สามสาวคีบแตะสะพายเป้เช็คอินแอทปีนัง งบ 3,000฿

 

***รูปเยอะ สรุปค่าใช้จ่ายอยู่ข้างล่างนะคะ****

To awaken alone in a strange town is one of the pleasantest sensation in the world.

การตื่นขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวในต่างถิ่นเป็นความตื่นเต้นที่สนุกที่สุดในโลก

________________________________________________________________________

รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกนะคะและคาดว่าจะมีรีวิวมาเรื่อยๆ 5555555

อาจจะมีภาษาวิบัตินิดๆหน่อยๆเพื่อให้เข้าถึงอารมณ์ ขอโทษล่วงหน้าด้วยนะคะ 

ไม่รู้อะไรมาจุดประกายความคิดว่า เฮ้ยยยย! อยากออกไปหาประสบการณ์ว่ะ อารมณ์แบบอยาก Backpack 

อยากมีทริปเที่ยวที่ไม่หรูหราไม่มีแบบแผนเหมือนไปกับทัวร์ไรเงี้ยะ อยากแบกเป้ไปเรื่อยๆไปแบบไม่มีจุดหมาย

เหนื่อยก็พักค่ำก็นอนหิวก็กิน ชิลๆ ณ.ตอนนั้นคืออารมณ์มันมาจริงๆ อ่านทุกรีวิวเลย 555555

หลังจากนั้นก็ได้อัพตัสในเฟสว่าอยาก Backpack สักพักแชทเด้งมาปรากฎว่าเพื่อนสมัยเรียนประถมกับน้องที่บ้านทักมาว่าอยากไปเที่ยวด้วย จึงเกิดทริป Penang อย่างง่ายดาย 

ทริปนี้เราไปช่วงสงกรานต์เมษาที่ผ่านมา จองรถก่อนไป1วัน ตอนโทรไปจองนี่วุ่นวายมาก โทรไปกว่าจะรับสาย พอรับสายปุ้ปนางแร๊พใส่รัวๆ โอเคๆแต้งกิ้งเซเว่นโอคล๊อกๆ บายยยย (ห้ะะ คืองง เงิบ คือยังไม่ทันได้อ้าปากพูดเลย ) เลยตัดสินใจไปจองที่ร้านแทนเพราะดูท่าแล้วน่าจะคุยไม่รู้เรื่อง 5555

เริ่มการเดินทางรถตู้จากตรังไปหาดใหญ่ 100 บาท ต่อรถตู้หญ.ไปปีนัง ( บริษัท KST Travel ) ราคารถตู้ไปกลับปีนัง 850บาท (เฉพาะช่วงเทศกาล) แต่ถ้าเป็นช่วงปกติจะอยู่ที่ 750 บาท

แต่ก่อนที่จะไปดันมีอุปสรรค คือเราโทรไปหาเพื่อนที่เคยเรียนปีนังว่านี่เราจะไปปีนังนะ แล้วมันบอกว่าจะไปยังไงช่วงนี้ตำรวจมาเลเค้าตรวจไม่ให้รถตู้เข้าเมืองเดี่ยวจะโดนจับเอา ใอ้เราก็เอ้าชิบหายแล้วทำไงดีไปรถไฟก็ได้หนิ แต่พอไปดูเวลารถไฟแล้วรถออก 6 โมงเช้าซึ่งมันเช้ามากกกๆๆๆๆ เลยยกเลิกรถไฟ คิดในใจยกเลิกทริปดีมั้ย ?

แต่ด้วยความที่บ้าบิ่นอยากลองของก็คุยไปคุยมาว่าเออ ตกลงไปก็ไปลองเสี่ยงดูละกัน 

ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ไปเที่ยวต่างประเทศเอง ไม่มีคนคอยจองโรงแรมให้ ไม่มีคนคอยนำทาง ไปแบบโง่ๆ ภาษาก็ง่อยๆ มีแค่แผนที่ไปเดียวก็เที่ยวได้สบาย  55555

หลังจากที่เคลียร์เรื่องรถตู้เสร็จ ก็ขึ้นรถกันเนื่องจากว่ามาสายเลยได้นั่งหลังสุด ท้องใส้นี่ปั่นป่วนไปหมด 

จากนั้นพอถึงสะเดาก็ลงไปจ้อปพาสปอร์ตเสร็จแล้วก็ขึ้นรถแล้วก็ หลับบบบบบบ Zzz

4ชม.กับการนั่งรถ ฝนก็ตกพรำๆ ไกล้ถึงแล้วววววว หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายซะหน่อย

ถีงแล้วปีนังงงงงง ก่อนจะมาก็คิดนะว่าปีนังมีอะไร ? เป็นเมืองเก่าๆแล้วมันจะน่าเบื่อมั้ย ? ถ้าไปแล้วจะผิดหวังมั้ย ? จะสนุกรึเปล่า ? ที่พักจะดีมั้ย ? อันตรายมั้ย ? บลาๆๆๆๆๆๆ คำถามเยอะแยะไปหมด 

แต่เอาเข้าจริงๆมันคุ้มมากนะที่ได้มา ถ้าเทียบตอนอ่านรีวิว กับ มาสัมผัสเอง คือมันต่างกันมากกก

เมื่อมาถึงตัวเมืองรถตู้ก็จะมาส่งเราที่หน้าโรงแรมที่เราจองใว้ คือ Red in cabana จองใว้ 2 คืน แต่....

รถตู้ดันแวะส่งลูกค้ากลุ่มแรกที่โรงแรม Kimberly House ก่อนใอ้เราเห็นคนลงเยอะเลยลงไปบ้าง ลงแบบ งง งง

ณ.จุดๆนั้นคือลงไปแบบไม่มีแผนอะไรเลย เลยบอกคนขับรถว่าจะลงที่นี่แล้วก็โทรไปยกเลิกห้องพักของโรงแรม Red in cabana  และทำการจองโรงแรม Kimberly house ณ.ตอนนั้นคือถ้าห้องเต็มนี่ชิบหายแน่ๆ

แต่แล้วพระเจ้าก็เข้าข้าง เราจองห้องพักสำเร็จภายใน5นาทีก่อนเข้าพัก ปรบมือให้กับความสำเร็จรัวๆๆ

อย่าทำตามนะคะมันเสี่ยงมากจริงๆอกอีแป้นจะแตก 5555555555

มองดูบรรยากาศรอบๆภายนอกโรงแรมเกือบทำพวกเราผิดหวัง คือแบบจีนจ๋ามากกกกกกกกกก 

คิดในใจเปลี่ยนตอนนี้ทันมั้ยเนี่ย :( จินตนาการตามนะคะ เคาน์เตอร์เก่าๆ บรรยากาศจีนๆ 5555

เช็คอินเสร็จรับกุญแจไปเปิดห้อง โอ้โหหหหหหหหหห ผิดคาด ห้องสวยมากกกกก

หลังจากที่กระโดดโลดเต้นตีลังกานั่งชื่นชมห้องและถ่ายรูปจนพอใจแล้ว Next Station ออกไปเดินๆๆหาของกินสิคะรออะไรอยู่ ฝนก็ตกพรำๆด้วยความที่หิวจัดสามสาวเลยเดินไปทั้งเปียกๆนั่นแหละ เดินตากฝนสบายจายยยย

 

จนไปเจอร้านอินเดีย เป็นร้านที่อยู่ข้างทาง ขายข้าวห่อ น้ำ และขนมหวานเยอะมากก

หวานปากสายแดกละคะทีนี้ 555

ข้าว 12บาท/ห่อ น้ำ 10บาท ถูกมากกกกกก จัดมาคนละห่อน้ำคนลละแก้วและขนมหวานนิดหน่อย อิ่มท้องละมื้อแรกที่ปีนังตกคนละ 22 บาทเท่านั้นนนน เก๋ๆ

หลังจากที่อิ่มท้องเราก็เดินเดินเดิน แล้วก็เดินไปตึก KOMTA เพื่อไปหาซื้อซิมใว้เล่นเน็ต และเดินถ่ายรูปในตึกพอสมควร ก็ได้เวลานั่งรถ CAT (รถเมล์ฟรี) ออกไปสำรวจรอบเมือง เพื่อดูว่าพรุ่งนี้เราจะไปไหนได้บ้างเนื่องจากไม่ได้วางแผนเลยมาตายเอาดาบหน้าแทน 5555

 

 

สำรวจกันจนดึกเกือบเที่ยงคืนละเลยกลับมาที่พักย่าน Kimberly ดึกๆจะมีร้านอาหารของกินเยอะมากกก

แนะนำให้มาพักที่นี่นะ อยู่ใจกลางเมือง ของกินเพียบไม่อดตายแถมอ้วนด้วย ฟันธง 55555

เช้าวันที่2 ตื่นแต่เช้าทำภารกิจส่วนตัวเสร็จก็ลงมากินมาม่าที่ซื้อมาจากเซเว่นเมื่อคืน ( ไม่รวยนี่กินมาม่าไม่ได้นะ มาม่าแพงกว่าข้าวอีกประมาณ 40 กว่าบาท )

หลังจากท้องอิ่ม ก็เดินไปตึก KOMTA เพื่อไปนั่งรถ CAT ไปลงที่ป้าย 16 จะเจอโบสถ์คริสต์และ Lebuh India ก็อยู่ไกล้ๆกันหาง่ายมากก จากป้าย 16 เดินไปป้าย 17 ไม่ไกลกันมาก ก็จะเจอตึกสวยๆเยอะแยะ 

 

เดินไปอีกนิดก็เจอทะเล้ทะเลลลลลลลล

ถ่ายรูปรัวๆสักพักมีคุณลุงปั่น3ล้อมาให้ถ่ายรูป ก็รอไรหละ่ายรูปสิ้ 

ระหว่างที่รอเช็คเอ้าออกจากโรงแรมเราก็เดินเล่นเรื่อยๆเพื่อไปหาจักรยานมาปั่น ร้านจะอยู่แถวถนน LOVE LAND ก็จัดการเช่าจักรยานปั่นรอบเมืองกัน เพื่อไปดูลาดเลาโรงแรมที่จะพักคืนนี้ ปั่นวนไปวนมาตั้งหลายรอบกว่าจะเจอทำเอาเหงื่อแตกซิกๆ 

 ระหว่างนั้นก็ปั่นจักรยานไปตามหาสตรีทอาร์ตกันต่ออ

เหน็ดเหนื่อยจากการตามหาสตรีทอาร์ตตามผนังแต่หาไม่เจอ 555 เลยกลับไปโรงแรมเพื่อเชคเอ้าออกแล้วมาเช็คอินต่อที่ Red in cabana 

 

หลังจากเข้าเช็คอินเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็เดินทางไป Penang Hill กันต่ออออออ

นั่งรถสาย 204 จนสุดสายรถก็จะไปจอดหน้าปีนังฮิลล์เลย นั่งกันนานเหมือนกันเพราะมันอยู่นอกเมือง นั่งนั่งนั่ง แล้วก็ถึงสักที เย้

รีบเดินไปซื้อตั๋วเนื่องจากคนเยอะมากกกกกกกก 

 

ราคาตั๋ว 300/คน แต่ถ้ามีบัตรนศ.จะเหลือ 150 บาท

ได้เวลาขึ้นรถรางแล้ว แ่ตอนขึ้นนี่นั่งผิดที่ไม่เห็นวิวเลยคนเยอะมากกก ณ.จุดๆนี้ปฏิยานตนกับตัวเองว่าขากลับต้องนั่งหน้าให้ได้ เลยได้ภาพนี้มา แท่นแท๊นนนน

หลังจากกลับมาจากปีนังฮิลล์ก็ดึกแล้วว เลยเดินเล่นแถว Lubuh india สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเฮ้ยย ไป Gurney drive ดีกว่า มีหรอจะพลาดก้ไปสิ้ไป นั่งรถสาย 103 ไปลงหน้าห้าง Gurney plaaza เดินทะลุห้างไปเรื่อยๆก็จะเจอถนนที่ติดทะเล ของกินเยอะมาก บรรยากาศดี อาหารอร่อยมีหลากหลายชาติ

นั่งกันเพลินเลยดีเดียวมารู้ตัวอีกทีเอ้าา จะ5ทุ่มแล้ว ตายแน่ๆ รถหมดแล้วววว  ชิบหายแล้วจ้าาาาาา

ด้วยความที่ว่าชินกับการนั่งรถสายเดิมๆ มารถไหนก็กลับรถสายนั้น ซึ่งมันไม่ใช่ !!!!

นั่งรถกันนานมากกก ดูทางแล้วทำไมมันทะแม่งๆตอนมาก็ไม่เห็นขึ้นเขาแต่ทำไมขากลับมีทั้งเขาทั้งทะเลทางก็ชันแถมโค้งเยอะมากกกกก คนก็เริ่มลงกันจนหมดปรากฎว่าทั้งคันมีเรา3คน แงงง น้ำตาจะไหลงานเข้านั่งรถผิดสาย TT

และแล้วรถก็ขับมาจนสุดทางเลยถามคนขับว่านี่ที่ไหน แล้วเค้าถามแล้วจะไปไหนกัน เราก็บอกว่าจะไปในเมืองนางเลยบอกว่านี่มาผิดคันแล้ว TT คนขับก็ไล่ให้ลงอย่างเดียว ปรากฏไม่มีใครยอมลงจากรถ ก็แหงสิ้ ถ้าลงแล้วจะให้ไปไหนละคะ 5555555555555555555

(นึกสภาพเที่ยงคืน ตึกร้าง บนเขา มืดก็มืด คนก็ไม่มีสักคน) คือน้ำตาจะไหลแล้วอะมันน่ากลัวจริงๆ เลยถามว่าพอจะมีทางอื่นอีกมั้ย คนขับรถก็เสนอว่าต้องกลับรถแท๊กซี่แล้วละ จากนี่ไปในเมืองก็ 800 บาทเอง จ้าแกก 800เอง !!!!!!!!

คือตอนนั้นแพงค่ไหนก็ยอมอะขอให้กลับถึงที่พักก็พอ มองรอบๆแล้วมีแท๊กซี่หนึ่งคันคนขับก้อไม่มีเลยอ้อนพี่เค้าบอกช่วยไปส่งหน่อยได้ไหม พี่แกก็ยอมไปส่ง โหยย ซาบซึ้งในน้ำใจมาก กราบบบบบบบ

 

กลับถึงโรงแรมก็ดึกมากแล้วเลยสลบหลับยาววววว ตื่นมาตอนเช้าก้จัดการเก็บกระเป๋าชาร์จแบตเติมพลังหาข้าวกินมื้อสุดท้ายที่ปีนังฟาดไปเบาๆ 400 กว่าบาท

พอเที่ยงรถตู้ก็มารับที่โรงแรมรีบเชคเอ้าแล้วเดินทางกลับไทยแลนด์บ้านเราาาา เย้ 

สรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริป

แลกเงินคนละ 3000 บาท (แนะนำให้ตั้งเงินกองกลางคนละ1000) 

ค่ารถ ตรัง-หญ ไปกลับ 200/คน

ค่ารถไป-กลับ หญ-ปีนัง 850 บาท / คน

ค่าโรงแรม 2คืน

-คืนแรก Kimberly house 1150 หาร 3 = 383 บาท/คน/คืน

-คืนที่สอง Red in cabana 1091 หาร 3 = 363 บาท/คน/คืน

ค่าซิมมาเลย์ 100 บาท ค่าเน็ต 68 บาท หาร 3 = 56บาท/คน (ซื้อซิมอันเดียวใช้วิธีแชร์ฮ้อตสปอร์ตเอา 5555 ) 

ค่ารถเมล์ในเมือง ฟรี

ค่ารถไป-กลับ ปีนังฮิลล์ 40 บาท/คน

ค่าขึ้นปีนังฮิลล์ 300/คน ถ้ามีบัตรนศ.จะเหลือ 150 บาท (เราไปมีบัตรนศ2คนไม่มี1คน ) 150+150+300 หาร 3 = 200 /คน

ค่ารถเมล์ไปกลับ Gurney plaza 28บาท/คน

ค่าเช่าจักรยานปั่นรอบเมืองคันละ 100 เช่า 2 คัน 200 บาท หาร 3 = 67บาท/คน

_____________________________________________________________________

รวมค่าเดินทาง+ที่พัก+ค่ากิน+ค่าเที่ยว บลาๆๆๆๆ 2181 บาท +เงินกลาง 1000 บาท

2181+1000 = 3181 บาท (เงินกองกลางเหลือนะคะ) 

 

จบทริปสวัสดี อิ้อิ้ เจอกันทริปหน้าาาา