เดียวโดดๆ แต่เป็นแบบผสมผสานความหลากหลายไว้ด้วยกัน ใครทานกาแฟที่ร้านแล้วสนใจเมล็ดกาแฟคั่วจากบ้านน้ำกิ สามารถซื้อที่ร้าน น.น่าน ได้เลย ที่นี่ทำทุกกระบวนการโปรเซสหลังจากรับผลิตผลจากชาวบ้าน และยังมีกาแฟจากที่อื่นๆ ที่ทางร้านคั่วเองอีกด้วย รับประกันว่าได้ของดีกาแฟน่านแท้ๆ แน่นอน น.น่าน อยู่ที่ถนนสุมนเทวราช ตำบลในเวียง ตัวเมืองน่าน
เปิดทุกวัน วันจันทร์
-ศุกร์ 8.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 9.00-17.00 น.
โทร. 0801347105
เฟซบุ๊ก น.น่าน คาเฟ่
www.facebook.com/Nornancafe

----------------------------------------------------------

ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
เฟซบุ๊ก นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller
http://www.facebook.com/alifeatraveller