ทริปนี้เจ้าถิ่นขอพาเพื่อนเที่ยวบ้านเกิดกันบ้าง

รู้สึกว่าช่วงนี้เมืองกาญจน์จะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากการที่ได้นั่งดูสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทย ได้เห็นขาเที่ยวทั้งหลายรีวิวถึงสถานที่เที่ยวในเมืองกาญจน์กันเยอะมาก เด็กกาญจน์อย่างเราเห็นแล้วปลื้มใจจริงๆ เพราะบางสถานที่ก็ยังไม่เคยไปเลยจร้า

ว่าแล้วมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ทริปนี้เกิดจากวางแผนกลับบ้านเพื่อมาทำบุญจึงชวนเพื่อนๆ มาทำบุญด้วยกัน บวกกับมีเวลาแค่หนึ่งวันในการพาเพื่อนเที่ยวกาญจน์ เมื่อพาเพื่อนมาก็ต้องพาเพื่อนเที่ยว

“ทริปเที่ยวหนึ่งวันจึงบังเกิด”

กับ 3 สถานที่ท่องเที่ยวในกาญนะจ๊ะบุรี

เอ๊ะ! หรือนี้คือทริปพาเพื่อนเหนื่อย

การเดินทางของพวกเรา เริ่มต้นจาก จ.ปทุมธานี ณ  คลองหก

ออกเดินทางช่วงเช้าประมาณ 6 โมงกว่า มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวแรกประมาณ 9 โมงกว่า

เนื่องจากเด็กถิ่นดันพาเพื่อนหลงทางเลยทำให้การเดินทางล่าช้า ด้วยความปราถนาดีหาเส้นทางลัดกลับบ้าน... 

สถานที่เที่ยวที่แรก : วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง

มุ่งหน้าสู่ อ.เมืองกาญจนบุรี  วิ่งเส้น ถ.แสงชูโตใหม่ สังเกตป้ายเลี้ยวซ้ายไป อ.ท่าม่วง เพื่อเลี้ยวซ้ายไปเข้าเส้นแสงชูโตเก่า แล้ววิ่ง ถ.เขื่อนวชิราลงกรณ์ไปจนสุดทาง จะพบ 3 แยก ให้เลี้ยวขวา ไปตามทางอีก 1 กม. จะพบแยกซ้ายเข้าวัดม่วงชุม เลี้ยวซ้ายไปตามทาง มีป้ายบอกทาง... ไม่ต้องกลัวหลง แต่ถ้าอยากมาถึงแบบชัวๆ แนะนำให้ปักหมุดมาจร้า เพราะพาเพื่อนมาก็ปักหมุดมาเหมือนกัน 555++

การขึ้นสู่ยอดเขามี 3 ช่องทาง 1. ขึ้นรถลางเลื่อน 2. ขับรถขึ้นเขา (ไม่สูงและไม่ชันมาก) และ 3. เดินเท้าขึ้นไปเองจร้า ซึ่งพวกเราเลือกข้อสุดท้ายจร้าา ดูเหมือนไม่สูงแต่เล่นเอาหอบเลยทีเดียว

มันสุดยอดมากๆ อย่างที่เห็นตามภาพ คริๆ

บรรยายกาศของวัดถ้ำเสือ วัดถ้ำเสือจะอยู่ติดกับวัดถ้ำเขาน้อย ซึ่งเป็นวัดที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะแบบจีนที่สวยงามและมีความโดดเด่น รั้วติดกันแต่ทางเข้าคนละทางนะจ๊ะ หากเลือกไปวัดถ้ำเสือก็สามารถเห็นวิวของวัดถ้ำเขาน้อยเช่นกันจร้า

วัดถ้ำเขาน้อยจร้า มุมถ่ายนี้ ถ่ายมาจากทางวัดถ้ำเสือ

พาเพื่อนมาเที่ยวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวไปแล้ว ถ้ามาช่วงทำนา ทิวทัศน์เบื่องล่างก็จะเขียวชอุ่มไปด้วยทุ่งนา บรรยากาศโดยรอบของวัด ก็ถ่ายรูปทำบุญกันไปตามอัธยาศัย

ขากลับก็เดินลงจร้าาา เดินลงอีกทางหนึ่งเพื่อเข้าไปกราบพระพุทธรูปที่อยู่ในถ้ำก่อนกลับ พวกเราออกจากวัดประมาณ 11 โมงกว่า เพื่อเดินทางต่อไปในสถานที่ต่อไป (เราใช้เวลาไปกับสถานที่แรก ไปประมาณ 2 ชั่วโมง ถือว่าเยอะไป ถ้าบริหารเวลาดีๆ จะทำให้เรามีเวลาเที่ยวที่ "น้ำตกเอราวัณ" มากขึ้นจร้าาา) หมดเวลาไปกับการถ่ายภาพ ชมวิว

สถานที่เที่ยวที่สอง : น้ำตกเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์

เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ น้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น  

แผนที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

แหล่งที่มา: http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1011 

พวกเรามาถึงอุทยานแห่งนี้ประมาณบ่ายโมงกว่า "ขอสัญญาว่าจะรักป่าเท่าชีวิต" ชอบมากเลยกับคำปฏิญาณนี้

มาที่นี้ต้องขยันเดินจร้า เดินกันไปเพื่อสวรรค์เบื้องหน้า

นี้คือชั้น 2 จริงๆ ชั้น 2 สวยนะ แต่ไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากผู้คนเยอะมาก มากจนความสวยของชั้น 2 หายไป (ขอแนะนำว่าถ้าจะมาเที่ยว อย่ามาช่วงเทศกาล)

ไม่แน่ใจในภาพว่านี้คือชั้น 3 รึเปล่า

เที่ยวไม่ครบทุกชั้นเนื่องจากเรามีเวลาในการเที่ยวเพียงหนึ่งวันจึงได้แค่ 4 ชั้น เท่านั้น ไม่แน่ใจว่า ชั้น 4 อะป่าว (รอบหน้าจะพามาแก้มือใหม่นะ นี้คือน้ำจิ้ม เหอะๆ)

พวกเราออกจากที่นี้ 4 โมงครึ่ง อุทยานปิดพอดี เพื่อมุ่งหน้าไปในสถานที่สุดท้าย

สถานที่เที่ยวที่สุดท้าย : เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์

ที่สุดท้ายนี้เดินทางไม่ไกลจร้า เพราะห่างกันไม่มากประหยัดเรื่องของเวลาได้ในการเดินทางมาที่นี้ได้มากๆ อยู่ห่างจากน้ำตกเอราวัณ ประมาณ 4 กิโลเมตร เขื่อนศรีนครินทร์เป็นเขื่อนที่ใหญ่เป็นอันดับ 3  สามารถขึ้นไปชมวิวบนสันเขื่อนกันได้ 

เบื้องหน้าของพวกเราคือเขื่อน

พวกเราอยู่กับเขื่อน และเขื่อน เป็นชั่วโมงๆ ไม่เบื่อ กลับรู้สึกชอบ อยากอยู่นานๆ ยังไม่อยากกลับ (เคยมาหลายครั้งมากๆ ตั้งแต่เด็กๆ จนโต) รออยู่เพื่อสัมผัสบรรยากาศยามเย็น รอดูพระอาทิตย์ตก

ก็ถ่ายรูปรอพระอาทิตย์ตกกันไป 

อยู่กันจนถึงประมาณ 6 โมงเย็น จากนั้นเหร๋ออ ก็เดินทางกลับไงทั้งๆ ที่ยังไม่อยากกลับอะ มันก็เหนื่อยอยู่นะหนึ่งวันเต็มกับสามที่ท่องเที่ยวแต่ก็... ได้อยู่ๆ รอบนี้ต้องขออภัยเพื่อนเป็นอย่างมากที่พาหลง รอบหน้าจะพามาแก้มือใหม่กับสถานที่แห่งใหม่ใน “กาญนะจ๊ะบุรี”

ขอบคุงก๊าบบบที่เข้ามาชม เข้ามาอ่านกัน

By : Namee Be Bear

ขอฝากเพจน้องใหม่ของเจ้าของรีวิวด้วยนะจ๊ะ ถ้าชอบให้กดไลน์ ถ้าถูกใจช่วยกดแชร์

Fanpage : https://www.facebook.com/KanXengStudio/