ทุกๆฤดูนั้น ก็มีความงดงามที่แตกต่างกันไป 2ฤดูที่ตรงข้ามกันที่สุดคือ ฤดูฝน กับ ฤดูร้อน บางสถานที่ นิยมเที่ยวกันแค่บางฤดู เพราะว่ามันสวยแค่ช่วงเวลาหนึ่ง ใครจะคิดว่าสถานที่ๆเคยไปตอนฤดูฝน กลับมาอีกครั้งตอนฤดูร้อน จะแตกต่างได้ขนาดนี้

ภาพที่ชุ่มฉ่ำนั่นเราเข้าพื้นที่ไปตอนเดือนพฤศจิกายน ปี2558 ส่วนภาพที่สุดแสนจะแห้งแล้งนั้น ไปตอนเดือนกันยายน 2559 จึงมีภาพเปรียบเทียบบรรยกาศให้ดูทั้ง2แบบ ว่าตอนมีน้ำสมบูรณ์กับตอนไม่มีน้ำเลยสักหยด แต่งต่างกันอย่างไร

 

 

บึงบัวเขาสามร้อยยอด อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นทุ่งน้ำจืด พื้นที่ประมาณ 23,000ไร่ เรียกได้ว่าเป็นทุ่งน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของระบบอุทยานแห่งชาติของไทย

ค่าเข้าอุทยานบัตรผ่านประตู คนไทยคนละ 40 บาท และ 30 บาทสำหรับยานพาหนะ เป็นบัตรเดียวกันสำหรับเข้าสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด นั่นหมายความว่า วันนี้ถ้าเราไปถ้ำพระยานครด้วย เราก็ไม่ต้องเสียค่าเข้าแล้วค่ะ แต่ต้องภายในวันเดียวกันเท่านั้น

 

 

บึงบัวนี้เป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เพราะมีขนาดกว้างใหญ่มา แบะโอบล้อมด้วยขุนเขาของเทือกเขาสามร้อยยอดที่สูงตระหง่านอยู๋ด้านหลัง บรรยากาศดี และเงียบสงบ

จากการหาข้อมูลมา บึงบัวนี้จะมีดอกบัวบาน ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายน มีดอกบัวสายพันธ์ต่างๆ เช่น บัวหลวง บัวเผื่อน บัวสาย ออกดอกสะพรั่งอยู่ในบึง

จากการเกิดภัยแล้งจัดติดต่อกันมา 3 ปี ทำให้ที่นี่เปลี่ยนไปอย่างที่เห็น บัวเกือบทั้งหมดได้ตายและไม่มีให้เห็นอีกแล้ว มีแต่ต้นกก ต้นหญ้า ขึ้นเป็นทุ่งแทน

 

 

ที่นี่จะมีสะพานเดินไม้ยกระดับยื่นเข้าไปในบึง ให้เราเดินศึกษาระบบนิเวศน์ ดูพืนพันธ์ต่างๆ และสัตว์น้ำในบึงได้อย่างใกล้ชิด ดูไม้น้ำ ดูนก ดูปลา ไปได้ตลอดทาง สะพานนี้มีระยะทางยาวถึง 1,500 เมตร (ไปมา2ครั้งไม่เคยเดินจนสุดเลย เดินไปครึ่งทาง ก็กลับ )

มีศาลาให้นั่งพักกลางทาง และหลบแดดหรือหลบฝน อยู่เป็นระยะๆ

 

 

"ความแห้งแล้งความชุ่มชื้น อย่างไหนที่เราชอบใจ 
ความร่ำรวยความยากจน อย่างไหนที่คนชอบกัน "    

 

 

ภาพบึงบัวในเดือนที่แล้ว อย่าว่าแต่เจอบัวเลย ต้นกกก็ยืนต้นตายเหลืองเป็นแถบๆ พื้นที่ๆเคยเป็นน้ำ เป็นทุ่ง เหลือแต่ดินที่แตกระแหงเป็นบริเวณกว้าง

คนที่นั่นบอกว่า ที่นี่ฝนไม่ตกเลย ฟังแล้วอยากให้ฝนแถวๆภาคกลางไปตกที่นั่นบ้างจัง กรุงเทพนี่ตกทุกวัน เป็นฝนที่ตกบัตรเลิกงานได้ตรงเวลามาก

 

 

รอก่อนค่ะ อีกไม่นาน ฝนตก น้ำก็จะเพิ่มขึ้น ต้นกก ก็จะฟื้นคืนชีพมา เป็นบึงกกให้เราได้เห็นสีเขียวๆเย็นตา เหมือนเดิมค่ะ

 

 

การเดินทางมาบึงบัว

ใช้เส้นทางจาก กทม. ขับล่องใต้ไปทางพระรามสอง ทางหลวงหมายเลข 35 ตัดเข้าถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ที่วังมะนาว ผ่านเพชรบุรี ใช้ถนนบายพาส เลี่ยงเมืองชะอำ และเมืองหัวหิน ถึง อ.ปราณบุรี เมื่อขับเลยจาก อ.สามร้อยยอด มาแล้ว ให้สังเกตุทางซ้ายมือ จะมีทางเลี้ยวเข้าไปยัง บึงบัว ทุ่งสามร้อยยอด ปากทางเข้า จะมีป้ายบอกว่าไปโรงเจ และทุ่งสามร้อยยอด ขับไปประมาณ 8 กม. ผ่านหน้าโรงเจเข้าไปค่ะ 

ใช้เวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมง จะมาเที่ยวแล้วกลับเลย หรือหาที่พัก ค้างสักคืนแถวชายทะเลก็ยังได้

 

 

ยิ่งมาถึงช่วงเย็นๆยิ่งดีค่ะ ที่นี่ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกได้สวยมากๆที่หนึ่ง ซึ่งเรามาตอนเที่ยงทั้งสองครั้ง เลยยังไม่มีโอกาศได้เก็บภาพพระอาทิตย์ตกมาฝากเลย

 

 

ตอนที่ไปรอบที่2 คือตอนหน้าแล้ง ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดหรอกค่ะ ว่าจะเอารูปมาลงเปรียบเทียบกันให้ดู ไม่งั้นจะได้ดูก่อนว่ามุมกล้องที่เคยถ่ายมีแบบไหนบ้าง นี่ก็ถ่ายๆไปเรื่อยๆเปื่อยๆ เลยตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง พยายามเลือกให้ใกล้เคียงกันมา จะได้เห็นความแตกต่างของ ฤดูที่แตกต่างกันชัดๆ

 

 

ดูรูปกันไปยาวๆค่ะ

 

 

พอไม่มีน้ำ นักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยมากัน สะพานก็ทรุดโทรมลง บอกตรงๆว่าไม่กล้าพิงราวสะพานเลย

เนื่องจากเป็นสะพานไม้ ก็ย่อมต้องมีการผุพังไปได้ตามการเวลา เดินกันด้วยความระวังหน่อยค่ะตอนนี้

 

 

ภูเขาด้านหลังยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ยังเขียวชอุ่มเหมือนเดิม

 

 

รูปบนมีคนเดินอยู่สองคน รูปล่างตัดภาพกลับมาสู่ความอ้างว้าง แห้งแล้งไร้ผู้คน 

ตรงข้ามทุกอย่างกันโดยสิ้นเชิง

 

 

ยังไงๆ ฝนมันก็ดีกว่าแล้งแหละน่า

 

 

เห็นดินแตกๆแล้วมันตะเตือนไต(สะเทือนใจ) อย่างบอกไม่ถูก

 

 

ตอนหญ้าเขียวๆ เดินถ่ายรูปชิลๆไปตลอดทาง แต่พอเจอบึงที่ไม่มีน้ำสักหยด ก็ไม่รู้จะถ่ายอะไร T T

 

 

ฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ภูเขาสีเขียว บึงบัวสีน้ำตาล

 

 

ภาพข้างล่างเห็นฝนตกอยู่ไกลๆ

 

 

ฝากติดตามเพจน้อยๆ เป็นเพจท่องเที่ยวแบบสนุกและสบายใจ ( แวะมาส่องกันได้ ) 

https://www.facebook.com/sandysohappy/

"แสนดีแฮปปี้ คนอ่านก็แฮปปี้"