ทริปนี้เกิดจากเห็นภาพในเพจ Unseen Tour Thailand  ต้องขอบคุณภาพสวยๆ จากเพจนี้ค่ะ ทำให้อยากขับรถไปเที่ยวที่นครปฐม  เป็นภาพตลาดน้ำทุ่งบัวแดง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen Thailand อีกสถานที่หนึ่งค่ะ  ทริปนี้ฉายเดี่ยวนะคะ 

วันเสาร์ที่  24  มิถุนายน  2560 

ขับรถออกจากกรุงเทพฯ เวลา 11.30 น.  ตื่นสายเลยออกสาย ใช้ถนนเส้นตรงจากอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิตรงไปนครปฐม เนื่องจากไม่คุ้นเส้นทางเลยใช้ Google Map นำทางไป "ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง  อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม"  ซึ่งทางที่ Googel Map พาไปแบบลัดเลาะมาก ถนนไม่ค่อยดีเท่าไร ถ้าเพื่อนๆ คนไหนจะไปแนะนำให้ไปทางอำเภอกำแพงแสน ทางจะดีกว่าค่ะ  ไปถึงตลาดน้ำทุ่งบัวแดงก็บ่ายสองค่ะ เพราะรถติดช่วงออกจาก กทม ด้วย 

• ด้านหน้าตลาดจะมีที่จอดรถ และสามารถจอดรถด้านข้างของคลองน้ำได้ค่ะ  ช่วงนี้คนยังไปเที่ยวไม่เยอะ เพราะอาจจะพึ่งเปิดใหม่ค่ะ   

ปล. ภาพทั้งหมดเราถ่ายจากกล้องมือถือไอโฟน 6s นะคะ อาจจะไม่ชัดสักเท่าไหร่  

• ที่นี่มีบริการเรือให้พายรอบสระ เพื่อถ่ายรูป ชมดอกบัวที่บานสะพรั่งอย่างสวยงามนะคะ  ราคา 100 บาท หรือถ้าพายเรือไม่เป็นก็สามารถให้เจ้าหน้าที่พายเรือให้ก็ได้ค่ะ  ไม่แน่ใจว่าเขาคิดค่าบริการเพิ่มหรือป่าว จะมีร่มไว้คอยบริการด้วยค่ะ   สำหรับเราไม่ได้ลงไปพายเรือ เนื่องจากต้องรีบขับรถไปกาญจนบุรีต่อ ไม่อยากถึงเย็นมาก  ช่วงนี้ดอกบัวสวยมากค่ะ แนะนำให้ลงเรือแล้วพายรอบสระค่ะ 

• ที่นี่จะมีร้านอาหารให้นั่งกินลม ชมวิว แบบชิลๆ หลายร้านค่ะ รวมถึงร้านคาเฟ่น่ารักๆ หลายร้านค่ะ  เราเลือกนั่งร้านนี้  ลองสั่งเมี่ยงคำกลีบบัวมาลองกินดู  1  ถาด ราคา 129  บาท พร้อมด้วยช็อกโกแลตเย็นอีก 1 แก้ว ราคา 65 บาท   ไม่เคยกินเมี่ยงคำกลีบบัวเลยตั้งแต่เกิดมา เพราะเข้าใจว่ามันจะขมๆ ไม่อร่อย แต่พอลองแล้ว โอ้โหหหห อยากซื้อกลับบ้านไปฝากแม่เลยค่ะ อร่อยจริงๆ ค่ะ ต้องลองค่ะ

• เราเดินเล่นอยู่ที่ตลาดน้ำทุ่งบัวแดงอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ขับรถไปกาญจบุรีต่อค่ะ  คืนนี้เราพักที่โรงแรมริเวอร์แคว  ถนนแสงชูโต   

• กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ  เราออกไปหาอะไรกินมื้อเย็นแถวแพริมน้ำ ที่บรรยากาศดีๆ  วันนี้เราสั่งเมนูปลาซ่อนลุยสวน กับน้ำพริกยิกา (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะ ฟังน้องเขาพูดไม่ชัด) แต่จะมีน้ำพริก ไข่ แล้วก็ผักเป็นเครื่องเคียง  กินหมดนี่ก็แปลงร่างเป็นหนอนบุ้งได้เลย ผักเยอะเกินไปสำหรับคนที่ไม่กินผักอย่างเรานะ 555555  มื้อนี้จ่ายค่าเสียหายไป  470  บาท สำหรับอาหาร 2 อย่าง พร้อมน้ำ และน้ำแข็งค่ะ  บรรยากาศตอนเย็นที่นี่ดีมากค่ะ ไม่ร้อน ไม่มียุง เย็นสบาย 

วันอาทิตย์ที่  25  มิถุนายน  2560 

พอเสร็จสิ้นจากอาหารมื้อเช้า เวลา 9.30 น. พร้อมเช็คเอ้าท์  เราก็ขับรถออกจากโรงแรม เปิด Google Map ไปที่เมือง มัลลิกา ร.ศ.124 เลยค่ะ  ไปไม่ยากค่ะ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาทีจากในตัวเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าไปทางอำเภอไทรโยค   

เมืองนี้จะมีค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 200 บาท  ค่าเช่าชุด สำหรับผู้หญิง + เครื่องประดับ + ร่ม ราคา 200 บาท และจะมีที่แลกเงินอยู่ติดกับที่จำหน่ายตั๋วค่ะ  วันนี้แลกเงินแค่ 300 บาท จะได้เงินพดด้วงมาใช้ เป็นเงินที่มีรูตรงกลาง ไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้เงินแบบนี้ในชีวิต   เราชอบที่นี่มากเพราะผู้คนพูดจาไพเราะมาก บริการดี เจ้าค่ะ  ขอรับ ทุกคำ  มีที่จอดรถสะดวก สบาย ผู้คนดูยิ้มแย้มแจ่มใส น่ารักดีมากค่ะ 

• เมืองมัลลิกา ร.ศ.124  

เงินพดด้วงตรงกลางมีรู  ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสใช้  ในมือเราแลกมา 300 บาทค่ะ 

การแต่งกายแบบไทยๆ  คือยอมรับว่าตกใจตัวเองค่ะ 55555555  พอเดินเข้าเมืองก็มีแต่คนแต่งกายแบบไทยๆ หมด ดูน่ารักดีค่ะ 

เราชอบวิถีการใช้ชีวิตแบบไทยๆ ค่ะ เหมือนเราได้กลับไปยังยุคสมัย ร. 5 จริงๆ คือ ทุกอย่างดูน่ารักในแบบไทยๆ ดีค่ะ เพื่อนๆ ต้องลองมาเช็คอินที่นี่ดูนะคะ  ของกินที่นี่เยอะใช้ได้ค่ะ โดยส่วนตัวเราชอบกินไอศรีมมะพร้าวสด แล้วก็ขนมบ้าบิ่น  วันนี้เราซื้อไอศรีม ราคา 8 สตางค์  ซื้อ ชาเย็น ราคา 5 สตางค์  ซื้อขนมบ้าบิ่น ราคา 5 สตางค์  

วิถีชีวิตโดยรอบๆ เมืองมัลลิกา 

• หลังจากเดินเที่ยว กิน ชมเมืองมัลลิกาจนพุงกางแล้วเราก็ขับรถต่อไปเที่ยวที่สวนสัตว์เปิด  ซาฟารี พาร์ค กันต่ะค่อ 

Safari Park Open Zoo @Kanchaburi 

ค่าเข้าสวนสัตว์  200 บาท ต่อ คน  ราคานี้จะรวมดูการแสดงโชว์จระเข้ และการแสดงโชว์ช้างด้วยนะคะ พร้อมนั่งรถบัสชมสัตว์ต่างๆ จะมีทั้งให้อาหารกวาง ดูเสือ สิงโต หมี และให้อาหารยีราฟกับม้าลายด้วยค่ะ  จะมีชุดแครอทขาย 100 บาท ต่อชุด เอาไปให้กวาง ม้าลาย และยีราฟค่ะ   ส่วนตัวไม่ดูการแสดงโชว์จระเข้และการแสดงโชว์ช้างค่ะ เพราะไม่ชอบ  เพื่อนๆ คนไหนชอบก็ดูได้ตามสบายค่ะ 

ทริปนี้เราปิดท้ายด้วยการกลับไปเช็คอินที่สะพานข้ามแม่น้ำแควค่ะ  เพราะถ้าไม่มาเช็คอินที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงกาญจนบุรีค่ะ 555555555 

• สะพานข้ามแม่น้ำแคว  กาญจนบุรี  

​

หลังจากขับรถเที่ยวแบบเต็มอิ่มแล้ว  18.00 น. ก็ขับรถมุ่งหน้ากลับ กทม ไปทำงานต่อค่ะ  เพราะเราคือ มนุษย์เงินเดือนที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว ถ้ามีเวลาก็จะออกไปเที่ยวตลอด ส่วนมากจะออกทริปคนเดียว สบายดี ไม่ต้องยุ่งยากอะไรมากมาย ไม่ต้องรอเพื่อน  เพราะกว่าจะรวมตัวกันได้เราคงไม่ได้ไปเที่ยว แต่ข้อเสียของการเที่ยวคนเดียว คือ ไม่มีคนถ่ายรูปให้ค่ะ  555555   เจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ .... บัยยยยยย