ไปไหนไม่รู้ Ep.2 ONE DAY TRIP IN PETCHABURI
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่Ep.2ของเรา เย่ๆๆๆๆๆๆ แต่วันนี้เราจะมารีวิวแหล่งเที่ยว ช็อป ชิม ในเพชรบุรีเมืองแห่งขนมหวาน
ที่แรกที่จะเเนะนำคือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊กเม้ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้นตำรับสาขาดั้งเดิม แต่หมูเค้าก็มีขายนะ สั่งได้ 55555
ขออธิบายก่อนนะคะว่าก๋วยเตี๋ยวเพชรบุรีสไตล์เค้าจะมีเทคนิคการกินอยู่นิดนึง คือ ซอสพริก ใช่แล้วค่ะซอสพริกจริงๆไม่ได้หลอกนะะะ เวลากินก็ให้เทซอสพริกที่เค้าให้มากับก๋วยเตี๋ยวเทลงไปเลยจ้าาาาา รสชาดกลมกล่อม อูมามิมากกกก ปล.ในภาพเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูอู๊ดๆ
เอ้า 1 2 3 เทลงซอสพริกไปเลยยยยยยยยยยยยยยยย
เมนูต่อมาที่จะเเนะนำก็คือข้าวเเช่ค่ะ
ข้าวแช่ จะเป็นข้าวสุกขัดแช่กับน้ำเย็น น้ำเย็นนี่มักจะเป็นน้ำดอกมะลิ กินกับเครื่องต่างๆเช่น ลูกกะปิ ผักกาดเค็มผัดหวาน หมูฝอยผัดหวาน และ เครื่องผัดหวานต่างๆ ปัจจุบันอาจจะใส่น้ำเเข็งลงในข้าวเเช่ด้วย เชื่อกันว่าเดิมข้าวเเช่นั้นเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ นิยมสังเวยเทวดาในตรุษสงกรานต์ ชาววังรับไปปรับปรุง เรียกว่า "ข้าวเเช่เสวย" หรือ "ข้าวเเช่ชาววัง" เมื่อสิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี 2453 ข้าวเเช่ก็ได้รับการเผยแพร่ไปนอกวังและเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง ง่อวววว วันนี้มีสาระขึ้นมาบ้าง ขอขอบคุณสาระจากwikipediaค่าาาา 5555555
ถ้าถามว่าร้านไหน ก็ซื้อที่ร้านตรงข้ามเจ๊กเม้งนั่นแหละค่ะะะะ ฟินนนนน
พอทานเสร็จแล้ว มีพลังงานเพิ่มมาแล้ว ต้องไปเที่ยวสินะ สถานีต่อไปพระรามราชนิเวศน์ หรืออีกชื่อคือ วังบ้านปืนค่ะ
ด้วยเหตุที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ที่จะมีพระราชวังนอกพระนครเพื่อประทับค้างแรมได้โดยสะดวก จังหวัดเพชรบุรีที่พระองค์มีพระประสงค์จะให้เป็นพระราชวังที่ใช้ประทับยามหน้าฝน พระองค์จึงมีพระราชโองการให้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านที่เขตบ้านปืน ริมแม่น้ำเพชรบุรี โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เป็นแม่งานควบคุมการก่อสร้าง และมีพระบัญชาให้ คาร์ล ซีกฟรีด เดอห์ริง (Karl Siegfried Dohring) ผู้เคยออกแบบ วังบางขุนพรหม วังวรดิศ และวังพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐมาแล้วเป็นสถาปนิกออกแบบค่ะ
สถานที่ต่อไปที่เราจะพาไปเที่ยวกันก็คือ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน โดยตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก ลักษณะเป็นพระตำหนักแบบไทยผสมยุโรป เป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูง สร้างด้วยไม้สักทองพระราชวังแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น“พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง” ตามเรื่องราวที่มีการเล่าขานสืบกันมาว่า
เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจีทรงพระครรภ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญยิ่ง แต่ความหวังนั้นก็สิ้นไปเมื่อสมเด็จฯ ไม่สามารถมีพระประสูติกาลได้ พระองค์ได้ทรงอภิบาลพระมเหสีด้วยน้ำพระทัยเป็นห่วงและเศร้าสร้อย ด้วยทรงหวังว่าจะมีพระราชโอรสไว้สืบราชสันตติวงศ์ จึงเกิดเป็นที่มาของพระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวังขึ้น
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30–16.00 น. ปิดวันพุธ
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท
เที่ยววังกันมาแล้ว ที่พลาดไม่ได้คือเที่ยววัด จัดไปค่ะ! วัดใหญ่สุวรรณาราม เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดเพชรบุรี สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นแหล่งรวมฝีมืองานช่างที่ปราณีต อ่อนช้อยและงดงาม ของฝีมือช่างเพชรไว้มากมาย อีกทั้งอีกทั้งวัดใหญ่สุวรรณรามเคยใช้เป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง สุริโยทัย ละครเรื่องบ่วง และขุนศึกอีกด้วย โอ้โหววววว ธรรมดาที่ไหนล่ะวัดนี้
เราไปในช่วงที่เค้าจัด International documentation camp of vernacular architecture CIAV VERNADOC 2015 พอดีเลย เจ๋งงง!
เมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ภารกิจต่อไปของพวกเราก็คือ เดินเล่นในงานเดินยิ้มริมน้ำ ถ้าไปคนเดียวก็ดีเลยนะคะเดินยิ้มคนเดียวพูดคนเดียวตลอดงาน เดี๋ยวๆๆๆไม่ใช่แล้วววว 555555
มาชมบรรยากาศภายในงานกันเลยค่าา~
เห็นพระปรางค์วัดมหาธาตุอยู่ลิบๆด้วยยย
ตรงท่าน้ำก็จะมีบริการพายเรือข้ามฝั่งจากตลาดมายังวัด ความไวนี่นึกว่าสปีดโบ๊ท พายเเบบบึ๊ดจั้มบึ๊ดๆๆๆเลยทีเดียว
คุณตาคุณยายคู่นี้น่ารักมากเลยค่ะ คนโสดอย่างเราเห็นแล้วน้ำตาจิไหล ขอเปีย เอ้ย! เเชร์ นะคะ อิอิ
ร้านกาแฟชิคๆคูลๆก็มีนะเธออออออ มาแวะสโลไลฟ์ได้นะ
เดินนานแล้วเริ่มหิว ท้องร้องแง๊ๆ ร้านสุดท้ายก่อนจากลากันไป ต้องจัดของหวานเจ้าเด็ดซักหน่อย นั่นคือคือ ร้านนกน้อย นั่นเองงงงงง
อื้อหือออ เยอะจนเลือกไม่ถูกอีกแล้วค่ะ สั่งหมดร้านเลยได้มั้ยยย 5555555
ลากันด้วยภาพสุดท้าย ถ่ายตอนเดินเล่นเเถวสะพานจอมเกล้าค่ะ บรรยากาศดูชิวดี เผื่อใครเป็นสายนั่งชิวก็อัญเชิญค่ะ 555555
ขอขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมากันถึงตรงนี้ รีวิวหน้าพวกเรา Hanako Twins จะมารีวิวอะไร ในEp.ต่อไปฝากติดตามกันด้วยนะคะะะ :)
ติดตามพวกเราในอีกช่องทางนึงได้ที่ :
FB: http://www.facebook.com/thehanakotwins
สุดท้ายขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมดีๆอันมีสาระจาก wikipedia และ ททท.ด้วยค่ะ จุ๊ฟฟฟ