Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
ศาลกรมหลวงชุมพร ในวันที่ควันธูปและเปลวเทียนไม่เคยดับ ศาลกรมหลวงชุมพร (Prince Apakorn Memorial Shrine) จ.ระยอง
    • Posts-1
    theTripPacker •  September 23 , 2013

    ปากน้ำประแส จ.ระยองนั้น เป็นตำบลเล็กๆ อยู่ติดทั้งแม่น้ำ และทะเล ซึ่งที่ท่องเที่ยวนั้นไม่เพียงแค่เรือรบหลวงประแสเท่า นั้นที่เป็นจุดถึงดูดผู้คนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่าง ศาลกรมหลวงชุมพรฯไว้ให้ได้สักการะขอพรกันอีกด้วย ซึ่งศาลแห่งนี้เป็นหนึ่งใน 217 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจำนวนที่มากมายขนาดนี้ น่าจะเป็นการสะท้อนความศรัทธาต่อพระองค์ที่ได้ทำไว้ ทั้งเรื่องของการวางรากฐานให้กับกองเรือราชนาวีไทย และยังทรงเชี่ยวชาญทางแพทย์แผนไทย จนสามารถรักษาผู้ป่วยด้วยพระองค์เองอีกด้วย

    ซึ่งสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ หรือชื่อเต็มของพระองค์ท่านคือ พล.ร.อ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงเป็นต้นราชสกุล อาภากร และทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกทั้งทรงเป็นองค์ที่ 1 ในจอมมารดาโหมด พระองค์ทรงประสูติเมื่อ 19 ธันวาคม 2423


    • Posts-2
    theTripPacker •  September 23 , 2013

    เมื่อทรงวัยพระเยาว์ พระองค์ได้ทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบ จากนั้นพระองค์ก็ทรงได้เข้ารับการศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรือ ณ ประเทศอังกฤษเมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือเป็นที่เรียบร้อย ก็ทรงได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทหารเรือ โรงเรียนปืนใหญ่ และโรงเรียนตอร์ปิโด จนได้เลื่อนยศเป็นเรือเอก รวมเวลาที่ทรงศึกษาอยู่ในราชนาวีอังกฤษ 6 ปีเศษ ซึ่งเมื่อพระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาแล้ว จึงได้ทรงเสด็จกลับมาประเทศไทย ในวันที่ 23 มิถุนายน 2443 และได้รับพระราชทานยศเป็น นายเรือโท  (ปัจจุบันเทียบเท่า นาวาตรี) อีกทั้งทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น พระองค์เจ้าต่างกรม “กรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกรมทหารเรือ และเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ซึ่งพระองค์ทรงได้นำความรู้ที่ได้เล่าเรียนมาปรับปรุงการเรียนการสอนวิชา ทหารเรือ โดยเพิ่มเติม วิชาดาราศาสตร์ ตรีโกณมิติ อุทกศาสตร์ เพื่อให้ทหารเรือไทยเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว สามารถเดินเรือทางไกลได้ ทั้งนี้ยังทรงเป็นครูสอนนักเรียนนายเรือด้วยพระองค์เอง รวมถึงยังได้เป็นผู้วางรากฐานกิจการกองทัพเรือไทย ให้มีความเข็มแข็งมั่นคง เจริญก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน

    ขณะเดียวกันสิ่งหนึ่งที่สะท้อนความเป็นอัจฉริยภาพในด้านยุทธศาสตร์ที่มอง การณ์ไกล ว่าอ่าวสัตหีบนั้น เหมาะที่จะตั้งเป็นฐานทัพเรือ เพราะมีขนาดใหญ่ สามารถฝึกซ้อมยุทธการต่างๆ ได้ รวมไปถึงหมู่เกาะน้อย ใหญ่เหล่านั้นก็เป็นที่บังคลื่นลมได้เป็นอย่างดี ซึ่งฐานทัพดังกล่าวก็ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2465 ไม่เพียงเท่านั้น พระองค์ยังทรงศึกษาค้นคว้าในแพทย์แผนไทย และเสด็จไปรักษาประชาชนผู้เจ็บไข้ได้ป่วย จนมีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงให้การรักษากับชายชาวจีนคนหนึ่ง แถวย่านสำเพ็ง ทำให้ชายคนนั้นซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณมาก ถึงกับเรียกพระองค์ท่านว่า “เตี่ย” หลังจากนั้นผู้คนทั่วไปก็ได้เรียกขานพระนามนี้จนติดปากมาจนถึงทุกวันนี้

    • Posts-3
    theTripPacker •  September 23, 2013
    • Posts-4
    theTripPacker •  September 23 , 2013

    และเมื่อเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 พระองค์ทรงประชวรด้วยพระโรคไข้หวัดใหญ่ และสิ้นพระชนม์ ที่ตำบลทรายรี จ.ชุมพร สิริพระชนมายุได้ 43 พรรษา สร้างความเศร้าสลดให้กับประชาชนทั้งแผ่นดิน และต่อมาจึงได้มีการสร้างศาลเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณูปการที่พระองค์ทรงเคย ได้กระทำมากมาย ซึ่งปัจจุบันเมื่อนับรวมกันทั่งประเทศมีมากถึง 217 แห่งเลยทีเดียว และด้วยความซาบซึ้งของเหล่าทหารเรือไทย จึงให้สมญานามพระองค์ว่าเป็น บิดาแห่งกองทัพเรือไทย ซึ่งคุ้นหูหลายคนเป็นอย่างดี

    ทั้งนี้เราก็ได้ย้อนพระราชประวัติของพระองค์กันพอสังเขปแล้ว ต่อไปเราก็ขอพาทุกท่านเข้าไปยังด้านในของศาลเพื่อกราบขอพรจากพระองค์ท่านกัน ซึ่งศาลแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำประแส บรรยากาศค่อนข้างดี สามารถมองเห็นเรือประมงน้อยใหญ่ รวมถึงวิถีผู้คนริมน้ำได้เช่นกัน ลักษณะของศาลเป็นรูปแบบทรงไทย มีประตูอยู่ 4 ทิศ หลังไม่เล็กไม่ใหญ่ พอเหมาะขนาดกำลังดี ภายในมีรูปหล่อโลหะเท่าพระองค์จริงประทับอยู่ในท่ายืน และนอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเสี่ยงเซียมซีทำนายโชคชะตา อีกทั้งยังจะได้พบเห็นกรอบรูปที่บรรจุคติธรรมคำสอนจากพระองค์ที่น่าจะสร้าง กำลังใจในการใช้ชีวิตได้ไม่น้อยเลย

    ในส่วนของเครื่องสักการะที่ผู้คนนิยมนำมาบูชาก็เป็นต้นว่า ดอกกุหลาบสีแดง พวงมาลัยดอกมะลิ การจุดประทัดถวาย รวมถึงเรือจำลองเป็น ต้น ในส่วนของเครื่องบวงสรวงเพื่อเซ่นไหว้ที่นิยมนำมาถวายก็คือ น้ำตาลเมา ซึ่งพระองค์โปรดปรานเป็นพิเศษ รวมไปถึง เหล้า เบียร์ บุหรี่ ผลไม้ ขนม และกับข้าวไทยๆ รสจัด ซึ่งสิ่งที่ไม่ทรงโปรดก็ได้แก่ การเอาพวงมาลัยไปสวมพระเศียร และเมนูพะแนงเนื้อ เพราะเคยมีผู้นำมาถวายแล้วเกิดอาเพศ ทว่าไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่

    • Posts-5
    theTripPacker •  September 23, 2013
    • Posts-6
    theTripPacker •  September 23 , 2013

    ขณะเดียวกันบริเวณหน้าทางเข้าศาลก็ยังมีตุ๊กตาทหารตัวเล็กๆ แลดูน่ารักน่าเอ็นดู ที่คอยยืนเฝ้าอารักขาเคียงข้างพร้อมกับปืนใหญ่ที่ตั้งขนาบอยู่ทั้งสองข้าง ของศาลแห่งนี้ ทว่าบริเวณถัดออกมาอีกเล็กน้อยที่เป็นซุ้มปักธูปเทียนนั้น พื้นปูกระเบื้องโดยรอบนั้นค่อนข้างจะลื้นอยู่มากพอสมควร เป็นไปได้ว่าน้ำมันที่ใช้สำหรับเติมตะเกียงรั่วลงสู่พื้น จึงควรเดินระมัดระวังซักเล็กน้อย รวมถึงบริเวณข้างศาลนั้นก็ยังมีองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผมประทับอยู่ รอให้ผู้มาเยือนได้สักการะอีกเช่นกัน แล้วถ้าหากใครที่ยังมีเวลาเหลือ เฝือ ก็สามารถนั่งชื้นชมกับบรรยากาศใต้ต้นไม้ร่มรื่น รับลมเย็นๆ ที่พัดมาจากแม่น้ำ ด้านหลังของตัวศาลได้

    ซึ่งน่าจะดีไม่น้อยเลยนะครับ เมื่อได้เดินทางท่องเที่ยวหาความสำราญ แล้วระหว่างทางก็แวะเวียนเข้าไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลของกรมหลวงชุมพรฯ ที่ปากน้ำประแสแห่งนี้

    • Posts-7
    theTripPacker •  September 23, 2013

    ความคิดเห็นของผู้เขียน

    • Strong point:
    • บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างดี เพราะผู้ที่มาสักการะที่ศาลแห่งนี้สามารถนั่งพักผ่อนบริเวณหลังศาล ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำประแส
    • Weak point:
    • พื้นบริเวณหน้าศาลนั้นค่อนข้างลื่น จากน้ำมันเติมตะเกียง
    • Conclusion:
    • ศาลกรมหลวงชุมพรฯ แห่งปากน้ำประแสนี้ ถือเป็นหนึ่งใน 200 ร้อยกว่าแห่งทั่วประเทศ ซึ่งด้วยจำนวนที่มากถึงขนาดนี้ ก็สามารถเครื่องพิสูจน์ความศรัทธาของผู้คนมากมายได้เป็นอย่างดี คราวหน้าถ้ามีโอกาสได้ผ่านไปยังปากน้ำประแส ก็ไม่ควรพลาดหาโอกาสเข้าไปกราบสักการะ เพื่อเป็นมงคลกับชีวิต
    Score
    • Posts-8
    theTripPacker •  September 23 , 2013

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : หมู่ 3 ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง

    GPS : N12 43 1.14, E101 42 12.78

    เวลาทำการ : 7.00 น.-18.00 น.

    ช่วงเวลาแนะนำ : ทุกช่วงของปี

    กิจกรรม : สักการะขอพรกรมหลวงชุมพรฯ

    • Posts-9
    theTripPacker •  September 23 , 2013

    วิธีการเดินทาง

    จากตัวเมืองระยองให้ใช้เส้นทาง ถ.สุขุมวิท วิ่งไปทาง จ.จันทบุรี กระทั่งเมื่อมาถึงก.ม.ที่ 278 แล้วก็ให้เลี้ยวขวาที่แยกประแส จากนั้นวิ่งตรงไปเรื่อยๆ แล้วให้เลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ ถ.เทศบาล 1 ซึ่งจุดสังเกตคือปั๊มน้ำมันเก่าๆตรงปากทาง แล้วก็ให้วิ่งตรงไปจนสุดทางสามแยกจึงเลี้ยวขวาไปอีกเล็กน้อย พอข้ามสะพานก็จะพบศาลอยู่ฝั่งซ้ายมือ   

    • Posts-10
    theTripPacker •  September 23, 2013
  1. View more