หลังจากเต็มอิ่มและดื่มด่ำกับน้ำฝนที่แม่แจ่มกันมาทั้งวัน (ดูผลงานพวกเราจากรีวิวก่อนหน้านี้..."สวรรค์น้อยๆ หลังดอยอินทนนท์...แม่แจ่ม") แต่ก็หยุดพวกเราชาวคณะไม่ได้ ในวันที่ 2 นี้ พวกเราก็ได้มุ่งหน้าตามหาแม่หอยเชอร์รี่ ณ ทุ่งนาบ้านป่าบงเปียงกันแต่เช้า...มากกกก.... 11 โมงได้ - -" คงไม่ต้องบอกว่ากว่าจะเก็บภาพประทับใจของแต่ละคนต้องใช้เวลาปราณีตกันขนาดไหน เอาเป็นว่า ออกจากแม่แจ่มได้ก็เกือบเที่ยง แต่ก่อนอกจากบ้านพักเฮือนแรมแจ่มเมือง ต้องขอบพระคุณคุณป้าเจ้าของบ้านพักมากสำหรับยาทาเคาเตอร์เพนซึ่งเป็นผลพวงจากการสร้างแลนด์มาร์คกับบันไดบ้าน นอกจากนั้นอาหารเช้าคุณป้าอร่อยนะ American Breakfast แต่ก็อร่อยเลย ก่อนออกจากบ้าน พวกเราจึงขอคำปรึกษาคุณป้าว่าไปบ้านป่าบงเปียงไปทางไหนดี ... พวกเราได้คำตอบมาว่า จากแม่แจ่ม ไปบ้านป่าบงเปียงได้ 2 ทาง ทางหนึ่ง ระยะทางสั้นหน่อย แต่ถนนไม่ดีมาก ยิ่งฤดูฝน ไม่แนะนำเลยเพราะถึงขั้นติดโซ่ที่ล้อเลย ยิ่งรถตู้ยิ่งไม่ไหว ดังนั้นคุณป้าจึงแนะนำทางที่สอง คือ ให้ไปทางดอยอินทนนท์ เมื่อถึงจุดตรวจที่ 2 ให้เลี้ยวไปทางน้ำตกห้วยทรายเหลือง แล้วจอกรถไว้ที่หน่วยพิทักษ์ ... จากนั้นก็ ... เดิน! คำถามจากพวกเราคือ เท่าไหร่เหรอคุณป้า คำตอบคือ "ประมาณ 2 กม." .... เอิ่ม! มองหน้ากันซักพัก แล้วก็ ... เอาวะ เดินใน Fitness ยังทำได้เลย แค่ 2 กม. เอง จิ๊บๆ !!
แล้วพวกเราก็ได้ฤกษ์ออกจากแม่แจ่มด้วยร่างกายที่สดชื่นมาก อากาศดีมาก อาหารดี ที่พักมากที่สุด ... สบายแทบไม่อยากกลับกันเลย // แนะนำว่า ใครอยากหาที่สงบๆ สำหรับปลีกวิเวก ที่นี่เหมาะมาก
เนื่องด้วยพวกเราได้พี่รถตู้ที่แสนจะใจดีมาก แนะนำเราตลอดทางเลยว่าที่ไหนมีอะไรดี อันนี้ช่วยโปรโมตเลย เดี๋ยวตอนจบจะบอกข้อมูลติดต่อพี่เค้า เพราะดีจริงๆ ... ระหว่างทางที่จุดชมวิวเล็กๆ พี่เค้าก็แนะนำว่า ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปดูมั๊ย ... ไม่รอดซิ ถามมา เราแวะทันที!
หลังจากเก็บภาพประทีบใจกันเรียบร้อยแล้วพร้อมกับฝ้าที่จะมาเต็ม พวกเราจึงรีบยกขบวนกับขึ้นรถเพื่มมุ่งหน้าสู่เป้าหมายของเรา... ลืมไปอย่าง เมื่อคืนมีสมาชิกชาวคณะแอบบนว่าขออย่าให้ฝนตกวันนี้ด้วย สมใจเลย ฟ้าสวยมาก
ผ่านไปประมาณ 1 ชม. พวกเราก็มาถึง... หน่วยพิทักษ์ บริเวณน้ำตกห้วยทรายเหลือง ... เราชาวคณะก็ได้สำรวจตัวเองว่าจ้องพกอะไรติดตัวบ้าง พร้อมกับต้องเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะจากนี้ไป พวกเราต้องสำรวจโลกกับเนวิเกเตอร์ เพื่อมุ่งหน้าหอยหอยเชอร์รีกันแล้ว... ทะมัดทะแมงกันจริงจริ๊ง!
มุ่งหน้ากันเลย... บ้านป่าบงเปียง กับระยะทาง 2 กม. (รึปล่าววะ?? อันนี้ยังคาใจ)
ระหว่างทางพวกเราได้เดินไปด้วยกัน คุยกันไป สนุกสนาน นานๆ จะได้มาเดินด้วยกันแบบนี้ซักที มีอะไรก็คุยกัน ปรึกษากัน ท่ามกลาง...ต้นไม้ อากาศเย็น เสียงสัตว์ร้อง ฟ้าใส และถนน....เรียบ เดินสบาย
เอ๊ะ!! ทำไมผิวถนนเริ่มแตกแบบนี้ล่ะ... ชาวเนวิเกเตอร์เริ่มสงสัย
จากนั้นก็ เป็นสภาพนี้... แดงเลยจ้าาาาาา! นี่ยังนับว่าดี เพราะข้างหน้า คำเดียวเลย ... เละ!
แต่ไหนๆ พวกเราก็ตกลงใจว่ามาเดินกันแล้ว ระยะทางก็คงไม่ไกลมาก พวกเราก็สู้กันต่อ ...
ระหว่างทางได้เจอธรรมชาติที่สวยงาม สดชื่น ที่หาไม่ได้ที่ถนนสุขุมวิทแน่นอน - -"
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ จน...น้ำหมด ขนมหมด ... คำถามที่คิดขึ้นพร้อมๆ กันคือ "อีกไกลป่าวเนี่ย ไหนแค่ 2 กม. ไง"
ซักพักมีพี่ 2 คนขับมอเตอร์ไซต์มา (มอเตอร์ไซต์วิบากชัดๆ - -" พี่โคตรงเก่งเลย) พวกเราจึงถามพี่ว่า "บ้านป่าบงเปียงอีกไกลรึปล่าว" ... "ไม่ไกลหรอก ข้างหน้านี้เอง" นี่คือคำตอบ ...พวกเราก็ใจชื้น อีกนิดนึง เอาวะ!
เดินกันอยู่อีกพักใหญ่ ชาวคณะเนวิเกเตอร์เราแยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือเนวิเกเตอร์สายฮาร์ดคอร์ ส่วนกลุ่มหลัง ขอให้ชื่อว่า... กลุ่มเมียผู้ใหญ่บ้าน! เรื่อยๆ ไม่รีบ ชมนกชมไม้ไป เพราะเริ่มเหนื่อย 555+++ แน่นอนว่าตัวผู้เขียนเป็นสาย....
เมียผู้ใหญ่บ้านแน่นอน! เพราะเดินชมนกชมไม้อยู่ โดยหารู้ไม่ว่าทางข้างหน้าสุดวิบากเลย
เมื่อเห็นการณ์ไม่ดี เนวิเกเตอร์สายเมียผู้ใหญ่บ้านของพวกเราจึงทำการหาช่องทางที่สบายสำหรับพวกลูกบ้านอย่างเราๆ นั่นคือ... โบกรถกันเถอะ
ผ่านไปประมาณ 30 นาที....... รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็ขับมาแบบแข่งวิบาก ท่านพี่เราก็ได้ทำการโบกให้จอด พร้อมกับเจรจาอย่างทางการฑูตว่า "รับพวกหนูไปเถอะ" .... ล้อเล่นนน! อันที่จริงพี่ๆ เจ้าของรถน่ารักมาก ถามพวกเราก่อนเลยว่าไปไหน พอบอกว่าบ้านป่าปงเปียง พี่เค้าบอกว่าขึ้นมาเลย กำลังจะไปพอดี ... สวรรค์ชัดๆ
ในที่สุดพวกเราก็มาถึง... หลังรถกะบะ Isuzu ขับเคลื่อน 4 ล้อ HAPPY! //เมื่อชาวเนวิเกเตอร์สายฮาร์ดคอร์ ที่ยืนรออยู่ที่ป้ายเห็นกลุ่มพวกเรา แน่นอนว่า...ปฏิกิริยาคือ...."พวกแกร๊!!" พร้อมกับเสียงขำกันทั้งกลุ่ม
จริงๆ แล้วจากป้ายหมู่บ้าน เดินไปอีกประมาณ 500 เมตรก็ถึงจุดที่พวกเราตามหาแล้ว...
ทุ่งนาบ้าป่าบงเปียง
เมื่อเดินเลาะตามทางไปอีกหน่อย... นี่คือ สวรรค์ชัดๆ สวยจัง สวยอะไรแบบนี้!
ต้องบอกว่า กล้องที่ดีที่สุดคือ "ตา" ของเรา ภาพนี้เทียบไม่ได้เลยกับภาพจริง ในสถานที่จริง
เมื่อมองให้รอบ จะพบว่าลวดลายของทุ่งนาแต่ละด้านนั้น ไม่เหมือนกันเลย
และเมื่อมองไปยังเนินเขาฝั่งตรงข้าม...
กว่าจะเป็นแบบนี้ได้ต้องผ่าน "มือ" มาแน่นอน ต้องดูแลและเอาใจใส่เป็นอย่างดี
และนี่คือ..บ้านป่าบงเปียง
ด้วยความขอบคุณ จากชาวคณะ สำหรับการอดทนเที่ยวกับพวกเรา... ทริปหน้าว่ากันใหม่ ขอไปฟิตขาก่อน!
ปล. ขากลับพวกเราเหมารถกลับกัน เพราะ "ขาหมดแรงแล้ววว" - -"