คนหลงทาง #7 : ก่อนดวงอาทิตย์อุทัย ในที่ที่หมอกไม่เคยหลับไหลแม้ยาม ‘เที่ยงคืน’ ณ ภูเตาโปง จ.เลย
ก่อนดวงอาทิตย์อุทัย ในที่ที่หมอกไม่เคยหลับไหลแม้ยาม ‘เที่ยงคืน’ ณ ภูเตาโปง จ.เลย
-----------------
เมื่อผมพาสองขา ออกไปตามหา หมอกเที่ยงคืน...
หลายครั้งที่ผมมีโอกาสได้ออกเดินทางไปชมหมอกในที่ต่างๆ ถามว่าการไปดูหมอกซ้ำๆ ที่นั่นที ที่นี่ที ก็คงจะเหมือนๆกันไปหมดใช่มั้ย ?
ผมตอบได้เต็มปากเลยครับว่า 'ไม่'
เพราะทุกๆสถานที่ที่ผมไป ไม่เคยมีอะไรเหมือนกันเลยสักแห่งจริงๆ ดังเช่นครั้งนี้ ที่ผมได้พบกับภาพของหมอกยามเที่ยงคืน จากเพจๆเพจหนึ่ง ก็อดสงสัยในใจไม่ได้ว่า 'มีแบบนี้ด้วยเหรอ ?'
ในชีวิตผมเคยแต่เดินป่าข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่า และตื่นมารอพบกับหมอกตอนเช้า แล้วเดินลงเขากลับ เป็นลูปของการเดินทางทั่วๆไป วนอยู่อย่างนี้ไม่เคยเบื่อ แต่มันคงจะดีไม่น้อยถ้าผมจะได้นอนเหยียดขาดูหมอกและดาวไปพร้อมๆกันในยามเที่ยงคืน ท่ามกลางวิวสวยๆ แค่จินตนาการตามก็อดไม่ได้ที่จะต้องหาโอกาสพาตัวผมขึ้นไปอยู่นั้นเสียจริงๆ
และแล้วการเดินทางของ ค น ห ล ง ท า ง ก็เริ่มต้นขึ้น...
ภูเตาโปง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดใหม่มาได้สักระยะ ตั้งอยู่ที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย หากพูดถึง จ.เลย ทุกคนก็คงพากันนึกถึง ภูกระดึง หรือ ภูบ่อบิด อันขึ้นชื่อลือชาเป็นอันดับแรกๆเป็นแน่
แล้วทำไมผมถึงไม่ไปเที่ยวที่ดังๆล่ะ ?
ไปสิดีนะ ใครๆก็รู้จัก ใครๆก็ชอบ ใครๆก็อยากไป
เพราะผมเชื่อว่าประเทศไทยยังมีอะไรมากมายอีกหลายแง่มุมที่ยังรอให้เราได้สัมผัสอยู่ ไม่จำเป็นต้องไปแต่ที่ดังๆก็ได้ ขอเที่ยวแบบสบายๆ คนน้อยๆ ให้ได้ความรู้สึกว่ามาพักผ่อนจริงๆ มาอยู่ในจุดที่สบายใจที่สุดจะดีกว่า ก่อนจะเดินทางมาที่นี่ก็คิดอยู่หลายทีว่าจะไปไหนกันดีนะ ? จนได้พบกับคอมเม้นของลูกเพจท่านนึงครับ ที่มาเม้นไว้ที่อัลบั้ม 'ดอยฟ้างาม' ทริปล่าสุดที่เพิ่งไปมา ก็จับใจความได้ว่า แถวๆบ้านมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกว่า ภูฆ้อง
นี่เลยครับ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด หลังจากได้ยินชื่อนี้ผมก็สงสัยว่า ภูฆ้อง คืออะไรอยู่ที่ไหนกันนะ จนได้รู้ว่า อยู่ที่ จ.เลย ก็ถาม Google ไป ถาม Google มาก็ไปเจอกับ 'ภูเตาโปง' และภูอะไรอีก 2-3 แห่งใน จ.เลย ที่โผล่ขึ้นมาเป็นข้อมูลที่หลากหลายมากขึ้น
แต่เนื่องจากภูฆ้องอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเชียงคาน ไว้ทริปไหนมีเวลามากกว่านี้ก็เลยไปเชียงคานซะด้วยเลยจะดีกว่า ทริปนี้สั้นๆ 2 วัน 1 คืน ก็ขอไปที่ภูเตาโปงก่อน เรียกว่าสวยงามกันคนละแบบ หลังจากตกลงเลือกวันเดินทางกันเรียบร้อย ก็นัดแนะสมาชิกกันเสร็จสรรพติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง ระหว่างที่ใจจดจ่อกับการจะเดินทางไปนั้น ก็ไปพบกับภาพของหมอกเที่ยงคืน จึงได้มารู้ว่า 'เห้ยยย!! มีแบบนี้ด้วยหรอวะ' (อุทานในใจ 5555+)
ผมนี่ทนนับวันรอแทบไม่ไหว ทำงานนับวันนับเวลา เมื่อไหร่จะวันศุกร์สักทีหนออออ จะได้ปลดปล่อยความสุขกันเสียที...
การเดินทางของผม เริ่มต้นในคืนวันศุกร์เหมือนเช่นทุกที เลิกงานก็ไปทันทีไม่มีเหน็ดเหนื่อย 5555+
ผมถือว่า คืนวันศุกร์นี่เป็นฤกษ์งามยามดีครับในการจะออกหาความสำราญจากธรรมชาติ เพราะตื่นเช้ามาก็แบบว่าถึงเลย! แต่รอบนี้คือถึง เลย จริงๆครับ เพราะจุดหมายปลายทางของผมคือ จ.เลย
มาถึงก็มาแวะกันตรงจุดชมวิวที่ด่านซ้าย เห็นบรรดาผีตาโขนยืนเรียงกันหน้ากระดาน ทำท่าทางน่ารักน่าชัง นั่นแปลว่าผมมาถึงแล้วแน่นอน
มาเหยียบเท้าที่นี่ก็ ตี 3 เห็นจะได้ มาถึงก็ลังเลๆ จะไปหาที่นอนกันที่ไหนดี หันไปหันมา 'โอ้ววว...ศาลารักที่พักใจ' 55555+ ขอกางผ้าใบนอนสักสองชั่วยามจะได้ไหม อีกสักครู่พี่ก็จะตื่นมาชมหมอกแล้ว เลยไม่อยากไปไหนไกล ก็ตกลงปลงใจนอนกันที่นี่เลยครับบบบ
นี่แหละครับ หน้าตาศาลารักที่พักใจของผม ปูผ้าใบนอนกันแปปนึง ก็ตื่นมาดูหมอกแล้วก็จะเดินทางกันต่อครับ
หมอกอู้ฟู้ตั้งแต่เริ่มต้นทริปเลย ถือว่าเป็นเรื่องดีครับ เอาฤกษ์เอาชัยกันสุดๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่า มาเห็นหมอกแล้วจะกลับบ้านเลยนะครับ 5555+
ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไรเลย จะสำเร็จเป้าหมายแล้วหรอ ไวไปครับไวไป...
จากจุดชมวิวที่ด่านซ้ายนี้ ก็จะมองเห็นวัดที่อยู่ไกลๆ ในเขาเบื้องหน้า ที่มีหมอกรายล้อมจนมองแทบไม่เห็นตัววัดกันเลย
หลังจากนั้นพวกเราก็ล้อหมุนไปหาที่แวะต่อไป ก็ไปเจอกับ พระธาตุศรีสองรัก อยู่ที่อ.ด่านซ้าย เช่นกันครับ ก่อนจะต้องเดินทางต่อ เราก็ขอแวะเพิ่มความเป็นสิริมงคลกันหน่อย
ที่นี่ถือเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมือง ที่คนมักจะมากราบไหว้สักการะ รวมทั้งชาวบ้านแถวนั้น เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านใน ผมก็เห็นคุณลุง 2 ท่านกำลังอะไรกันอยู่กับกองอะไรสีเหลืองๆ ที่ผมไม่เคยเห็น และไม่เคยรู้จักมาก่อน...
สิ่งนี้ เรียกว่า ต้นดอกผึ้ง ครับ เราคงเคยชินกับแก้บนด้วยหัวหมู หรือสิ่งของต่างๆ รวมไปถึงการรำแก้บน แต่ผู้คนที่นี่ จะใช้ต้นดอกผึ้งในการสักการะแก้บนตามความเชื่อ ถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานานทีเดียว ผมเองเป็นคนต่างถิ่น เดินทางมาหลายจังหวัดในแถบๆนี้ แต่ก็เพิ่งเคยเห็นพิธีกรรมแบบนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน เลยไม่เเน่ใจว่าการทำแบบนี้ เกิดขึ้นเฉพาะที่ จ.เลย หรือไม่ ? ยังไงผู้รู้หรือคนในท้องถิ่น สามารถแนะนำได้นะครับบบบ
รู้สึกโชคดีที่การเดินทางมันได้นำให้เรามาค้นพบกับอะไรที่เราเองไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นมาก่อน
เดินดูรอบๆกันได้สักพักแล้ว เราก็เข้าไปด้านในไหว้พระกันสักหน่อย ช่วงนี้แทบทุกทริปของผม จะต้องมีแวะไปที่วัดเพื่อความสบายกายสบายใจกันตลอด ก่อนที่จะมุ่งไปยังจุดหมายปลายทาง
หลังจากไปวัดพระธาตุศรีสองรักแล้ว พวกผมก็ไปแวะที่ตลาดกันครับ หาซื้อของกิน อาหารอะไรกันสักหน่อย ระหว่างที่เดินๆอยู่นั้น ก็มีน้องที่จะเป็นผู้นำทางผมไปในทริปนี้ โทรมาถามว่าถึงไหนอะไรยังไงแล้ว พอทราบว่าพวกผมอยู่ที่ตลาดกัน ก็มารับกันถึงที่เลยครับ รวดเร็วทันใจไม่ต้องรอนาน 5555+
ซึ่งก็เป็นน้องที่เป็นผู้ดูแลเพจ ภูเตาโปง ป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม อายุยังแค่ 20กว่าๆกันเองครับ แต่น้องพวกนี้มีใจรักบ้านเกิด อยากพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในบ้านเกิดให้เป็นที่รู้จัก และคอยนำทางให้นักท่องเที่ยวอย่างไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เราก็อาจจะรวบรวมเงินเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์หรือการดูแลเพื่อส่วนรวมบ้างเล็กๆน้อยๆ ถือเป็นสินน้ำใจ ถือซะว่าขอบคุณที่น้องๆกลุ่มนี้ ช่วยกันดูแลธรรมชาติ อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งการทำสิ่งเหล่านี้ บางทีก็ต้องมีค่าใช้จ่ายค่านั่นค่านี่บ้าง เราก็ช่วยๆกันคนละเล็กคนละน้อยครับ
หลังจากมารับพวกผมที่ตลาดกันเรียบร้อยแล้ว น้องแอดมินก็พาพวกผมไปที่ วัดเนรมิตวิปัสสนา กันต่อเลย แค่ฟังชื่อก็รู้สึกอยากไปเลยครับบอกตรงๆ ชื่อเพราะทีเดียวเชียว วัดนี้จะอยู่ห่างกับวัดพระธาตุศรีสองรักไปเพียงเล็กน้อย ตามมาดูบรรยากาศภายในวัดกันเลยครับ ...
ถึงข้างนอกจะเป็นศิลาแลงให้อารมณ์ขลังๆ สวยงามแบบเรียบง่าย ไม่ได้มีลายไทยลายกนก สีสันมากมายอย่างวัดทั่วไป แต่ถ้าได้เข้าภายในคือสวยสง่า สีแดงทองหรูหรา จะเป็นอีกอารมณ์หนึ่งเลยจริงๆ
พี่ผมสงสัยเข้าวัดแล้วจะมีความสุขมาก หน้าอิ่มบุ๊ญญญญญอิ่มบุญญญญ 55555+
หลังจากที่เราเข้าไปชมความงามภายในวัดกันแล้ว สถานที่ต่อไปที่น้องแอดมินภูเตาโปง พาไปก็คือ พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ครับ
มาจ.เลย ทั้งที โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ มาที่อ.ด่านซ้าย ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของผีตาโขน จะไม่มาเข้าถึงความเป็นมาเป็นไปกันก็คงจะไม่ใช่ที่ มาถึงถิ่นแล้วก็ต้องไปกันหน่อยครับ ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึง
ที่นี่จะมีผีตาโขนมากมายหลายแบบ มีความสวยงามแตกต่างกันไป จัดโชว์ไว้สำหรับเป็นความรู้ให้แก่นักท่องเที่ยว ได้มาหาความรู้เกี่ยวกับประเพณีและความเชื่อแบบพื้นบ้านๆนี้กันครับ
ตามมาเลยครับ...ผมจะพาทุกคนไปทัวร์พิพิธภัณฑ์แห่งนี้พร้อมๆกัน
ผมก็เป็นผีตาโขนนนน 555+
ชอบจังเลย เพิ่งเคยได้ใส่เป็นครั้งแรกเลยครับ เห็นแล้วน่ารักดี ก็ขอเอามาลองใส่กันหน่อย
ป้าผมก็เล่นลืมวัยเหมือนกันครับ ใส่กันอยู่สองคน แต่ป้าผมแอคติ้งนี่ไม่เบา ท่าทางพอได้มั้ยครับ 5555+
ผีตาโขน นั้น เดิมมีชื่อเรียกว่า ผีตามคน เป็นชื่อการละเล่นชนิดหนึ่ง ที่จะมีการทำหน้ากากเป็นหน้าตาผีต่างๆ แล้วเข้าขบวนแห่แสดงท่าทางต่างๆ ในระหว่างมีงานบุญตามประเพณีประจำปีของท้องถิ่นพื้นบ้าน
ที่มาที่ไป คือ ได้รับอิทธิพลมาจากมหาเวสสันดรชาดก ชาดกในทางพระพุทธศาสนาผนวกเข้ากับความเชื่อในเรื่องของภูตผีวิญญาณ แล้วประยุกต์เข้ากับยุคสมัยจนกลายมาเป็นผีตาโขนอย่างทุกวันนี้
น้องปาล์ม แอดมินเพจภูเตาโปง ก็แนะนำให้ความรู้เป็นอย่างดีเลยครับ ผมชื่นชมคนรุ่นใหม่เหล่านี้ ที่มีความรู้เรื่องราวท้องถิ่นและถ่ายทอดให้เราๆฟังกัน และทำด้วยใจที่รักบ้านเกิด
ถ้าคนสนใจจะเดินทางไป ก็สามารถติดต่อไปที่เพจ ภูเตาโปง ป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม กันได้นะครับ น้องๆเค้ายินดีที่จะให้ทุกคนได้มาเยี่ยมชมบ้านเกิด พาเดินขึ้นเขาลงห้วย แรกๆเริ่มต้นทริปก็มาเที่ยวกันแบบเบาๆก่อน เป็นการอุ่นเครื่อง อีกไม่นานเราก็จะได้เริ่มออกกำลังกายกันแล้ว 5555+
สาวๆเมืองเลย ที่คอยยืนต้อนรับนักท่องเที่ยว ส่งยิ้มหวานๆ ใส่ชุดแบบพื้นบ้าน มาคอยให้คำแนะนำแก่เราครับ