<เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า>
ต่อจากบ้านแม่กำปอง
เดินทางออกจากบ้านแม่กำปอง มุ่งหน้าเข้าเมืองเชียงใหม่ไปรับผู้ร่วมทริปที่มาเพิ่มอีก 1 ที่สนามบินเพื่อเดินทางไปนาขั้นบันไดป่าบงเปียง
ออกจากสนามบินเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-จอมทอง ตรงไปเรื่อย ๆ ก่อนถึงตัว อ.จอมทอง เลี้ยวขวาไปตามป้ายดอยอินทนนท์ ถึงด่านตรวจเสียค่าเข้าอุทยาน จากนั้นตรงขึ้นไปประมาณ 40 กม. เจอด่านตรวจที่ 2 ข้างหน้าจะมีทางแยกซ้ายไป อ.แม่แจ่ม นาขั้นบันไดป่าบงเปียง แต่เราขึ้นไปยอดดอยอินทนนท์ก่อน เพื่อเที่ยวชม เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ใกล้หอเรดาห์และจุดวัดอุณหภูมิ มีระยะเส้นทางประมาณ 300 เมตร ทำเป็นสะพานไม้ หน้าฝนเป็นฤดูที่สวยที่สุดเหมาะกับการเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ เพราะเต็มไปด้วยพืชพันธุ์น้อยใหญ่ที่ชุ่มน้ำพร้อมกันออกใบเขียวทั้งป่า มีมอสและพื้นเล็ก ๆ เกาะตามต้นไม้ใหญ่ ทางเดินสะพานไม้ หมอกจาง ๆ หลังฝน ทางเดินสะพานไม้ และต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปกคลุมทั้งป่า ทำให้เรารู้สึกเหมือนเดินอยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยาย
มีฝนตกเบา ๆ แต่เราติดเสื้อกันฝนไปพร้อมทุกสถานการณ์
บ่ายสามโมงแล้ว แต่หมอกยังหนาเต็มพื้นที่ อากาศก็เย็นสบายดี 14 องศา
แวะถ่ายกับจุดชมวิวตรงข้ามลานจอดรถกิ่วแม่ปาน หน้าฝนกิ่วแม่ปานปิดนะคะ
จากนั้นเราก็กลับไปทางแยกไปแม่แจ่มเลี้ยวขับไปจนถึงป้ายน้ำตกแม่ปาน จอดรถไว้ลานจอดรถน้ำตกแล้วเหมารถต่อเข้าไป (เราติดต่อรถล่วงหน้าพร้อมกับจองห้องที่พัก) ราคารถจากลานจอดน้ำตกแม่ปานไปยังนาขั้นบันไดป่าบงเปียง ไป-กลับ 700 บาท ทางมีโคลนสูง หักศอกบางช่วง แคบ ข้างทางเป็นเหว ต้องรถ 4x4 และมีความชำนาญเท่านั้นถึงผ่านไปได้ แต่หากไปทางแม่แจ่มทางจะสะดวกกว่านี้ กระบะธรรมดาก็ไปได้
มีคนเหมารถไปพร้อมกลุ่มเรา พักที่บ้านระเบียงหน้า ของคุณบัติ เราจึงได้ลงไปถ่ายรูปหน้าโฮมสเตย์คุณบัติ รอบบ้านมีสวนฟักทอง วิวที่นี่สวยสูงที่สุดแล้ว หากได้มาอีกเราคงเลือกพักโฮมสเตย์คุณบัติ
โฮมสเตย์ศรชัย
ไปบ้านพักเราคืนนี้กัน เราพักโฮมสเตย์คุณศรชัย เป็นโฮมสเตย์ 2 หลัง ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มองเห็นวิวแบบไม่มีอะไรบนบัง เบอร์ติดต่อ 097-1916131 500 บาท/คน รวมอาหารเย็น และเช้าจ้า มีเครื่องนอนให้ ห้องน้ำส่วนตัวแต่แยกออกจากตัวบ้าน
เป็นห้องเล็ก ๆ พอดี 4 คนเรานอนได้ ไม่มีไฟฟ้าใช้ มีตะเกียง เทียนไข และยากันยุงให้ หน้าห้องเป็นชานไว้นั่งชมวิว กินข้าว ทำกิจกรรมต่าง ๆ
วิวหน้าห้องพัก
เจ้าของโฮมเดินมาส่งข้าวที่บ้านพัก
อาหารเย็นจริง ๆ ก็ไม่อร่อย แต่เราหิวก็กินได้ทุกอย่าง
อิ่มท้องก็นอนดูวิว
เดินไปดูทุ่งนาด้านหน้าบ้าน น่าเสียดายเราโชคไม่ดีมีฝนตกตลอดไม่ได้เจอแสงลอดผ่านเมฆหมอกสะท้อนกับน้ำในทุกนา
ชาวนาที่นี่ผันน้ำจากน้ำตกมาใช้ในการทำการเกษตร
บ้านหลังน้อยของเรา
ตะวันตกดินแสงสว่างหมด ไฟฟ้าไม่มีต้องอาศัยแสงเทียน บรรยากาศห้องน้ำ กิจกรรมยามค่ำคืน นั่งคุยกันใต้แสงเทียน คลื่นโทรศัพท์ คลื่นอินเตอร์เน็ตมาเต็มง่วงแล้วก็เข้าไปนอนในบ้านกัน ยุงก็มีบ้าง อากาศหนาวนิดหน่อยค่ะ
ออกมาฟ้าบ้างเป็นพัก ๆ หวังว่าจะเจอดาว แต่ฟ้าปิด เมฆเต็มฟ้า ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นก็มีเมฆหมอกบัง แม้ไม่ได้เจอกับแสงแต่เราก็ยังได้เจอกับหมอก ฉากหลังของนาขั้นบันไดป่าบงเปียงเป็นภูเขาเขียวเต็มไปด้วยไร่ข้าวโพดหลายแปลง ตัดกันเป็นตารางดูจะเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ก็ว่าได้ อาหารเช้า
กลับแล้วค่ะ ไปต่อแม่แจ่มกัน
เราขับเข้าไปในตัวแม่แจ่ม เพื่อจะไปชมนาขั้นบันไดแต่หลงทางไปไม่ถึงปลายทาง จึงเที่ยวตามที่ Google map พาไปได้
วัดพุทธเอ้นหน้าวัดมีบ่อน้ำไหลตลอดเวลา ชาวบ้านจะมารองน้ำไปใช้บริโภคภายในวัดถ่ายจากข้างนอก เนื่องจากแต่งกายไม่เรียบร้อย
จากนั้นเราแพลนว่าจะไปรับประทานอาหารเที่ยงที่น้ำออกฮู ที่เที่ยวใหม่ของแม่แจ่ม จากวัดพุทธเอ้นประมาณเกือบ 20 กม. ได้ แต่ไม่มีใครเลย คาดว่าน่าจะเปิดแค่ช่วงเสาร์ อาทิตย์ และเทศกาล
จากนั้นเราเดินทางกลับเส้นอินทนนท์เข้าไปยังเชียงใหม่ เพื่อเดินทางไปต่อยังเชียงดาว
นาขั้นบันไดป่าบงเปียง แม้ที่พัก อาหาร จะดูธรรมดา แต่วิวและบรรยากาศรอบที่พักสวยงามคุ้มค่าการเดินทางมาเยี่ยมชมแน่นอน การเดินทางลำบากไปนิด แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างนึงก็ว่าได้
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ 4 คน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่ารถเช่า ค่าน้ำมัน เฉลี่ยคนละ 1200 บาท
เราจะเดินทางไปเชียงดาวกันต่อ รอติดตามเร็ว ๆ นี้นะคะ (ทริปนี้ 4วัน 3คืนค่ะ บ้านแม่กำปอง บ้านป่าบงเบียง ลีซูโฮมสเตย์ เชียงดาว)
EP.แม่กำปอง ตามรีวิวลิงค์นี้นะคะ
สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ ฝากเพจ "เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า" ด้วยนะคะ