- เรามาบ้านศิลปินหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยลองเขียนรีวิวเลย มาแต่ละทีก็ไม่ค่อยได้ศึกษาหาข้อมูลอะไรมาก แค่รู้สึกมาแล้วสบายใจ มันเงียบ มันเย็น ลมโชย และที่สำคัญ ไม่คิดว่าที่นี่จะอยู่ใน "กรุงเทพ"

"บ้านศิลปิน" อยู่ในชุมชนริมคลองบางหลวง ชุมชนเก่าแก่ริมน้ำ ซึ่งถ้าใครได้ไปสัมผัสแล้วจะรู้สึกว่า ที่นี่กรุงเทพจริงๆเหลอ เหมือนไม่ได้อยู่ในกรุงเทพเอาซะเลย เหมือนอยู่ต่างจังหวัดมากกว่า มีแต่บ้านไม้ริมคลอง และผู้คนที่ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ปกติเราจะมาวันเสาร์อาทิตย์ คนก็จะเยอะหน่อย ของขายก็จะเยอะขึ้น นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนจะชอบที่นี่ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้ารู้จักที่นี่กันยังไง คนกรุงเทพหลายคนยังไม่รู้จักเลย       แต่วันนี้เรามาวันธรรมดา บรรยากาศก็จะเงียบๆหน่อย แต่ก็ได้ฟีลไปอีกแบบนึง รู้สึกสงบและดูไม่วุ่นวายด้วย เหมาะกับการพักผ่อน พักสมองมากๆ ร้านค้าขายอาหารไม่ค่อยเปิดเยอะเหมือนเสาร์อาทิตย์ แต่ยังมีร้านก๋วยจั๊บโบราณร้านโปรดที่มาทีไรต้องกินตลอด ที่ยังเปิดอยู่ อยู่เชิงทางขึ้นสะพานข้ามคลองก่อนไปบ้านศิลปิน
                บางร้านก็ไม่เปิด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่ขายอาหารมากกว่าที่ไม่เปิด บ้านอื่นก็ขายของที่ระลึกหรืองานแฮนด์เมดกันปกตินะ เพราะที่ตั้งขายก็เป็นบริเวณหน้าบ้านของตัวเองอยู่แล้ว แต่เราชอบบรรยากาศแบบนี้มากกว่าเสาร์อาทิตย์ซะอีก นั่นแหละ มันไม่วุ่นวาย                                 พอเลี้ยวเข้ามาในบ้านศิลปิน จะมีนักท่องเที่ยวแค่ไม่กี่คน แต่รู้สึกดีกว่ามาตอนคนเยอะจริงๆ ไม่ต้องแย่งที่นั่งกัน แล้ววันนี้หุ่นละครเล็กออกไปโชว์ข้างนอกพอดี วันนี้คนเลยโล่งๆ ปกติจะมีโชว์ทุกวัน เรื่องโชว์ของหุ่นละครเล็กต้องดูตามแฟนเพจของบ้านศิลปินอีกทีนะคะ หรือไม่ก็โทรมาสอบถามก็ได้ถ้าหากใครตั้งใจที่จะมาดู เผื่อจะได้ไม่เสียเที่ยว             รูปปั้นลุงขาว ลุงแดงนั่งรอคนที่ท่าน้ำนี่ถ้าใครมาแล้วไม่ถ่ายรูปเหมือนมาไม่ถึงนะ เราไปทีไรก็ถ่ายรูปกลับมาทุกครั้งไม่เคยเบื่อ       นอกจากเดินเข้ามาในชุมชนริมคลองบางหลวง ที่แค่ก้าวข้ามคลองมาก็จะพบกับกลิ่นอายของอดีตที่คนเมืองอย่างเรากำลังโหยหา วิถีชีวิตริมน้ำที่ยังมีเรือนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่พายเรือมาขายก๋วยเตี๋ยวก็ยังมีอยู่ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่ต่างทักทายเราด้วยรอยยิ้ม อาหารการกินที่ราคาเป็นกันเอง คนที่มาเที่ยวที่นี่หากเป็นคนรักความสงบและชอบงานศิลปะจะชอบมากๆและอยากมาบ่อยๆ (เหมือนเรา) มากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ เพราะงานศิลปะจะมีเพิ่มขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มีงานของศิลปินมากมายที่มารังสรรค์ไว้ในบ้านไม้เล็กๆหลังนี้ และที่นี่เรียกว่าเป็นไฮท์ไลท์ของชุมชนริมคลองบางหลวงเลยก็ว่าได้
            หุ่นละครเล็กเคยมาดูหลายครั้งแล้ว เลยดูเฉยๆ เพราะถ้าไม่ได้ดูวันนี้เรามาอีกวันอื่นก็ได้ เพราะที่นี่มาไม่ยากเลย ไม่มีรถส่วนตัวก็มาได้ เดี๋ยวจะบอกอีกทีช่วงท้ายๆนะคะ ถึงวันนี้ไม่มีโชว์ แต่ก็ถ่ายรูปมาทุกทีตลอด ชอบมาก ชอบอะไรที่เป็นหุ่นกระบอก          
มีให้เราได้ลองระบายสีหน้ากากแบบนี้ด้วยนะ มีงานศิลปะอีกหลายอย่างที่ให้เราได้ลองทำด้วย เปิดสอนวาดรูป งานประดิษฐ์ต่างๆ อันนี้ให้มาดูและสอบถามรายละเอียดอีกทีนะ เพราะบางทีอาจเป็นศิลปินท่านอื่นที่ไม่ได้อยู่ประจำมาสอน อ่อ...และยังมีสอนรำด้วย อันนี้ก็ต้องมาสอบถามรายละเอียดอีกทีนั่นแหละ แต่เท่าที่ทราบมา สอนให้เด็กๆนะ     ชั้นบนก็จะมีแกลลอรี่รูปภาพให้ได้ชมและถ่ายรูปกัน อากาศก็จะร้อนๆกว่าข้างล่างหน่อย เป็นห้องโถงโล่งๆ                           เราเอาหนังสือมาอ่านได้ เราเอางานศิลปะมาทำได้ ที่นี่สามารถปล่อยจินตนาการของเราให้โลดแล่นได้ เรียกว่านั่งได้ทั้งวันเลย มีร้านกาแฟเล็กๆ อาหารว่าง ที่สั่งทานได้ตลอดเวลาและราคาไม่แพง หรือหากอยากทานเครื่องดื่มร้านอื่นก็ซื้อและมานั่งทานได้เหมือนกัน คนที่นี่เป็นกันเองมากด้วย เราจะซื้อน้ำปั่น แต่เค้าไม่มีขาย เราก็ไปซื้อมาจากร้านข้างๆแล้วมานั่งกินในบ้านจริงๆ เค้าก็ไม่ว่า แล้วเราก็มานั่งเขียนโปสการ์ดแผ่นละ 5 บาทกันตรงนี้ โปสการ์ดจากบ้านศิลปิน  
หากไม่มีงานศิลปะมาทำเอง ที่นี่ก็มีงานศิลปะต่างๆให้เราได้ลองทำและติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย คนไม่ค่อยรักงานศิลปะเท่าไหร่ จะไม่อินกับที่นี่เลยจริงๆ ใจรักจริงก็จะอยู่ได้ทั้งวัน เพราะบรรยากาศและลมพัดเอื่อยๆชวนหลับได้เลยแหละ 555555              
                    ที่ขาดไม่ได้เลยคือ "ฉันมารอให้อาหารปลาที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ" เด็กๆมานี่ชอบเลยแหละ ผู้ใหญ่ยังชอบเลย                   วันไหนไม่มีหุ่นละครเล็ก เก้าอี้สำหรับผู้ชมก็ยังมีคนแวะเวียนมาพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง อยู่กันอย่างเรียบง่าย
    นั่งเล่นจนเพลิน ลมพัดเย็นสบาย นั่งมองคนนั้นคนนี้ มองไปทางไหนก็มีแต่ความเป็นอดีต บรรยากาศผ่อนคลายจนเกือบลืมเวลาว่าใกล้จะเย็นแล้ว
             
บ้านศิลปิน คลองบางหลวง เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน แต่หากอยากมาดูหุ่นละครเล็กจะเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ หรือบางวันอาจจะมีงานข้างนอก หากใครตั้งใจมาดูจริงๆ ให้สอบถามทางเพจกันอีกทีนะคะ

https://www.facebook.com/Baansilapin/?fref=ts

การเดินทาง อันนี้บอกได้เฉพาะคนไม่มีรถส่วนตัวมา มาง่ายมาก ลงสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี ลงฝั่งขาเข้ากรุงเทพ จะมีรถซูบารุ หรือสองแถวคันเล็กราคา 7 บาท จอดอยู่ นั่งมาลงปากซอยจรัญสนิทวงศ์ ซ.3 ตรงข้ามวัดท่าพระ เข้าซอยมารอรถสองแถวสีแดงคันใหญ่ ราคา 5 บาท รอประมาณ 5-10 นาที แต่ถ้าขี้เกียจรอก็เรียกพี่วินได้ 10 บาท จอดสุดซอยเพราะเป็นซอยตัน สุดซอยปุ๊บก็ข้ามสะพานข้ามคลองมาเลี้ยวซ้ายเดินตรงมาสุดทางก็ถึงบ้านศิลปินแล้วค่ะ

ใครชอบเที่ยวคนเดียว แบคแพคไปนั่นนี่เอง แบบลุยๆ ชอบเที่ยวถูกๆ (สายงก555) โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชอบเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน ร่วมพูดคุยกับเราได้ในเพจนะคะ เพจ "จะเที่ยวคนเดียว Lady Journey" เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวกันบ้างเนาะ