จากศรีราชาเข้าเมืองกรุงคืนวันศุกร์ (รถติดมากๆๆๆๆๆๆ บ้านนอกยังไม่ชิน) คุณเพื่อนชวนมาปาร์ตี้และนอนที่โรงแรมเซนทาราแกรนด์ ลาดพร้าว มาสิคะ รออะไร อิ่มจังตังส์อยู่ครบ เรานอนหลับดุ๊ย ดุ่ย กันเต็มอิ่ม กินอาหารเช้าควบอาหารเที่ยงกันเต็มที่ ออกจากโรงแรมก็สายมากๆ แล้ว พลังงานยังมีเหลือ เลยชวนเพื่อนไปเที่ยวกัน พอดีเราดูข่าวพระราชสำนัก ที่สมเด็จพระเทพฯ ท่านเสด็จเปิดนิทรรศการพิเศษ “คนแรกเริ่มบนแผ่นดินเรา” เราเลยบอกเพื่อนว่าอยากไปดู เพื่อนเลยนำทางไป เพื่อนพาต่อรถ ขึ้นรถเมล์ ต่อรถแท็กซี่ ไปสนามหลวง เราก็ งงๆ ตามไป ถึงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครก็เกือบๆ เที่ยง วันนี้รถติดมากๆ นี่วันเสาร์นะ คุณเพื่อนคนกรุงหันมาดูเราขำๆ บอกว่าเรื่องธรรมดา

     เริ่มทริปกันเลย  ซื้อตั๋วเข้าก่อน คนละ 30 บาท พร้อมโบชัวร์แผ่นพับ แผ่นที่ในพิพิธภัณฑ์ แล้วก็ประวัติ การจัดแสดงในแต่ละส่วน ส่วนเป้ตุงๆ ของเรากับเพื่อนสองใบต้องฝากไว้ตรงที่จำหน่ายตั๋ว เอาไปเฉพาะที่จำเป็น มือถือ กล้อง กระเป๋าสตางค์ ในพิพิธภัณฑ์สามารถ่ายรูปได้ตามสบาย แต่ห้ามใช้แฟลชเท่านั้น ซึ่งเราชอบมาก

     อ่านจากประวัติในโบชัวร์ บอกว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งอยู่บริเวณ พระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า เป็นที่ประทับของพระมหาอุปราชถึง 5 พระองค์ ส่วนแรกที่เราไปเยือน เป็นพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน เป็นส่วนที่เราชอบที่สุด จัดแสดงได้อย่างงดงาม แสงสีที่จัดวาง สวยงามมาก มีวัตถุโบราณชิ้นเอกแต่ละยุคสมัยมาแสดงในห้องนี้ เข้าไปชมในส่วนนี้มีเครื่องฟังประกอบคำบรรยาย เสียบหูฟังได้ ใช้บัตรประชาชนแลกเครื่องมาฟัง ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เวลาเราไปตรงวัตถุโบราณชิ้นไหน จะมีหมายเลขกำกับ เราก็กดตามหมายเลขที่เครื่อง แล้วกด Play เราก็จะได้ฟังประวัติในชิ้นนั้นๆ เสียงบรรยายเหมือนเสียงอาปุ๊มนตรี ฟังแล้วไม่ง่วงค่ะ ข้างในพระที่นั่งศิวโมกขพิมานนี้เป็นห้องปรับอากาศ เดินชม ถ่ายรูปเพลินเลย

พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน

เจ้าหน้าที่ตรวจบัตรเข้าชม มีบริการเครื่องฟังบรรยายโดยเราต้องวางบัตรประชาชน

เครื่องฟังบรรยายประกอบในแต่ละศิลปะวัตถุ

     จากพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน เราไปไหว้พระพุทธสิหิงส์ ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรค์ 

พระที่นั่งพุทไธสวรรค์

พระพุทธสิหิงส์ 

     จากนั้นก็เข้าชมพื้นที่ส่วนใน จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรเข้าชมอีกครั้ง เรากับเพื่อนเข้าชมในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ครบทุกพระที่นั่ง ครบทุกอาคาร บางส่วนติดแอร์ บางส่วนก็โอเพ่นแอร์ โชคดีที่วันนี้อากาศไม่ร้อนมาก ส่วนนิทรรศการ “คนแรกเริ่มบนแผ่นดินเรา” ที่เราอยากดูอยู่ในส่วนของพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย แสดงในช่วงเวลาของยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีกระดูกคนโบราณ ข้าวของเครื่องมือที่ใช้ วิธีการเก็บรวบรวมหลักฐานของนักโบราณคดี จัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ แอร์เย็นดีด้วย 555

จุดตรวจบัตรที่สอง ด้านซ้ายเป็นพระตำหนักแดง

ภายในพระตำหนักแดง

เข้าชมนิทรรศการ ที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย

     เราใช้เวลาการชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ทั้งหมด เกือบ 4 ชั่วโมง ชมศิลปวัตถุ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทวารวดี ศรีวิชัย  สุโขทัย ล้านนา อยุธยา ฯลฯ จนมาจบที่ โรงราชรถ เป็นการใช้เงิน 30 บาท ที่คุ้มค่ามากๆ พื้นที่บางส่วนของพิพิธภัณฑ์กำลังบูรณะ เราสอบถามเจ้าหน้าที่ ให้ข้อมูลเราว่า น่าจะแล้วเสร็จกลางปีหน้า เราว่าพิพิธภัณฑ์ของเรามีข้าวของที่ทรงคุณค่า น่าชมเป็นอย่างมาก แต่บางพื้นที่ที่จัดแสดง ยังดูเก่า ยังไม่ได้รับการปรับปรุงมาเป็นเวลานาน ที่เรารู้เพราะเราเคยเข้ามาวาดรูปที่นี่เมื่อนานมาแล้ว บางพื้นที่ก็ยังคงสภาพเดิม โอกาสหน้าจะมาชมใหม่ หวังว่าพิพิธภัณฑ์ จะปรับปรุงการจัดแสดงให้น่าสนใจเหมือนพื้นที่แรกที่เข้าชม (พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน) 

หมู่พระวิมาน

พื้นที่จัดแสดงอาคารด้านข้าง

พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์

โรงราชรถ

     เสร็จจากชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เรากับเพื่อนหิวกันมาก เปิดอากู่ดูหาที่กินชื่อดัง เรากับเพื่อนเลยนั่งรถแท็กซี่ไปบริเวณถนนพระอาทิตย์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์มาก แต่เราไม่เดิน เราหิว เราไปกินที่ร้านโรตีมะตะบะ ตรงแถวป้อมพระสุเมรุ อาหารอร่อยมาก เราสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ กินจนพุงจะแตก ทั้งคาวหวาน กินไปสองคนหมดไม่ถึงสามร้อย กินเสร็จเดินย่อยกลับไปขึ้นรถเมล์แถวสนามหลวง เรากับเพื่อนแยกย้ายกันตรงอนุสาวรีย์ เรานั่งรถตู้กลับศรีราชา ตอนหกโมงเย็น ถึงศรีราชาสองทุ่ม จบทริปอย่างรู้สึกภาคภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า สวัสดีค่ะ

ป้อมพระสุเมรุ

เครื่องดื่ม

เครื่องดื่ม อาหารคาวหวาน ครบ อร่อยมากๆ