อีกครั้งของการเดินทางมาพักผ่อนในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดที่มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดใครหลายๆ คนให้แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนได้บ่อยครั้ง แต่สำหรับการเดินทางของเราในครั้งนี้ เราขอมุ่งหน้าไปพักผ่อนกันในรีสอร์ทสุดหรูในตัวเมือง ที่เพียงแค่แรกสัมผัสก็ทำให้เราแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีโรงแรมบนพื้นที่ กว้างขวาง แถมยังเงียบสงบแบบนี้อยู่ห่างจากตลาดวโรรสเพียงแค่อึดใจ

หลังจากเช็คอินเข้าพักที่ “โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา” เรียบ ร้อยแล้ว เราก็ไม่รอช้ารีบไปเดินสำรวจให้รอบโรงแรมกันเลยทันที เริ่มตั้งแต่บริเวณล็อบบี้ที่โอ่โถงและเต็มไปด้วยกลิ่นอายล้านนา ทั้งโคมไฟ ภาพเขียนลายเส้นแบบล้านนาที่ติดอยู่ตามมุมต่างๆ ของโรงแรม ในบริเวณโซนด้านหน้าของโรงแรมเป็นส่วนกลางของบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร ห้องออกกำลังกาย แกลลอรี่ ห้องประชุม ห้องอินเตอร์เน็ต ก็ล้วนแล้วแต่รวมอยู่ในบริเวณนี้ทั้งสิ้น แต่ทันทีที่เราก้าวผ่านประตูไม้บานใหญ่ซึ่งอยู่ด้านหลังของล็อบบี้เข้าไป แล้ว เราก็จะได้รับพลังจาก “ภูมิจักรวาล” จุดรับพลังจาก ธรรมชาติตามคติความเชื่อโบราณว่าจะนำความโชคดีมาสู่แขกผู้มาเยือน ก่อนจะเข้าสู่ทางเดินอันร่มรื่นที่จะพาเราไปสู่อาคารที่พัก ระหว่างทางเราจะได้เห็นสัตว์มงคลของล้านนาที่เรียกว่า "มรก" (มะ-ระ-กะ) หรือ "เบจลักษณ์" ประดับตกแต่งอยู่ตลอดทาง

ในส่วนของห้องพักนั้น ที่โรงแรมศิริปันนามีห้องพักให้เลือกมากถึง 5 แบบด้วยกัน แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็น “รอยัล ลานนา วิลล่า” ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่รอบสระว่ายน้ำที่มีลักษณะคล้ายคูเมือง ซึ่งศิริปันนานับเป็นโรงแรมเดียวในตัวเมืองเชียงใหม่ที่มีห้องพักแบบวิลล่า นอกจากห้องพักแบบวิลล่าแล้วยังมีห้องพักบนอาคารซึ่งมีทั้ง ห้องดีลักซ์ ห้องแกรนด์ดีลักซ์ ห้องลักซ์ชัวรี่ ลานนา การ์เด้น และ ห้องศิริปันนา รอยัล สวีท ภายในห้องพักทุกห้องถูกตกแต่งด้วยสไตล์ล้านนาผสมผสานศิลปะแบบจีน ตามแบบอย่างของนครโบราณใต้พิภพ “เวียงกุมกาม” ที่มีอายุมากว่า 700 ปี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าหากว่าเครื่องใช้บางชิ้นในห้องจะมีกลิ่นอายแบบ จีนๆ ปะปนอยู่ด้วย ที่สำคัญห้องพักแต่ละประเภทยังมีพื้นที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยสิ่งอำนวย ความสะดวกมากมาย แถมทุกห้องพักยังมีระเบียงส่วนตัวกว้างๆ ให้ได้นั่งเล่นชมนกชมไม้ได้อย่างเพลิดเพลิน เพราะไม่ว่าจะมองไปทางใดเราก็จะเห็นต้นไม้นานาชนิดแทรกตัวอยู่เต็มพื้นที่ เพราะทุกพื้นที่ในโรงแรมถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดต้นไม้เดิม อย่างต้นโพธิ์ไทย และโพธิ์อินเดียรวมถึง การรักษาบ่อน้ำโบราณที่มีอายุกว่า 100 ปีเอาไว้ในพื้นที่ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้บรรยากาศภายในโรงแรมศิริปันนามีมนต์ขลังที่น่าประทับใจ ต่างไปจากที่อื่นๆ

หลังจากชมห้องพักไปเรียบร้อยแล้ว ทีนี้เราจะพาไปฝากท้องกินอาหารอร่อยๆ กันที่ห้องอาหาร “สะหลี บันยัน” นอกจากอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่มีให้เลือกตั้งแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง แบบไทยๆ ไปจนถึงอาหารเช้าแบบอเมริกัน ที่ห้องอาหารแห่งนี้ยังมีเมนูเด็ดๆ อีกมากมาย เริ่มตั้งแต่อาหารพื้นเมืองอย่าง “ออเดิร์ฟเมือง” ที่มีทั้งไส้อั่ว แหนม น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แคปหมู ผักสด ยกขบวนกันมาแบบครบเซ็ต ต่อด้วย “ข้าวซอยกุ้ง” รสเข้มข้น จากนั้นลองเปลี่ยนรสชาติมาลิ้มลองอาหารฝรั่งกันบ้าง ซึ่งเรื่องรสชาตินั้นต้องบอกว่า “เป๊ะ” เลยทีเดียว ทั้ง “ซุปเห็ดข้นกับน้ำมันเห็นทรัฟเฟิล” เสิร์ฟมาในชามขนมปัง และ “แกะย่าง เสิร์ฟกับผักและราตาตูย, โรสแมรี่ซอส” ที่ เนื้อแกะย่างได้กำลังสุกกำลังดี ที่สำคัญเนื้อนุ่มและไม่มีกลิ่นสาปให้เสียอารมณ์ จากนั้นเราขอเลือกขนมหวานยอดนิยมที่เต็มไปด้วยรสกาแฟอย่าง “ทิรามิสุ” ก่อนจะเลือกค็อกเทลหลากสีมาจิบปิดท้ายมื้ออร่อยนี้ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจภายในโรงแรมนั้นต้องยกให้ “ปันนา สปา” สปาสุดหรูที่มาพร้อมกับทรีตเม้นท์จากผงอัญมณี และทรีตเม้นท์จากข้าว ซึ่ง เป็นข้าวที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ของโรงแรม ที่สำคัญสปาแห่งนี้ยังเป็นสปาแห่งเดียวที่เป็นสปา 9 สัมผัส ที่ให้ความสำคัญในการบำบัดไปจนถึงจิตวิญญาณด้วยการปลุกสัมผัสทั้ง 9 และหลอมรวมจิตและจิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย แต่จะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องขอให้ได้ไปลองสัมผัสด้วยตัวเอง และใกล้ๆ กันกับสปาอันเงียบสงบแห่งนี้คือ “เฮือนศิลป์สล่า” เรือนไทยล้านนาหลังใหญ่ที่สามารถใช้จัดเลี้ยงต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งอาณาบริเวณรอบๆ เรือนไทยนี้ยังได้จำลองวิถีชีวิตของชาวเมืองล้านนาทั้งการทำนาปลูกข้าว และการทำการเกษตรอื่นๆ ยิ่งถ้าหากเราได้มีอากาสเข้าพักในช่วงที่มีการทำนาด้วยแล้วล่ะก็ เราอาจจะได้มีโอกาสลงมือดำนา หรือเกี่ยวข้าวด้วยนับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ถ้าหากเราไม่มีโอกาสได้ลงมือลองทำนาด้วยตัวเองก็อย่างเพิ่งเสียใจไป ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งจิบชา ละเลียดขนมอร่อยๆ ในช่วงแดดร่มลมตก เคล้าสายลมและวิวจากทุ่งนาสีเขียวก็โรแมนติกมากเช่นกัน

หลังจากเดินจนครบทุกบริเวณแล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาขอตัวไปอิ่มเอมกับบรรยากาศอันร่มรื่น และผ่อนคลายไปกับการพักผ่อนที่แสนสบายในโรงแรมศิริปันนาก่อนนะครับ ส่วนใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วนึกอิจฉาเรามาบ้างแล้ว ก็อย่ามัวแต่อิจฉาครับ รีบหาวันว่างแล้วออกเดินทางกันเลย

- โรงแรมศิริปันนา มีบริการรถรับส่งไปยังไนท์บาร์ซา และถนนคนเดินทั้งถนนวัวลายและประตูท่าแพ

- การวางแผนผังภายในโรงแรม มีลักษณะคล้ายการวางผังเมืองล้านนาในอดีต เช่น การขุดคูเมืองไว้ล้อมรอบเมือง

- ภายในบริเวณโรงแรมมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่หลายต้น รวมถึงบ่อน้ำโบราณ ที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งทางโรงแรมยังคงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี

- สระว่ายน้ำของโรงแรมเป็น "สระน้ำเกลือ" ดังนั้นจึงหมดห่วงเรื่องสารคลอรีนไปได้เลย