ทริปเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน กับไรเฟิล.. หมามีล้อ
เมื่อวันที่ 5-10 ธันวาคม 2557ครอบครัวเรามีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน กันค่ะ และได้พา "พี่ไรเฟิล" ซึ่งเป็นลาบราดอร์หนุ่ม อายุ 5 ปี ฟ่าๆ ที่พิการขาหลังไปเที่ยวมาด้วย เลยคิดว่าเวลาเราจะพาหมาไปเที่ยวแต่ละที เรายังต้องอาศัยค้นหาข้อมูลจากในเน็ต ทั้งเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว เรื่องที่พัก พอเรามีโอกาสไปเอง เราก็น่าจะแชร์ประสบการณ์ให้คนอื่นบ้าง เพราะบางครั้งที่พักที่ต้อนรับหมานั้นหายาก โดยเฉพาะหมาใหญ่ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลบางอย่างจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ คน นะคะ
ขอขอบคุณทุกคนที่เคยได้แชร์ประสบการณ์พาหมาเที่ยวให้คนอื่นได้รับรู้ และขอขอบคุณเพจไกด์น้องหมาด้วย สำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ
START>> เราออกเดินทางจากบ้าน (ตลิ่งชัน กทม.)คืนวันที่ 4 ธันวาคม 2557 เวลาประมาณเที่ยงคืน
วันที่ 5 ธันวาคม 2557
วันแรก.. เราเริ่มต้นความสุขที่ “บ้านแม่กลางหลวงอินทนนท์”
บ้านแม่กลางหลวง เป็นหุบเขานาขั้นบันได บนดอยอินทนนท์ มีชาวบ้านเผ่า “ปกาเกอะญอ” เป็นเจ้าบ้าน และเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวมาพักค้างคืนได้ บรรยากาศโดยรอบเป็นเหมือนหมูบ้านเล็กๆ สามารถเดินเล่นได้ทั่วหมูบ้านเลย มีอะไรให้ดู ให้ทำหลายอย่างเลย มีโรงบดกาแฟ มีบ่อเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน มีแปลงปลูกสตอเบอรี่ มีร้านกาแฟน่ารักๆ อยู่ท้ายหมู่บ้านชื่อร้าน "อุ่มเอิบ" นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว (น้ำตกรักจัง) ด้วย โดยจะมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทางให้ เสียดายตอนที่ไปเค้าเกี่ยวข้าวไปหมดแล้ว เลยไม่ได้เห็นนาขั้นบันไดสีทองอร่ามเลย ไม่เป็นไรไว้ไปเยือนใหม่อีกครั้ง เพราะรู้สึกประทับใจที่แม่กลางหลวงเป็นการส่วนตัวค่ะ ไม่รู้สิ คือดีอ่ะ มีที่ให้เฟิลวิ่งเล่นเยอะดี ชอบหลายๆ อย่างชอบบรรยากาศ ชอบสถานที่ ชอบคน รวมๆ แล้ว คือตั้งใจว่าต้องกลับไปอีกครั้งค่ะ
ไปวันที่ 5 ธันวาคม พอดีเลย ได้ไปจุดเทียนชัยถวายพระพรร่วมกับชาวบ้านที่แม่กลางหลวงด้วยค่ะ
แม่กลางหลวงเราพักที่ "อินทนนท์คีรีมายา" ค่ะ ห้องพักสำหรับเราก็ค่อนข้างโอเคนะคะ แค่มีน้ำอุ่นให้อาบก็แจ่มแล้วค่ะ ติดต่อที่พักได้ที่พี่สมศักดิ์ โทร 081-9608856
ขอให้คำจำกัดความแม่กลางหลวงว่า "อบอุ่นและประทับใจ" ค่ะ
บ่อเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน ค่ะ
ชาวบ้านช่วยกันเตรียมพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร
ร้านกาแฟน่ารักๆ ท้ายหมู่บ้าน ชื่อร้าน "อุ่มเอิบ"
หน้าที่พัก (แม่กลางหลวง)
วันที่ 6 ธันวาคม 2557
จากแม่กลางหลวงไปต่อกันที่ “ปาย”ดินแดนแห่งความรัก
ระหว่างทางไปปาย ก็แวะเที่ยวโป่งเดือดป่าแป๋ นึกว่าจะไปง่ายๆ ชิวๆ ที่ไหนได้เหมือนพาเฟิลไปผจญภัย ต้องขึ้นบันไดหลายขั้นเลย ต้องช่วยกันยกรถเฟิลด้วย นางเดินเองไม่ได้ ล้อติดขั้นบันไดคับ ใครจะไปเที่ยวโป่งเดือดป่าแป๋ก็เอาไข่ไปต้มกินได้นะ แม้จะทุลักทุเล แต่ก็สนุกและสวยดี ค่ะ
เอาไข่ไปต้มด้วยด้วยไม่ได้กิน ทำแตกอยู่ในบ่อคร๊าบบบ
เราไปกันแบบเรื่อยๆ ไหนจะแวะกินข้าว ที่สำคัญคือแวะอ้วก!! ถึงปายก็เกือบเย็นแล้วค่ะ เข้าที่พักก่อนเลย คืนนี้เรานอนที่ “บ้านต้นไม้ปายรีสอร์ท” www.paitreehouse.com
ให้พลขับพักสักแป๊บ มืดๆ เราก็ออกไปเดินเล่นหาไรกินที่ถนนคนเดินปายกัน คนเยอะมากๆ เลย ถ้าวันนั้นไรเฟิลเดินเหยียบเท้าใครก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยนะคร๊าบบบ
"ปาย" เมืองแห่งนี้คงจะเหมาะที่สุดกับคำว่า "โรแมนติก"
บริเวณรอบๆ ที่พัก
ถนนคนเดินปาย
วันที่ 7ธันวาคม 2557
จากปายก็ไปต่อกันที่ปางอุ๋ง
ก่อนไปก็แวะถ่ายรูปที่สะพานประวัติศาสตร์ปายเป็นที่ระลึกเล็กน้อยค่ะ และแวะถ่ายรูปที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม แวะไปกินขาหมูยูนนานที่ร้านลีไวท์หมู่บ้านรักไทย
แวะถ่ายรูปที่สะพานประวัติศาสต์ท่าปาย
ไปต่อที่.. จุดชมวิวดอยกิ่วลม
แวะกินขาหมูยูนนานที่ร้านลีไวท์หมู่บ้านรักไทย
และแล้วก็ถึง.. ปางอุ๋งซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ บรรยากาศดีมากเลยค่ะ สวยมาก นอกจากไรเฟิลจะได้ดื่มด่ำบรรยากาศอันงดงามแล้ว ยังได้ล่องแพไม้ไผ่ด้วยนะคับ ที่ปางอุ๋งมีไฟให้ใช้ถึงแค่ประมาณ 4-5 ทุ่มนะคะ คืนนี้เราเลยได้นอนกันเร็ว วันรุ่งขึ้นเลยได้ตื่นเช้ามาทำบุญใส่บาตรพระ ดีไปเลยค่ะ ยิ้ม
ที่ปางอุ๋งนี้เรานอนกันที่บ้านลุงปาละโฮมสเตย์ค่ะ โทร. 084-3701540, 083-5716668 (บ้านลุงปาละก็ดีนะคะ เจ้าของบ้านใจดี ***แต่เนื่องจากบ้านลุงปาละเป็นบ้านหลังแรก คือจะแปลว่าห่างจากอ่างเก็บน้ำมากที่สุด ประมาณ 500 เมตร (มั้ง) แต่เดินไหวนะคะ สำหรับคนที่ชอบเดินเล่นดูนั่นดูนี่อย่างเราถือว่าไม่ไกลค่ะ แต่ถ้าใครอยากพักแบบติดอ่างเก็บน้ำก็ต้องเป็นบ้านพักของโครงการพระราชดำริ โทร 080-8478456 หรือไม่ก็จะมีบริเวณให้กางเต้นนอนริมอ่างเก็บน้ำ ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ
"ปางอุ๋ง" ก่อนจะมาใครๆ ก็บอกว่าที่นี่คือ "สวิสเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" แต่จะให้นั่งมอง ยืนมอง นอนมอง ยังไง ที่นี่ก็ประเทศไทยแท้ๆ หาใช่สวิสเซอร์แลนด์อย่างใครว่าไว้ แต่ก็เป็นสถานที่ที่ทำให้ฉัน "ตกหลุมรักประเทศไทย"
ตื่นเช้ามาทำบุญใส่บาตรกันที่ปางอุ๋ง
วันที่ 8 ธันวาคม 2557
เที่ยวต่อๆๆ จากปางอุ๋ง.. ไปไหนดีนะ
แต่เดิมคือเราวางแผนกันไว้ว่าจากปางอุ๋งเราจะไปกางเต้นนอนดูดอกบัวตองกันที่ดอยแม่อูคอสัก 1 คืน แต่พอไปถึงดอยแม่อูคอคือไม่มีดอกบัวตองแล้วค่ะ โรยหมดแล้ว ก็เลยตัดสินใจกันว่าไปหานอนกันที่อื่นดีกว่า เราเลยตีรถมาทางแม่แจ่มเพื่อที่จะมาเข้าอินทนนท์แบบไม่ได้วางแผนกันมาก่อนเลย ที่แรกไปดูที่กางเต้นท์ดอยชัวร์ญ่าจ่ายเงินค่าหัวไป หัวละ 100 บาท แต่พอเข้าไปแล้วรู้สึกว่าคนเยอะมากๆๆ เลยตัดสินใจอีกรอบว่าไม่นอนดอยชัวร์ญ่าอีก (เรื่องเยอะมั้ยคะ) ทางดอยชัวร์ญ่าก็ใจดีมากๆๆ ให้เงินคืนด้วย ถ้าได้อ่านฝากขอโทษด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าสถานที่ของพี่ไม่ดีนะ เพียงแต่มันดีจนใครๆ ก็อยากไป คราวหน้าถ้ามีโอกาสและไม่ใช่หน้าเทศกาล จะไปใหม่นะคะ "ดอยชัวร์ญ่า" สัญญาๆๆ
ระหว่างทางไปแม่อูคอ
ไปๆ มาๆ ได้กลับมากางเต้นนอนกันที่บ้านแม่กลางหลวงอีก 1 คืน (คือพูดกันตลอดว่าชอบแม่กลางหลวง ยังไงก็ต้องมาอีกสักครั้งแน่นอน เป็นไงล่ะ ได้มาจริงๆ เลย) มาถึงแม่กลางหลวงก็เย็นมากแล้วค่ะ คืนนี้ก็เลยได้กางเต้นนอนดูดาวกัน 3 ตัว เลยค่ะ
กางเต้นนอนกัน
วันที่ 9 ธันวาคม 2557
เที่ยวตัวเมืองเชียงใหม่บ้าง
วันนี้ก็ลงจากแม่กลางหลวงไปเที่ยวรอบๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ค่ะ เชียงใหม่ก็รถติดเหมือนกันแฮะ... วันนี้ไม่ค่อยได้เที่ยวไหนเลย ไม่ถนัดเที่ยวในเมืองเท่าไหร่ ก็ได้แวะซื้อของฝากตามตลาดขายของฝาก แตว่าๆๆ พี่ไรเฟิลก็ได้ไปแวะร้านไอเบอรี่ของโน้ส อุดม มาด้วยนะคับ
คืนนี้นอนเอาแรงให้เต็มที่ก่อนเดินทางกลับบ้านที่ “คำม่อนเพลส” โทร. 053-278936 ที่คำม่อนเพลสนี่จะมีหมาตัวจิ๋วๆ อย่างปอม กะ ชิวาว่า อยู่ น่ารักดีค่ะ
วันที่ 10 ธันวาคม 2557
หลังจากพักผ่อน นอนเอาแรงกันเต็มที่ก็ถึงเวลาเดินทางกลับ "บ้านเรา" กัน
*** ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ไรเฟิลได้ไปเที่ยวไกลที่สุด และไปหลายวันมากที่สุด ในชีวิตของไรเฟิล แต่เวลาไปเที่ยวนางไม่เคยงอแง ไม่มีคำว่าเมารถ ทางไปปาย-ปางอุ๋ง คนนั่งต้องแวะอ้วก!! พูดเลย แต่หันไปมองหมา นั่งแววตาเป็นประกายเปี่ยมสุข บางครั้งก็หลับปุ๋ยอย่างสบายใจ นางมีความสุขกับการได้วิ่งในที่กว้างๆ ได้สำรวจสถานที่ใหม่ๆ ได้อยู่ใกล้ๆ เรา 2 คน ไรเฟิลเป็นหมาพิการก็จริงแต่นางก็เป็นหมาที่มีความสุขกับการใช้ชีวิต และนางก็คงไม่รู้ตัวว่านางได้นำพาความสุขมาสู่ชีวิตเรา 2 คน มากแค่ไหน
ความสุขอย่างนึงก็คือการได้พาหมา (พิการ) เที่ยว พี่จะพาเฟิลเที่ยวให้ทั่วไทยเลย จนกว่าพี่จะไม่มีแรง หรือจนกว่าเฟิลจะไม่มีแรง พี่สัญญา
ทริปนี้หมดตังค์ค่าน้ำมันไปประมาณ 5,000 บาท เราใช้รถเครื่อง 1200 MITSUBISHI ATTRAGE ค่ะ ค่ากินค่าที่พักก็ไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ได้กลับมามันคุ่มค่ามากจริงๆ บอกเลย
เราอาจไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่เราก็ไม่กล้าเรียกตัวเราเองว่านักเดินทาง หรือเราอาจเป็นทั้ง 2 อย่างผสมกัน เราชอบเที่ยวและเราก็มีความสุขกับการเดินทาง เพราะทุกประสบการณ์และความทรงจำอันมีค่า มันไม่ได้อยู่แค่ที่ปลายทาง มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา "เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้"
ไรเฟิลมีเพจด้วยชื่อเพจ "หมาน้อยไรเฟิล" >> www.facebook.com/labradordogrifle