“เชียงใหม่” จังหวัดที่มากี่ครั้งก็ยังไม่เคยพอ
2-3 กุมภาพันธ์ 2560
สถานที่ที่เป็นจุดหมายของเราในครั้งนี้คือ “ป่าสนวัดจันทร์” ตั้งอยู่ที่ “อำเภอกัลยาณิวัฒนา” ซึ่งเป็นอำเภอในลำดับที่ 878 ของประเทศไทย
2-3 กุมภาพันธ์ 2560
สถานที่ที่เป็นจุดหมายของเราในครั้งนี้คือ “ป่าสนวัดจันทร์” ตั้งอยู่ที่ “อำเภอกัลยาณิวัฒนา” ซึ่งเป็นอำเภอในลำดับที่ 878 ของประเทศไทย
การเดินทางครั้งนี้เราเดินทางด้วย “รถไฟไทย” เจ้าเดิม 555 กับขบวนใหม่..
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 (อุตราวิถี) กรุงเทพ-เชียงใหม่
ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 18:10 น. | ราคาเตียงล่าง 881 บาท // เตียงบน 791 บาท
การจองตั๋วสามารถจองผ่าน Call Center 1690 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง / หรือทำการซื้อที่ช่องจำหน่ายตั๋วตามสถานี / หรือจองออนไลน์ผ่านเว็บ **การจองตั๋วรถไฟสามารถจองได้ล่วงหน้า 60 วันก่อนการเดินทาง **
ขบวนรถนอน ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ เราเรียกว่าขบวนรถไฟนานาชาติ 555
ขบวนนี้แจกน้ำฟรี!!! คนละ 1 ขวด และที่ชอบมากคือการเปิดประตูค่ะ Touch ค่ะ Touch!
3 ครั้งหลังมานี้เราไปเที่ยวเชียงใหม่ จะใช้บริการของรถไฟ ขบวนรถนอน ตลอด โดยส่วนตัวชอบการเดินทางแบบนี้ และคิดว่าระหว่างการเดินทางเราได้พักผ่อนเต็มที่ ได้เข้าถึงการ "นอนหลับ" จริงๆ (ยกเว้นแต่นอนไม่หลับนะ 555) ถึงอาจจะใช้เวลายาวนาน แต่สิ่งที่ได้สัมผัสมันมีมากกว่า
การเดินทางไปยัง "ป่าสนวัดจันทร์" เราใช้เส้นทาง 1095 มุ่งหน้าสู่ อ.ปาย
แต่ แต่ แต่.. พวกเราเลือกที่จะเข้ามาในตัวเมืองปายก่อน เพื่อมาตุนเสบียง 555 กองทัพต้องเดินด้วยท้องนั่นเอง
มาแวะทานข้าวกลางวัน พร้อมกับหาซื้ออาหารสำหรับมือเย็น (ปล. เราไม่ได้สั่งจองอาหารเย็นกับที่พักไว้)
จุดชมวิวรักจัง กม.58 ทล.1095 ช่วงแม่แตง-ปาย
สะพานประวัติศาสตร์ปาย
ออกจากตัวเมืองปาย ไปตามถนน 1095 สักพักจะเจอทางแยกเพื่อไป "สะพานบุญโขกู้โส่" บ้านแพมบก อ.ปาย (อันนี้เราแวะก่อนเดินทางไปบ้านวัดจันทร์) ระหว่างทางก็จะผ่านหมู่บ้าน ผ่าน "น้ำตกแพมบก" สถานที่ยอดฮิตที่ นทท. ชาวต่างชาติชอบมาเที่ยวกัน ซึ่งเป็นน้ำตกเล็กๆ
ที่นี่ "สะพานบุญโขกู้โส่” เป็นสะพานไม้ไผ่สร้างเชื่อมระหว่างหมู่บ้านแพมบกกับวัด
หากเดินไปสุดสะพานจะเป็นวัด แต่สามารถขับรถเข้าไปได้นะ
เมื่อถึงฤดูทำนา พื้นที่ตรงนี้ก็คงกลายเป็นสีเขียวสวยงามและมีเสน่ห์ไม่แพ้ที่อื่นๆ
หลังจากเดินทางออกจากหมู่บ้านแพมบก เราก็ออกเดินทางกันต่อเพื่อมายังบ้านเหมืองแร่ เพื่อเข้าสู่ถนนสายหลัก 1265 มุ่งหน้า อ.กัลยาฯ สภาพเส้นทาง ลาดยาง บางช่วงเป็นหลุมบ้าง แต่โดยรวมสภาพดี เส้นทางไม่ได้ชันมาก ขับสบายๆ เรื่อยๆ ชิลๆ ชมวิวป่าเปลี่ยนสี (ช่วงที่ไปคือต้นเดือน ก.พ. 2560)
ระหว่างทางจะเจอ "น้ำพุร้อนบ้านเหมืองแร่" ซึ่งอยู่ริมถนน (ข้างทางอ่ะค่ะ 555)
ที่นี่มีไข่ขายด้วยนะ แต่วันที่เราไปไม่มีซักเจ้ามาขายเลย 5555 เค้าคงจะขายแค่วันเสาร์-อาทิตย์
ถึงแล้ว!!! "ป่าสนวัดจันทร์" หรือ "โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์"
ที่นี่ดูแลโดย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.)
ภายในโครงการมีบ้านพักหลายแบบให้เลือก และมีพื้นที่สำหรับการกางเต็นท์
สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-249349
.
.เราใช้เส้นทาง วัดจันทร์-สะเมิง ตามทางหลวงหมายเลข 1349 ตอนแรกก็ลังเลว่ารถเรา (รถเก๋ง) จะสามารถไปได้หรือไม่ เพราะมีบางช่วงประมาณ 8 กม. จะเป็นถนนลูกรังอัดแน่น ซึ่งกำลังเตรียมพื้นถนนสำหรับการลาดยาง แต่ทาง จนท. บอกว่ารถเก๋งก็ไปได้ ก็ไปเลยค่าาาา!!! อย่ารีรอ บางครั้งการเลือกเดินทางในเส้นทางที่เราไม่เคยไปมาก่อน ก็ไม่ได้น่ากลัวเสมอไป.. "มันต้องลอง!" (แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าเส้นทาง คือ ความประมาทในการขับขี่) และเป็นการตัดสินใจที่ถูกมาก เพราะวิวระหว่างทางสวยงามมากๆ 2 ข้างทางเป็นป่าสน สลับกับบางพื้นที่เป็นไร่สตรอว์เบอร์รี่
สภาพเส้นทางโดยรวมเราว่าโอเคมากๆ โค้งก็เยอะมากๆ ด้วย และชันด้วย 5555 แต่ถ้าหากมาหน้าฝน ช่วงที่ยังเป็นถนนลูกรัง บางจุด ก็ไม่แน่ใจนะว่ารถเก๋งจะไหวหรือเปล่า 555
ตรงนี้เป็นจุดสูงสุดของถนนเส้นนี้... ที่ความสูงประมาณ 1,440Msl. จุดชมทิวทัศน์ บ้านแม่แดด จะบอกว่า วิวสวยมาก จริงๆ อย่างกับถนนลอยฟ้าที่สันติสุขเลยค่ะ 5555+ แต่ว่าแต่ละที่ก็มีเสน่ห์ต่างกันออกไป
นี่คือ!!! ยานพาหนะของเราในทริปนี้!!!! การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ใช้บริการรถเช่าของ Crown Carrent ซึ่งบริการรับ-ส่ง ฟรีในตัวเมืองเชียงใหม่
.
.
.
เป็นสถานที่ที่ประทับใจอย่างมาก
เสียดายที่ยังเที่ยวชมไม่ทั่วทั้งโครงการฯ และสถานที่อื่นๆ ในอำเภอนี้ ด้วยเวลาที่จำกัด และรุ่งเช้าต้องออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปยังขุนวาง...
แล้วจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง.. "กัลยาณิวัฒนา"