บางครั้ง ... การเดินทางเริ่มต้นขึ้น
เพียงเพราะภาพๆหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ที่มา และที่ไป

มีเพียงชื่อสถานที่ ที่ถูกประทับลงบนภาพสวยๆใบนั้น
แต่นั่นก็มากเพียงพอ ที่จะทำการเสาะหาข้อมูล บนโลกไซเบอร์ที่ไร้พรมแดนเช่นนี้

คำเพียงไม่กี่พยางค์ ถูกป้อนลงไป
ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที ข้อมูลมากมายถูกแสดงขึ้นบนหน้าจอ

ยิ่งอ่าน ... ยิ่งค้นพบ ....
และเชิญชวนให้ค้นหา และสัมผัส ด้วยสายตาของตนเอง

เมื่อแน่ใจว่า ข้อมูลที่ได้มา มากเพียงพอแล้ว
การเดินทางครั้งใหม่ จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ... กับคนรู้ใจคนเดิม
ที่พร้อมจะไปด้วยกันทุกที่ ที่มีกันและกัน



จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่
ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที

แต่จุดหมายปลายทางของเรา ต่อจากนี้
อยู่บนเส้นทางหางดง มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทอง ... ระยะทางประมาณ 50 กม.
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะแยกเข้าเส้นทางไปดอยอินนทนนท์

ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยเส้นทาง
เราจึงเลือก"ความสะดวก" แวะทานอาหารกันตามทาง เจออะไร ก็ทานอย่างนั้น
เพื่อไม่ให้ชีวิตยุ่งยากมากจนเกินไปนัก

ร้านข้าวซอยฟ้าฮ่าม - สาขาหางดง
ร้านข้าวซอยชื่อดังของเชียงใหม่
ชื่อนี้รับประกันความอร่อย ด้วยรสชาติข้าวซอยแบบต้นฉบับทางภาคเหนือ



จากอำเภอจอมทอง .... แยกเข้าเส้นทางสู่ดอยอินทนนท์
ไม่ทันไร ก็เริ่มเถลไถลออกนอกเส้นทาง
เพราะโลกใบนี้ ยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะแยะมากมาย

 

ป้ายบอกทาง สู่"น้ำตกแม่ยะ" ด้วยระยะทางอีก 13 กม.
จ่ายค่าผ่านทาง (คนไทย) ในราคาคนละ 20 บาท และค่ารถยนต์อีกคันละ 30 บาท

เก็บบัตรนี้ ไว้ให้ดี
เพราะจะต้องใช้ตลอด ในช่วงเวลาที่ผ่านเข้า-ออกดอยอินทนนท์

ทันที ที่เลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถ
เห็นยอดน้ำตกสูงตระหง่านอยู่บนยอดเขา มาแต่ไกล
ถึงแม้ระยะเดินเท้า จะต้องเข้าไปต่ออีกประมาณ 600 เมตร

จัดแจงเตรียมสัมภาระ และเปลี่ยนรองเท้า
ให้คล่องตัวกับการเดินเท้ามากที่สุด

สิ่งที่ได้พบเห็น ณ ปลายทางเดิน
คือ "สิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรค์ เกินความคาดหมาย"



กระแสน้ำเชี่ยวกราก ในช่วงปลายฝน
ทำให้ธรรมชาติดูมีชีวิตชีวา และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่

ความสูงของน้ำตก 280 เมตร จำนวน 32ชั้น
คือ ผลงานจิตรกรรมชิ้นเอก ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น
เพื่อจรรโลงใจ มนุษย์ปุถุชน คนเดินดิน



ละอองน้ำ สาดกระเซ็น ... จนเย็นฉ่ำ ชื่นหัวใจ
นับเป็นการเริ่มต้นวันพักผ่อน ที่ไม่เลวทีเดียว

สายน้ำที่ไหลผ่าน ... เหมือนเวลาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
จนมิอาจรู้ได้ว่า เราถูกมนต์สะกดจากธรรมชาติ ให้หยุดพักกาย- พักใจอยู่ตรงนั้น เนิ่นนานแค่ไหน



 

เสน่ห์ของปลายฝน .... ไม่ได้มีเพียงแค่ธารน้ำตกสวยงาม
เราจึงออกเดินทางกันต่อ ขึ้นสู่ยอดดอย

ณ ด่านตรวจ ... นับเป็นกม.ที่ 10
จุดพำนักของเราในค่ำคืนนี้ และเป็นจุดเดียวกับภาพที่เราได้เห็น อยู่ ณ กม.ที่ 26
ป้ายไม้ ที่แขวนอยู่ข้างทาง ...  ช่วยบอกพิกัด ว่าเรามาถึงที่หมายแล้ว

"บ้านแม่กลางหลวง"
กับภาพทุ่งนาขั้นบันได ที่นำพาให้เราเก็บกระเป๋าออกเดินทาง .... ดั้นด้นมาจนถึงที่นี่



”ชาวเขา เผ่าปกาเกอะญอ”
คือ ชาวบ้านท้องถิ่น ของแม่กลางหลวงแห่งนี้

หากใครเคยหลงเสน่ห์ ของ"บ้านรักไทย - ณ ปางอุ๋ง" มาแล้ว
ที่นี่ มีมนต์เสน่ห์ที่คล้ายคลึงกัน

วิถีชีวิตของชาวเขา-ชาวบ้าน ที่ยังคงดำรงชีวิตประจำวันในรูปแบบเดิม
หากแต่ แม่กลางหลวง ... เดินทางได้ง่ายกว่า และมีสิ่งอำนวยความสะดวก มากกว่า

น้ำ ที่นำมาจากลำธาร (แต่ไม่ผ่านการกรอง)
และไฟฟ้าตลอด 24 ชม.

ที่แห่งนี้ ... กำลังพัฒนา สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่
และเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น 
เนื่องเพราะเป็นสถานที่ถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่อง "หนึ่งใจเดียวกัน"



 

"อินทนนท์ คีรีมายา"
ที่พำนักของเราในค่ำคืนนี้ ด้วยราคาเพียงคืนละ 500 บาท
แต่หลังจาก 21 ตุลาคม ... ได้ยินว่า จะปรับราคาเป็นคืนละ 1,200 บาทแล้ว

สถานที่แห่งนี้ เป็นที่พักแรกๆ ของแม่กลางหลวงเลยก็ว่าได้
มีบ้านพักเพียงแค่ 10 หลัง
ซึ่งไม่มากพอ ต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

บริเวณรอบๆ เลยมีที่พักเกิดใหม่มากมาย ต่างเร่งกันก่อสร้าง ให้เปิดทันฤดูหนาวนี้
รวมถึงบริเวณลานกว้าง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ การกางเต๊นท์นอน
เพื่อให้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด



บ้านพักหลังย่อม ... กระจัดกระจาย อยู่รอบๆทุ่งนาข้าว
ซึ่งกำลังออกรวง ชูช่อสวยงาม

เดิมที ... แอบสนใจ "บ้านรวงข้าว" บ้านพักกลางทุ่งนา
แต่เป็นที่น่าเสียดาย ว่าเขารื้อออกไปแล้ว

เลยได้บ้านพัก "ริมฝาย" ... บ้านหลังน้อย ที่มีระเบียงยื่นออกไปในลำธาร
มีเสียงธารน้ำ ขับกล่อม ยามหลับนอน ตลอดทั้งคืน



ใครๆ ต่างก็อยากมารับลมหนาวบนดอย
แต่สำหรับตัวเราเองแล้ว ... ขอเลือกที่จะมาช่วง "ปลายฝน"

โดยเฉพาะเดือนกันยายน - กลางเดือนตุลาคม
ฤดูกาล ที่ต้นข้าวเขียวขจี ... มีแต่ท้องทุ่งสีเขียว มองแล้วสบายตา-สบายใจ
และกำลังจะกลายเป็นทุ่งข้าว รวงสีทอง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน



ฤดูกาล ที่รวงข้าว กำลังเติบโต ... และสามารถสัมผัสได้ อย่างใกล้ชิด
ความสดชื่นของสีเขียว ที่สามารถจับต้องได้





- กลับคืนสู่สามัญ -
เพราะบางครั้ง ชีวิตก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย

ไม่จำเป็น ต้องมีทีวี ... ไม่ต้องมีตู้เย็น ... และไม่มีแอร์
ขอแค่มีเพียง "สิ่งดีๆ" ที่ธรรมชาติมอบให้ เพื่อให้เราได้มองเห็นโลกใบเดิม ในมุมมองที่แตกต่าง

กลิ่นดิน ... กลิ่นโคลน ...
อีกหนึ่งสัมผัส - ที่ทำให้เข้าถึงธรรมชาติ ได้มากยิ่งขึ้น



เวลาเพียง 1 คืน ... ณ "แม่กลางหลวง"
ที่มีอะไรให้จดจำมากมาย

นานๆที จะได้มาทำรีวิว อย่างอารมณ์ดี
นับเป็นประสบการณ์ การเดินทางอีกครั้งหนึ่ง ที่อยากแบ่งปัน 
ให้ใครอีกหลายๆคนได้รับรู้

ขอหยุดพักชั่วคราว ไว้ที่ตรงนี้
แล้วจะกลับมาบอกเล่า "ความประทับใจ" ที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย
... แค่เพียงแรกพบ

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ที่แสนสวยงาม
คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การได้เดินเล่นรับแสงแดดอุ่นๆยามเช้า

- ฟังเสียงลมหายใจ จากธรรมชาติ -
ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว เคลื่อนไหวตามวิถีทางของชีวิตประจำวัน

แต่สิ่งเดิมๆ ในชีวิตประจำวันของพวกเขา
กลับกลายเป็น "สิ่งที่น่าสนใจ" ในสายตาของผู้มาเยือนอย่างเรา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้พบเห็น ... ล้วนมีเสน่ห์ดึงดูดใจ



- หยาดน้ำค้าง พร่างพราว บนยอดข้าว -

ดูทีไร ก็สวยงาม ฉ่ำชื่นหัวใจ
คุ้มค่ากับการเดินทาง ... เพื่อค้นหาที่พักผ่อนกายและใจ ในวันที่อ่อนล้า

ทุ่งข้าวสีเขียว ที่เคยเห็นจนชินตา
บางครั้ง ก็แสดงมุมมองดีๆที่สวยงาม ... ประทับรอย ตราตรึงไว้ในหัวใจ



ชาวเขา เผ่าปกาเกอะญอ
แต่งตัวออกจากบ้าน เพื่อไปทำงาน ตามชีวิตประจำวัน

เด็กน้อยนุ่งชุดขาว สะพายกระเป๋า
เดินทางไปโรงเรียน

หลายครั้ง ที่การท่องเที่ยว ไม่ได้หยุดอยู่แค่ธรรมชาติ
แต่การเฝ้าดู ชีวิตประจำวันของผู้คนต่างถิ่น
นับเป็นอีกมุมมองหนึ่งของการท่องเที่ยว ที่น่าสนใจและน่าค้นหา ไม่แพ้กัน



หลายๆชีวิต ...
กำลังเริ่มต้น ชีวิตประจำวัน ในเช้าวันใหม่ที่แสนสดใส

แต่ด้วยอากาศดีๆ สบายๆ ยามเช้า
เลยทำให้"ใครบางคน" เลือกที่จะนอนจุมปุ๊ก ทำตัวกลมๆ
อาบแสงแดดอุ่นๆยามเช้า อย่างสบายใจ-สบายอารมณ์
โดยไม่แคร์ คนก่อกวน(เช่นเรา)



ถึงแม้จะมีใครบางคน(ตัว) ไม่ยอมสนใจใยดีเรา

แต่เพื่อนร่วมทางคน(ตัว)ใหม่
กลับตามเรา ไม่ยอมห่าง ... ตั้งแต่ได้พบเจอกันนาทีแรก

จะเดินไปไหน ... ก็วิ่งดักหน้า-ดักหลัง
กระโดดโลดเต้น คลอเคลีย พันแข้งพันขา ...  ซ้ำยังแย่งอาหารเรากินทุกมื้อ

เช้านี้ ก็เช่นกัน
ถึงแม้จะยังออกอาการ ง่วงเหงา หาวนอน ... ก็ขอไปด้วยคน(ตัว)

”ลุงคับ !! แป๋งร้านเข้าอยู่ก๋า”
เสียงพ่อหมีอ้วน อู้กำเมืองถามคุณลุงชาวบ้านที่กำลังไสไม้
ในพื้นที่ก่อสร้าง ริมถนนหมู่บ้าน

”คับ ... บ่เกิ๋นสิบวัน ... หน้าหนาวคนแอ่วนักขนาด”

ทำไมนะ??... ใครๆ ชอบมาท่องเที่ยวกันหน้าหนาว
ทั้งๆที่ฤดูกาลนี้ ก็มีเสน่ห์-สวยงามไปอีกแบบ 
ทุ่งข้าวสีเขียวๆ และสายน้ำตกที่แสนชุ่มฉ่ำ

ปลายฝน - ฤดูกาลที่ต้นไม้ใบหญ้า ต่างผลิบาน เริงร่า หยอกล้อกับสายน้ำ
ฤดูกาลที่ทำให้เราหลงรัก ความมีชีวิตชีวา ของธรรมชาติ




อยากลอง"บอกรัก" กับธรรมชาติดูบ้าง
เลยเป็นที่มา ของภาพๆนี้
:)

- รักเธอจัง -
จะได้ยินหรือเปล่านะ !?!?



”มาๆๆๆ ... แวะทานกาแฟก่อน”
เสียงพี่สมศักดิ์ คนดูแลที่พักของเราเอ่ยปากชวน

เม็ดกาแฟสดๆ คั่วใหม่ๆ ... ก่อนนำมาต้ม
ดูจะเข้มข้นมากเกินไป สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟแบบเรา

แต่ก็นับเป็นภาพที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
เมื่อเห็นเตาอั้งโล่ หม้อต้มกาแฟ ในแบบที่ดูไม่คุ้นตาเอาซะเลย

จนทำให้ต้องแอบคิด ถึงเรื่องขำขัน เรื่องหนึ่ง ที่เคยได้ยินมานาน
- กาแฟกาลาโต้ (กำลังต้ม) -



กลิ่นกาแฟ หอมหวาน เย้ายวนเพียงใด
แต่นม จากอกอุ่นๆของแม่ คลอเคล้าความรัก ความห่วงใย
- ดีที่สุดเสมอ -

เห็นแล้ว ... คิดถึงแม่ ... คิดถึงน้องๆ
อยากให้มาด้วยกันบ้างจัง
 


ก่อนอำลา "แม่กลางหลวง"
ขอไปเดินเล่นในทุ่งนาข้าว เก็บภาพสวยๆอีกครั้ง - ให้เต็มอิ่มหัวใจ

ได้เวลาอำลากันแล้วนะ ~ แอบเศร้าเหมือนกัน
เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะมีโอกาสได้กลับมาเยือนอีกครั้ง

แขกหน้าเก่า-หน้าใหม่ ... ต่างผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนกันมา
เพื่อทำความรู้จักกับสถานที่แห่งนี้

และ"เขา" ... ยังคงเฝ้ารอ "ใครบางคน" อยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น 
ถึงแม้จะเพียงผ่านมา และอำลาจากไป

แต่ช่วงเวลาเพียงสั้นๆ
ก็สามารถทำให้เกิดมิตรภาพดีๆ ได้เช่นกัน
หากใครผ่านไป ... ฝากบอกด้วยละกัน ว่า "คิดถึง"
:)

++ รอคอย ด้วยความหวัง ++

เมื่อชีวิต คือ การเดินทางที่ไม่รู้จักจบสิ้น

การเดินทางขึ้นดอย ยังคงดำเนินต่อไป สู่กม.ที่ 38
เลี้ยวแยกซ้าย มุ่งหน้าสู่ "อ.แม่แจ่ม" ด้วยเส้นทางคดเคี้ยว ลงดอยอีก 23 กม.

อำเภอนี้ เป็นอำเภอเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยวัดวาอาราม
ภาพที่ทำให้เราได้รู้จัก สถานที่แห่งนี้ครั้งแรก 
คือ ภาพของสามเณร ออกเดินบิณฑบาตรผ่านทุ่งข้าว เขียวขจี

ภาพจีวรสีส้ม .. ปลิวสบัด ตัดกับสีเขียวขจีของทุ่งข้าว
ยังคงเป็นมโนภาพ ที่ชัดเจนในความทรงจำเสมอ

แอบเสียดาย ... ที่ไม่สามารถมาค้างคืนที่นี่
เลยทำให้ไม่สามารถเก็บภาพนั้นมาได้ ด้วยมือของตัวเอง



- ทุ่งนาขั้นบันได -
ที่ลองได้มองสักกี่ครั้ง ก็ยังคงดึงดูดสายตา และความสนใจ

"กองกาน"
หนึ่งในสถานที่ ที่มีวิวทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ของอ.แม่แจ่ม
ตามคำบอกเล่า ของร้านขายโปสการ์ดใจดี (แม่แจ่มโพสต์)
ที่ยินดีให้คำแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวของ อ.แม่แจ่ม 
และมุมถ่ายภาพสวยๆ ให้กับนักเดินทางอย่างเรา



มนต์เสน่ห์ ของสีเขียว และทุ่งข้าวเมืองไทย
ที่ทำให้ได้ตระหนัก ถึงความเหนื่อยยาก ลำบากของชาวนา
แค่ยืนถ่ายรูป แดดยังร้อนเหลือทน

แล้วพวกเขาล่ะ !?!?
ตรากตรำ ก้มหน้าก้มตา ปักดำต้นข้าว
หน้าสู้ดิน หลังสู้ฟ้า กว่าจะได้ต้นข้าวที่ชูช่อ-ออกรวง ... สวยงามอย่างที่เห็น

สิ่งหนึ่ง ที่ได้ค้นพบจากการเดินทางครั้งนี้
"มองให้ลึกเข้าไปกว่าสิ่งที่เห็น ที่บอกเล่าเรื่องราวอื่นๆอีกมากมาย"
- ภาพหนึ่งภาพ แทนคำพูดได้อีกหลายหมื่นคำ -


 

การเดินทางสู่แม่แจ่ม 
สามารถใช้ได้ 2 เส้นทาง คือ
1) อ.จอมทอง (50 กม.) --> ดอยอินทนนท์  (38 กม.) --> แม่แจ่ม (23 กม.)

2) อ.จอมทอง --> อ.ฮอด  --> แม่แจ่ม  .... ผ่านทางออบหลวง
เส้นทางหลัง จะอ้อมกว่าประมาณ 30 กม.
แต่ถนนกว้างและดีกว่า

แต่เราเลือกกลับเส้นทางเดิม ... เส้นทางที่ 1 ผ่าน"แม่ปาน"
เพื่อแวะเที่ยวในจุดอื่นๆ ที่เลยผ่านมา

หนึ่งในนั้น คือ "น้ำตกวชิรธาร"
ความสูง 80 เมตร ตั้งอยู่ที่พิกัดกม. ที่ 21 ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์



อีกมุมมองหนึ่ง ที่สวยงามของน้ำตกวชิรธาร
ยามแสงแดด หยอกเย้ากับละอองน้ำ 
เพียงหันหลังกลับไป  ก็จะพบ"สายรุ้งทอประกาย"

- สีสัน ในอากาศ -
ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ ณ ปลายฟ้า ... เสมอไป


 

ส่งท้าย ... ปลายฝน ....
ณ "น้ำตกแม่กลาง" (กม.ที่ 10) กับความรู้สึกชุ่มฉ่ำ ที่ได้รับมาจนล้นใจ

ธรรมชาติได้สรรสร้างความสวยงาม ที่แตกต่างในทุกฤดูกาล
โดยไม่จำเป็น ต้องเฝ้ารอเวลาไหนๆ

ขอเพียงเปิดประตูหัวใจ ...  และพาตัว ออกเดินทางไป
สู่สัมผัสของประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต



- นี่ไม่ใช่ครั้งแรก -
ที่ภาพสวยๆใบหนึ่ง นำพาสู่การเดินทางออกตามหาสิ่งใหม่ๆให้ชีวิต

ในเมื่อโลกกลมๆใบนี้ .... ยังคงมีอะไรอีกมากมาย ให้ติดตามค้นหา
และเราก็พร้อมจะออกเดินทางไป ด้วยใจรัก


ขอบคุณ ที่ร่วมเดินทางไปกับเรา
และหวังว่า ประสบการณ์การเดินทางดีๆ ที่อยากแบ่งปัน
คงจะเป็นแรงบันดาลใจ ให้ใครอีกหลายๆคน
ตัดสินใจก้าวเท้าออกเดินทาง เสาะหาประสบการณ์ใหม่ๆอีกสักครั้ง เช่นกัน

ไม่ว่าจุดหมายปลายทาง ของคุณจะอยู่แห่งหนใด
จะเหมือน ... หรือแตกต่าง
ขอให้พบแต่เรื่องราวดีๆที่น่าจดจำ และมีความสุขกับการเดินทางค่ะ

:)



 
////////////////////////////////////////////////////////////////////

เดินทางอยู่กลางรอยยิ้ม พบเจอเรื่องราวที่งดงาม
เดินทาง สู่ครั้งหนึ่งในชีวิต

เดินทางอยู่กลางรอยยิ้ม พบความเบิกบานในหัวใจ
เมืองไทย ครั้งหนึ่งในชีวิต