-
ให้ภาพพาไป • December 10, 2017
-
ให้ภาพพาไป • December 10 , 2017
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ
กลับมาเชียงใหม่อีกครั้ง ก็มักจะหาสถานที่ใหม่ๆ ครั้งนี้ตั้งใจจะไปพักที่ "ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ" (ปีที่แล้วตอนมาสันป่าเกี๊ยะก็ว่าจะแวะพักที่นี่แต่เวลาไม่พอเลยไม่ได้พัก) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนั้น ตั้งอยู่ที่ ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง ก่อตั้งขึ้นปี พ.ศ. 2528 โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เพื่อลดการทำไร่เลื่อนลอยและส่งเสริมให้ปลูกพืชทดแทนการฝิ่นของชาวเขา ที่นี้มีบ้านพักและสามารถกางเต็นท์ได้ ช่วงที่ไปมีแค่กลุ่มเรากลุ่มเดียว กับเจ้าหน้าที่และนักศึกษาฝึกงาน (คนดูแลที่นี่น่ารักเป็นกันเองมาก) บรรยากาศที่พักจะอยู่บนเชิงเขา ช่วงเช้าๆสามารถเห็นหมอกได้จากที่พัก
ที่มาคำว่า “ม่อนเงาะ” เพี้ยนมาจากคำว่า “โม่งโง๊ะ” ภาษาม้ง ที่แปลว่า "แม่" มีที่มาจากหินผาที่อยู่เรียงกันสามลูก ผาแรกคือผาลูก ผากลางที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดคือผาแม่ และผาถัดไปคือผาพ่อ
*** หากมาศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะแล้ว แนะนำให้ไป"ยอดดอยม่อนเงาะ"เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและหมอกยามเช้าที่สวยงาม โดยทางด้านทิศตะวันตกจะเห็นดอยอินทนนท์ และด้านทิศเหนือจะเป็นดอยฟ้าห่มปก ที่นี่มีจุดชมวิว 2 จุด จุดแรกรถไปถึงแนะนำเป็นรถ 4*4 (เพราะช่วงใกล้ถึงยอดดอยจะเป็นถนนดิน จะชันและลื่นถ้าฝนตกชาวบ้านก็ไม่ขึ้นมาเหมือนกัน) ที่นี่จะมีลานสามารถกางเต็นท์ได้ แต่ช่วงที่ไปหญ้ารกทึบ (เพราะไม่ค่อยมีใครมาเที่ยวช่วงนี้ ปิดดอยเที่ยวอีกแล้ว ^^) จุดนี้จะมีระเบียงยืนออกไป สามารถชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
จุดที่ 2 เป็นจุดสูงสุด (ประมาณ 1,425 เมตร) ต้องเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 300 เมตร สามารถชมทะเลหมอกได้เช่นกัน แต่เป็นคนละมุมกับจุดแรก จุดนี้สมชื่อทะเลหมอกจริง ภูเขาถูกปกคลุมไปด้วย บ้างช่วงหมอกกระทบภูเขาดังคลื่นซัด
ทริปนี้เริ่มเดินทางมาจากแม่กำปอง(คืนแรกนอนที่แม่กำปอง) ถ้ามาจากตัวเมืองใช้เส้นทาง 107 มาทางแม่ริม แม่แตงจากนั้นเลี้ยวซ้ายไปเส้นทาง 1095 แม่มาลัย-ปาย (เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่ไปปายได้) วิ่งมาประมาณ 12 กม.ทางเข้าจะอยู่ขวามือ จะมีป้ายศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ ขับตามถนนมาเรื่อยๆอีกประมาณ 17 กม.ก็จะถึง ในส่วนถนนเป็นถนนคอนกรีตรถเก๋ง(ครั้งนี้เช่ารถ Altis) สามารถเดินทางมาได้ แต่บางช่วงจะแคบและชัน หลังจากมาถึงที่พักช่วงบ่าย ประมาณ 4โมงเย็น ก็ออกเดินทางไปยอดดอยม่อนเงาะ วิ่งมาซักระยะผ่านหมู่บ้าน ทางจะเริ่มแคบมากและชัน บางช่วงรถแทบส่วนกันไม่ได้ สุดท้ายก็ไปไม่ถึงยอดดม่อน เพราะทางไม่ค่อยเหมาะกับรถเก๋ง (ถึงไม่ถึงจุดหมายแต่วิวระหว่างทางก็คุ้มที่ได้มา) จึงกับมาตั้งหลักใหม่กันที่ที่พัก และตกลงเช่ารถชาวบ้านขึ้นไปตอนเช้า นัดกันตี 4 (แต่มีเงื่อนไขถ้าฝนตกคืนนี้จะไม่พาขึ้นเนื่องจากอันตราย) แต่ก็เหมือนฟ้าเป็นใจฝนไม่ตกมากนัก โทรหาคนขับเค้าก็มารับจึงได้เดินทางสู่ยอดม่อนสมใจ ระหว่างทางก็จะผ่านหมู่บ้านชาวเขา สวนลำไย ลิ้นจี้ ช่วงใกล้ถึงยอดดอยก็เป็นทางดินค่อนข้างลื่นและชัน แต่พอมาถึงจุดชมวิวจุดแรก ก็ต้องตะลึงกับความงามของทะเลหมอก (เสียดายมาไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น) หมอกที่นี่เยอะและสวยงามมาก หลังซึมซับบรรยากาศเก็บภาพ ก็เดินขึ้นไปจุดสูงสุด ทางเดินเป็นทางดินแต่เดินง่ายไม่ชันมาก พอถึงยอดดอยก็จะมีป้าย "ยอดดอยม่อนเงาะ" ซึ่งทำจากไม้เก๋ไปอีกแบบ บนนี้ทะเลหมอกก็สวยงามไม่แพ้จุดแรก แต่มุมจะกว้างกว่าซึ่งสวยงามมากจะเป็นทิวเขาสลับกับสายหมอก ถ้ามาช่วงเย็นๆอาจได้เห็นพระอาทิตย์ตก
นอกจากยอดดอยม่อนเงาะแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ "ไร่ชาลุงเดช" อยู่ไม่ไกลจากโครงการหลวงมานัก เป็นไร่ชาในหุบเขาที่สวยงามอีกที่หนึ่ง
สามารถจิบชาชมวิวที่ระเบียงได้ และถ้ามาช่วงเช้าอาจจะได้เจอสายหมอก
ได้มีโอกาสคุยกับลุงเดช เจ้าของไร่ (อัธยาศัยดีมาก ให้เติมชาเพิ่มฟรีด้วย) โดยที่นี่จะปลูกชาส่งให้โครงหลวง โดยมีการนำพันธุ์มาจากไต้หวัน และมีชาป่าดั้งเดิมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีการปลูกเงาะ ซึ่งลุงแกบอกว่าปลูกให้คนมาเที่ยวชิม (เมื่อบอกอย่างนี้ก็ต้องไปชิม) หลังจากจิบชาชิมเงาะ
คุยกับลุงเดชเสร็จ จะลากลับเพื่อไปบ้านต้นไม่แม่แมะต่อ ลุงแกแนะนำให้ขับไปอีกทางไม่ต้องย้อนกลับทางเดิม ซึ่งมีทิวท้ศน์ขุนเขาและลำน้ำสวยงาม เส้นทางธรรมชาติมากตามแกบอกจริงๆ 555 บางช่วงหญ้าขึ้นข้างทางเหมือนเส้นนี้คนไม่ค่อยใช้ แต่ก็เป็นสิ่งที่เราชอบได้เจอเส้นทางใหม่ๆ วิวใหม่ๆ ต้องขอบคุณที่แกแนะนำ เส้นทางเป็นถนนคอนกรีตรถเก๋งไปได้ (แนะนำจะมาเส้นนี้ควรมีความชำนาญในการขับรถขึ้นเขา) แต่บางช่วงวิ่งลัดเลาะบนเขา ด้านข้างเป็นหน้าผาทางค่อนข้างชันและแคบ ขับมาเรื่อยก็จะข้ามสะพานข้ามลำน้ำแม่แตง และลัดเลาะไปตามลำน้ำแม่แตง (บริเวณนี้สามารถล่องแพได้) ผ่านปางช้างแม่แตง จากนั้นก็จะมาเจอถนนเส้น 107 มุ่งหน้าสู่ อ.เชียงดาวเพื่อไปบ้านต้นไม้แม่แมะต่อไป