เรามักจะคุ้นหูกันอยู่เสมอเวลาได้ฟังข่าวฝนฟ้าอากาศที่บอกช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น - พระอาทิตย์ตก "วันนี้ที่ ผาชะนะได พระอาทิตย์ขึ้นเวลา 06.45 น. และตกที่ แหลมพรหมเทพ เวลา 17.50 น." ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาจะใช้ทั้งสองพิกัดนี้เป็นจุดอ้างอิงจากสุดขอบแดนฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก ในการรายงานแสงแรก และแสงสุดท้ายประจำวันนั่นเอง
ทริปนี้เราอยู่กันที่ ผาชะนะได จุดชมวิวริมโขงที่มีไฮไลท์เด็ดคือการได้ชมแสงตะวันแห่งวันใหม่ก่อนใครในสยาม รวมถึงลานดอกไม้ป่าริมผา น้ำตกห้วยพอก และเสาเฉลียงคู่ ซึ่งทุกจุดที่ว่ามารับรองว่าต้องถูกใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติกันอย่างแน่นอน
ผาชนะได ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของ จังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากมีไฮไลท์ที่น่าสนใจอยู่หลายจุด การเดินทางก็สะดวก แถมยังรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันทางอุทยานฯ ได้เริ่มกำหนดช่วงเวลาขึ้น - ลง ผาชนะได โดยแบ่งการเดินทางเป็นอย่างละ 2 รอบ / วัน โดยขาขึ้น คือ 04.30-07.30 น. และ 13.00-15.30 น. ส่วนขาลง คือ 08.30-10.30 น. และ 16.30-17.30 น.
นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะมาแคมป์ปิ้งกันที่นี่ด้วย โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งทางอุทยานฯ เอง ก็ได้จัดพื้นที่ไว้รองรับ ทั้งลานจอดรถ และลานกางเต็นท์ ที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง รวมถึงเต็นท์ และเครื่องนอนก็ยังเตรียมพร้อมไว้ให้เช่าบริการอีกด้วย
สำหรับจุดชมวิวผาชะนะได จะอยู่ในโซนที่เรียกว่า ป่าดงนาทาม ของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี สภาพป่าทั่วไปอยู่ในประเภทป่าเต็งรัง ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นลานหินสลับกับป่าโปร่งมีเพียงต้นไม้ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ส่วนไม้ดอกตามลานหินก็จะเป็นพวก หยาดน้ำค้าง, แดงอุบล, เอ็นอ้า, เหลืองพิสมร, กระดุมเงิน, หัวไก่โอก และ มณีเทวา กระจายอยู่ทั่วบริเวณ
หลังจากที่แสงเริ่มจ้าเกินไปแล้ว ไม่ไกลจากจุดชมวิวผาชะนะได ให้นักท่องเที่ยวเดินย้อนกลับมาประมาณ 600 เมตร จะมี น้ำตกห้วยพอก ที่ถึงแม้จะเป็นน้ำตกขนาดเล็กแต่ก็มีฟอร์มในการลดหลั่นของสายน้ำที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ถ้าเป็นน้ำตกห้วยพอกของแท้จะต้องได้ภาพดอกเอื้องนวลจันทร์สีเหลืองเคียงคู่สายกับน้ำตกกันมาด้วยนะครับ
อีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ เสาเฉลียงคู่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ สายลม และแสงแดด มีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งขึ้น ส่วนบนเป็นแผ่นหินวางอยู่ ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าแผ่นหินเป็นคนละชิ้นส่วนกัน รูปทรงโดยรวมมองดูคล้ายดอกเห็ด หากได้มาผาชะนะไดแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะชมเสาเฉลียงคู่กันด้วยนะครับ