Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
CHIANG RAI ป้ายหน้า | หลงไปในสายหมอก จังหวัดเชียงราย (Chiang Rai Province) จ.เชียงราย
    • Posts-1
    GO OUT THERE •  February 03 , 2017

    CHIANG RAI ป้ายหน้า | หลงไปในสายหมอก

    CHIANG RAI ป้ายหน้า | หลงไปในสายหมอก

    เชียงราย ~ 1 ดอย กับ 4 ภูในฝัน  

    เดือนธันวาคม กับการเดินทางครั้งใหม่ แต่เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของปี 2016 กันแล้ว แว่ว ๆ มาว่าจะหนาวกว่าปีที่แล้ว คนทางนี้ตาโตเลยฮะ [นี่ก็นานแล้วนะ ที่เราไม่ได้หนาวจริงจัง] และถ้าอยากจะ 'หนาวเนื้อ' ล่ะก็ ต้องขึ้น 'เหนือ' สินะ เราก็เลยพาตัวเองออกจากบ้าน ไปสูดกลิ่นไอ [ภู] เขา ไปเงยหน้ารับลมหนาว และพาตัวเองไปให้หมอกกอดให้ถึงที่กันเลย :)

     

    10 ชั่วโมง | 792.6 กิโลเมตร

    'เชียงราย ป้ายหน้า'

    ...แค่สิบชั่วโมง (เอ้ง) ขับไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน (หรา...าา) เม้าส์แตกก็แล้ว แกะขนมถุงแล้วถุงเล่า นั่งจนก้นชา...ก็ยังไม่ถึง แต่ก็ 'คุ้ม' เมื่อแลกมาด้วย 'ภาพระหว่างทาง' ที่หาไม่ได้ในชีวิตคนเมือง ภาพที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปให้เราได้ซึมซับและรู้สึก บรรยากาศที่เริ่มเลือนจางจากเมืองใหญ่อันแสนวุ่นวาย สู่...ท้องนา ป่าและเขาเขียว ๆ

    จังหวัดเชียงราย มีสถานที่อีกเยอะที่เรายังไปไม่ถึงและครั้งนี้ก็อัดแน่นไปด้วยสายหมอก อากาศดีดี กับภาพงาม ๆ บนยอดภูในฝัน 'จุดหมายปลายทาง' ที่กำลังเรียกร้อง ยืนโบกมือไหว ๆ ให้เรารีบไปให้ถึง

    เช้าแรกที่ เชียงราย ณ อำเภอแม่สาย แค่ข้ามวันบรรยากาศก็เปลี่ยน อากาศร้อน ๆ อบอ้าวก็กลายเป็นเย็นสบายตั้งแต่เมื่อคืนที่มาถึงที่พัก และเช้านี้อากาศเย็น ๆ กำลังสบาย น่าจะสักสิบห้า-สิบหกองศาได้ ลมหายใจเป็นไอนิด ๆ พอได้หยิบเสื้อกันหนาว [ที่ปกติหมกอยู่ก้นตู้] กับผ้าพันคอมาใช้เสียให้เต็มยศ คือรีบ คือ...กลัวไม่ได้ใช้ 55

    กินอาหารเช้าแล้วเช็คเอาท์เลย ออกจากที่พักซึ่งตั้งอยู่แถวตีนดอย เพื่อความสะดวกตอนขึ้นไป วัดพระธาตุดอยตุง ภารกิจไหว้พระขอพรในโอกาสกำลังย่างเข้าสู่ปีใหม่

     

    "เขา เรา และ (พม่า) เพื่อนบ้าน"

    DOI#1 ดอยช้างมูบ | เชียงราย

    : : จุดชมวิวดอยช้างมูบ อยู่ไม่ไกลจาก วัดพระธาตุดอยตุง และไม่ไกลจาก พระตำหนักดอยตุง เท่าไหร่เลย แค่ขับรถต่อไปอีก 9 กิโลเมตร ประมาณ 15 นาทีก็ถึง

    ที่นี่... จุดชมวิวดอยช้างมูบ หรือ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ตั้งอยู่ชิดแนวเขตชายแดนไทย - เมียนมา (Border of Thailand and Myanmar) มองเห็นธงพม่าสะบัดไหว ๆ อยู่ด้างล่างนู่น

    ตรงนี้เป็นจุดชมทิวทัศน์ภูเขาในมุมกว้างที่สวยงามจุดหนึ่งเลยนะ ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ~ 1,485 เมตร รอบ ๆ บริเวณที่เรายืนอยู่เป็นพื้นที่ของกองร้อยทหารม้าที่ 2 ภายในฐานปฏิบัติการยังมีบังเกอร์ให้เห็นร่องรอยการใช้งาน นับตั้งแต่สมัยที่แนวชายแดนไทยยังไม่สงบ เอาจริง ๆ ขึ้นมาที่วัดพระธาตุดอยตุงก็หลายครั้ง มีครั้งนี้นี่ล่ะที่ได้ทำความรู้จักกับ ดอยช้างมูบ ถ้าเพื่อน ๆ ขึ้นมาถึงพระตำหนักดอยตุง ชมสวนดอกไม้กันแล้ว ก็แวะเวียนมาชมความงามของ 'เขา' ที่นี่กันได้ค่ะ :)

    ~ จุดชมวิวดอยช้างมูบ ตั้งอยู่ในพื้นที่กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ หมู่ที่ 10 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

    พิกัด : 20.338722, 99.812358

    ~ การเดินทาง ใช้ถนนแม่สาย-ดอยตุงสายใหม่ ไปจนถึงแยกพระตำหนักและสวนดอกไม้ เลี้ยวขวาไปทางสวนรุขชาติแม่ฟ้าหลวงดอยช้างมูบ ขับตรงไป 1 กิโลเมตรก็ถึง โดยสามารถขับรถขึ้นไปถึงแล้วจอดรถตรงป้ายด้านหน้า เดินขึ้นบันไดไปอีกเล็กน้อย จุดชมวิวจะอยู่ด้านบนค่ะ

    ชอบตรงคนไม่เยอะนี่แหละ แถมเดินขึ้นไปข้างบนอีกนิดเจอมุมกาแฟเล็ก ๆ กับที่นั่งสุดชิวล์ ณ เวลานี้บรรยากาศมัน 'ใช่'ทำหัวให้ว่างแล้วนั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ บนดอย ที่ชงโดยน้อง ๆ ทหาร อากาศดี๊ดี มีลมพัดมาเอื่อย ๆ เบา ๆ ปล่อยให้เวลาผ่านไปช้า ๆ คือ...มัน 'ฟิน' อย่าบอกใครเลยเธอ ❤️ ❤️ ❤️

    ที่นี่มีลานให้กางเต้นท์ด้วยนะเออ แต่ต้องเตรียมเต้นท์และเสบียงมาเอง จะมาชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก หรือจะมานอนดูดาวก็เหมาะ ถึงสิ่งอำนวยความสะดวกจะน้อย แต่ก็มากพอสำหรับเราแล้ว แค่มีห้องน้ำ ร้านกาแฟเล็ก ๆ ขายชา กาแฟ (มีเฉพาะเครื่องดื่มร้อน) กับขนมปังกรุบกริบเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนอาหารต้องเตรียมมาเองนะ

    ตอนลงจาก ดอยช้างมูบ ก็ติดเที่ยงแล้ว เรามาตั้งต้นกันที่ตัวเมืองเชียงราย มองหาอาหารรองท้องกันก่อนจะขับขึ้นเขากันอีกรอบ เราจะไปที่ อำเภอเทิง กันล่ะ ที่หมายของเราคือ ต.ตับเต่า หรือ 'ภูชี้ฟ้า' ระยะทาง ~ 108 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โห! ตั้งไกล...แล้วขับไปทำอะไรฟะ ตามมา ๆ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง...

     

    • Posts-2
    GO OUT THERE •  February 03 , 2017

    ถ้าพูดถึง 'เทือกเขาดอยผาหม่น' เป็นอะไรที่ไม่คุ้นเลยนะ แต่ถ้าพูดถึง 'ภูชี้ฟ้า' ต้องร้องอ๋อเลยสิ ก็ 'ภูชี้ฟ้า' เป็นจุดท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาบนดอยผาหม่น เทือกเขาที่ทอดยาวกั้นเขตแดนระหว่างไทย-ลาว ฝั่งจังหวัดเชียงรายกับพะเยา นั่นไง

    เอาล่ะ! คุ้น ๆ กันแล้วเนอะ เดี๋ยวเราจะพาตัวกับหัวใจไปพัก ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างล่างนี่แหละ แล้วไปตามหาความสุขที่เหนือยอดภู [เขา] ด้วยกัน :)

    ~ การเดินทาง ถนนมีตั้งแต่ราบเรียบไปจนถึง...หลุมบ่อ ขับพริ้ว ๆ สบาย ๆ ไปจนถึงต้องระมัดระวังเพราะสูง แคบและชัน เส้นทางบนเขาคดเคี้ยวเลี้ยวเป็นตัวเอส เสียวกันสุด ๆ แต่ก็โคตรสวย มีหุบเขา และ [ภู] เขาเป็นเพื่อนไปตลอดทาง (ดูอุ่นใจดีเนอะ) เมื่อออกจากตัวเมือง เราใช้ถนนหมายเลข 1020 แล้วมุ่งหน้าไปทาง อำเภอเทิง จากนั้นเข้าสู่ถนนหมายเลข 1021 ตามด้วยหมายเลข 1055 และเลี้ยวหักศอกไปทางขวา ขับเข้าสู่ถนนหมายเลข 1093 เพื่อเดินทางไปที่พัก ที่อยู่ใกล้ ๆ ภูชี้ฟ้า

    ~ เส้นทางนี้...มอเตอร์ไซด์ขับไปถึง รถยนต์ก็ไปได้นะ ขอแค่ขับชำนาญหน่อยเพราะจะเจอโค้งไปเรื่อยๆ ค่ะ

    "ภูในฝัน สวรรค์ในสายหมอก"

    กะเวลาถึงที่พักไม่เกินหกโมงเย็นก็ถึงตามที่ตั้งใจ หลังจากเลือกเส้นทางที่ไกลกว่ากันเล็กน้อยแต่วิ่งสบาย โดยแยกจากบ้านปางค่า ไปใช้ถนนหมายเลข 1155 ขับผ่านหมู่บ้านและโรงเรียนให้พอไม่เหงา มี บ้านรักแผ่นดิน บ้านแผ่นดินทอง นั่งชมวิวเขายาว ๆ กันไปก่อนจะเลี้ยวขวาตรงโค้งหักศอก ขับต่อเลาะเขาสักพักหนึ่งก็มาถึงที่พัก

     

    PHU#1 ภูสวรรค์ รีสอร์ท | เชียงราย

    : : ภูสวรรค์ รีสอร์ท (ภูชี้ฟ้า) นี่เป็น 'สวรรค์ในสายหมอก' ของคนที่ขับรถอ้อม 'เขา' มานานกว่า 2 ชั่วโมงอย่างเราชัด ๆ :)

    บรรยากาศเมื่อแรกพบ ถือว่า 'ใช่' และจะมากกว่านี้เมื่อแสงเช้ามาเยือน วันนี้...ดวงอาทิตย์ราแสง หลบเร้นเข้าเหลี่ยมเขาตอนที่เรามาถึง หลงเหลือไว้ให้เสพแค่แสงจาง ๆ

    ภูสวรรค์ รีสอร์ท (ภูชี้ฟ้า) เป็นที่พักตั้งเลียบอยู่ตามไหล่เขา ฝั่ง ต.ตับเต่า ที่มีวิวอลังอยู่หน้าบ้าน วิวสวย โลเกชั่นเยี่ยมในความคิดเห็นของเรานะ ดีตรงที่ไม่ต้องไปไหนไกล ไม่ต้องปีนหรือเดินขึ้นเขาให้เหนื่อย แค่ตื่นเช้า ๆ แล้วนั่งเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ชมวิวหน้าบ้านพักที่ล่ะ

    ที่นี่เขาเลี้ยงดู ปูเสื่ออย่างดีนะ เจ้าของใจดีและน่ารัก [มาก] เป็นที่พักแบบรวมอาหารเช้าและอาหารเย็น มีให้เติมจนกว่าจะอิ่ม เป็นเมนูพื้น ๆ ธรรมดา ๆ นี่ล่ะ แต่อร่อยแฮะ มันเลิศตรงส่งตรงออกมาจากครัว ผัดร้อน ๆ ควันฉุย ๆ ผักก็สดดี และตบท้ายด้วยผลไม้แล้วแต่ฤดูกาล

    ความพีคอยู่ตรงนี้! คอกาแฟเป็นปลื้ม ก็เมล็ดกาแฟที่นี่เขาปลูกเอง คั่วเองกับมือ ไร่ก็อยู่รอบ ๆ ที่พักนี่ล่ะ แต่ละแก้วก็เลยเข้มสะใจ เขามีมุมน้ำร้อน ชากาแฟตรงเคาน์เตอร์ บริการตัวเองได้ตลอด 24 ชั่วโมงเล้ย อ้อ! ตรงนี้มีสัญญาณ Wifi ด้วยนะ :) 

    ~ จุดเด่น ที่พักมีวิวสวยหน้าบ้าน มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนกับท้องฟ้าเวิ้งว้าง ให้เราได้ออกไปยืนสูดอากาศแล้วมองออกไปไกล ๆ ในวันที่อากาศเปิด เราสามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกหน้าบ้าน ถ้าอากาศปิด นั่งชมทะเลหมอกไหลไปเพลิน ๆ นะ

    ~ ที่พัก ภูสวรรค์ รีสอร์ท (ภูชี้ฟ้า) ตั้งอยู่ที่ 44 หมู่ 19 บ้านร่มโพธิ์ทอง ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย | พิกัด 19.806924, 100.435356

    • Posts-3
    GO OUT THERE •  February 03 , 2017

    PHU#2 PHU CHEE DAO | CHIANG RAI

    : : ภูชี้ดาว ⭐️ เชียงราย เช้ามืดของวันใหม่ เราเริ่มกันที่จุดที่ไกลก่อน ตั้งเวลาปลุกตั้งแต่ตีสี่ เมื่อตัวพร้อม กล้องพร้อม ตีสี่ครึ่งก็เดินทางไปยังทางขึ้น 'ภูชี้ดาว' ด้วยรถกระบะ [คุณลุงเจ้าของรีสอร์ท] ต้องขับฝ่าความมืด แคบชันบนเขา ลัดเลาะไปตามไหล่เขาพักใหญ่ สัก 20 กิโลเมตรก็มาถึงทางขึ้นภู ตีนภูเป็นร้านอาหาร ที่พักและพื้นที่จอดรถกระบะที่เรียงรายรอพาขึ้นไปด้านบน เส้นทางจากลานจอดขึ้นไปข้างบน ~ 3 กิโลเมตร ทางค่อนข้างโหดต้องใช้รถกระบะหรือ 4WD ที่ชำนาญทางเท่านั้นนะ เราแนะนำให้ใช้รถของพื้นที่เพื่อความปลอดภัย และเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนด้วยค่ะ

    ~ ค่ารถไป-กลับจาก 'ภูสวรรค์' ไปถึงทางขึ้น 'ภูชี้ดาว' [~ 25 นาที] คนละ 100 บ.

    ~ ค่ารถขึ้นไป-กลับจากตีนภู ไปถึงด้านบน 'ภูชี้ดาว' [ระยะทาง 3 กิโลเมตร ~ 15 นาที] คนละ 100 บ. [ถ้าไม่ถึง 5 คน เหมาคันละ 500 บ.]

    พิกัด : 19.877651, 100.444594

    ...เป็น 3 กิโลเมตรที่ต้องหาที่เกาะให้มั่น ไม่งั้นจะไหลไปกองกันท้ายกระบะ เดือดร้อนคนที่นั่งท้ายสุดนะฮะ ก็เลยเกร็งตัวเกือบเป็นตะคริว ขับขึ้นอย่างเดียว ทางโหดจนลืมหนาวไปเลย พักใหญ่ ๆ เราก็มาถึงด้านบน เป็นลานดินกว้าง ๆ ที่มีพื้นที่จอดรถกับเพิงขายของเล็ก ๆ อย่างเครื่องดื่มร้อน น้ำดื่ม โจ๊ก มีห้องน้ำด้วย จากตรงนี้ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยซะ แล้วจะเดินเท้ากันต่อประมาณ 200 เมตร ความมืดยังโรยตัวจึงต้องใช้ไฟฉายเป็นตัวช่วย ไม่เหงาเพราะมีกลุ่มคนที่นั่งกระบะมาด้วยกันร่วมขบวน จากนั้นก็เดิน เดิน เดิน...จนกว่าจะถึง ระยะทาง 200 เมตรนี่ก็ไม่ไกลเท่าไหร่นะ แต่ทางเดินเป็นขั้นดินที่สูง ชันและลื่น มีราวไม้ให้เกาะเป็นระยะ ฉะนั้นไม่ต้องรีบ :) 

    ...เดินบ้าง พักบ้าง ไปตามทางกับเสียงและแสงไฟ ตี 5 กว่า ๆ เกือบ ๆ 6 โมง ก่อนฟ้าสว่างเราก็มาถึงหลักกิโลเมตรบอกเขตแดน ซึ่งตั้งอยู่บนแนวสันเขาแคบ ๆ แบบที่พอเดินสวนกันเท่านั้น เมื่ออยู่ในจุดที่เปิดโล่ง เหลียวมองไปรอบ ๆ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วไม่ใช่ดงต้นไม้หนาทึบแต่เป็นสีโพลนขาว หมอกหนาที่ลอยละล่องอยู่เหนือยอดไม้ ปกคลุมทุกอย่างเบื้องล่างจนเห็นวอบแวมก็แค่แสงไฟดวงเล็ก ที่อยู่...ลิบ ๆ

    'ชอบที่สุด' ก็ความรู้สึกของ 'การมาถึง' นี่ล่ะ

    พอได้มายืนอยู่ตรงนี้ มันเหมือน...ทุก ๆ บรรยากาศของที่นี่เป็นของเราชั่วเวลาหนึ่ง ช่วงเวลาที่สมองโล่ง ปลอดโปร่งจนรู้สึกถึงคำว่า 'อิสระ' บนนี้...เป็นความงามแบบไร้ขอบเขตจริง ๆ นะ :)

    เมื่อเดินไปตามแนวรั้วไม้ที่ทอดยาวไปสุดทาง ตรงนั้นคือยอดภู จุดที่สูงที่สุดของ 'ภูชี้ดาว' จุดที่ไม่มีอะไรบดบังทัศนียภาพทางสายตา ถูกรายล้อมด้วยกลุ่มก้อนขาว ๆ ที่ระยะใกล้คล้ายเอื้อมมือก็...ถึง มันสะพัดลอยไปตามแรงลม เราอยู่กันที่ยอดภูชี้ดาว ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,760 เมตร ปลายเขาที่ชี้ยื่นออกไป ทำให้เห็นทัศนียภาพแบบมุมกว้างได้ถึง 360 องศา

    ...ยังคงกดชัตเตอร์กันอย่างเมามันส์ แม้ลมจะแรงขึ้น หนาวขึ้น มีไอเย็นลอยเป็นละออง แม่คะนิ้งทิ้งยอดหญ้ามาเกาะหมวก เสื้อ ไปจนถึง...ขนตาของเราแทน ทิ้งเวลาพักใหญ่ ๆ ท้องฟ้าขาวโพลนก็ค่อย ๆ แจ่มแสงขึ้นทีละนิด ๆ อย่างไม่รีบร้อน ขณะที่นักท่องเที่ยวทยอยขึ้นมาหนาตาขึ้น

    จุดยอดสูงสุดของ 'ภูชี้ดาว' เป็นที่ตั้งของหลักกิโลเมตร บอกเขตแดนระหว่างไทย-ลาว โดยมีรั้วไม้กั้นกันตกกับบันไดลงไปข้างล่าง ซึ่งเป็นชะง่อนผาที่ยื่นออกไปอีกเล็กน้อย สองฝั่งฟากของสันเขามีสภาพอากาศต่างกัน ฝั่งหนึ่งที่เราคิดว่าเป็นฝั่งไทย มีหมอกลงหนาแต่มีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดจนดูเหมือนแอ่งน้ำตกที่ไหลบ่าลงเบื้องล่าง คราวที่ลมแรงจะพัดจนมองเห็นเบื้องล่างราง ๆ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคิดว่าเป็นฝั่งลาว หมอกจับตัวหนาและนิ่งมาก ๆ เหมือนทุกอย่างถูกฟรีสซ์ไว้ มีแค่เส้นแสงสีฟ้าจาง ๆ ลากเป็นเส้นยาว ๆ ก่อนจะเลือนหาย กลายเป็นสีเดียวกับท้องฟ้า

    เวลาผ่านไป...ยังไร้วี่แววที่จะเห็นแสงสีส้มแสดที่จะสาดจ้ามาพร้อมดวงอาทิตย์ วันนี้อากาศปิด มีแค่สายหมอกไหลวนซ้ำ ๆ ให้ดูจนเพลิน เหมือนจะต้องผิดหวัง แต่ก็เปล่าเลย ไม่สักนิด! แค่ได้ยืนอยู่ ณ จุดนี้ คำนั้นกลับไม่เคยพร่างพรายอยู่ในหัว

    • Posts-4
    GO OUT THERE •  February 03 , 2017

    กลับลงสู่พื้นล่างตอน 8 โมง ข้างล่างคงหนาวไม่น้อยเลยเพราะคนขับรถผิงไฟรอ คราวนี้ใช้พลังกล้ามเนื้อยึดราวเหล็กไว้กันไหลไปกองข้างหน้า จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถของรีสอร์ทกลับที่พักกันค่ะ ระหว่างทางกลับมีหมอกลงตลอดทาง ฟุ้งไปทั่วยอดหญ้าและผิวถนน บรรยากาศสลัว ๆ ไปถึงเกือบมองไม่เห็นทางโดยเฉพาะตอนที่ผ่านร่องเขา บริเวณใกล้ทางขึ้น 'ภูชี้ฟ้า' ที่สายหมอกไหลลงมาแบบถล่มทลาย

     

    เช้านี้ที่ 'ภูสวรรค์ รีสอร์ท' ก็สวยไม่น้อยหน้า อากาศเย็นสบายตั้งแต่เช้ามืด มีสายหมอกลอยมาหยอกยอดเขาถึงหน้าบ้านเป็นระลอก วันนี้สภาพอากาศปิดเพราะฝนตกเมื่อคืนทำให้เช้านี้หมอกลงค่อนข้างจัด ปกคลุมแนวภูเขาและมาอออยู่เต็ม ดีสำหรับคนสูงอายุที่ไม่สะดวกไปลุย เดินไปชมทะเลหมอกถึงยอดภู เพราะวิวตรงนี้อลังการ แถมยัง 'ฟิน' สุด ๆ กับการนั่งจิบกาแฟหอมกรุ่น กินปาทังโก๋นุ่ม ๆ [สูตรของรีสอร์ท] ที่เสิร์ฟกันถึงหน้าบ้าน

    เรากลับมาถึงที่พักแบบหิวโซ ดีตรงที่พักตั้งโต๊ะรออยู่แล้ว เริ่มต้นด้วยการจิบชาร้อนไปพลาง ๆ ก่อน ไม่นานข้าวต้มหม้อใหญ่ก็เสิร์ฟถึงโต๊ะ พร้อมด้วยกับข้าวหลายอย่าง กับเสิร์ฟกาแฟสดเข้ม ๆ ถึงใจ ทุกอย่างคือ...ดี :)

    อากาศทั้งวันของวันนี้ค่อนข้างหม่น มีหมอกลงคลุ้งไปทั่วหน้าที่พักและคลี่คลุมไปถึงถนนข้างล่าง บ่ายแก่ ๆ ชวนกันออกไปสำรวจเส้นทางแถบนี้โดยมุ่งหน้าไปทาง ดอยผาตั้ง ซึ่งเป็นถนนชนบท เส้นทางขึ้นเขามีความคดเคี้ยวตลอด เป็นถนนดีสลับไม่ดีไปเรื่อย ๆ แต่วิวสวย

    เส้นทางนี้ผ่านทางขึ้น 'ภูชี้ฟ้า' กับ 'ภูชี้ดาว' ตามลำดับ และผ่านทางขึ้น 'ภูชี้ฟ้า' ฝั่ง อ.เวียงแก่น ที่ตั้งของ 'หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว' ลองขับเข้าไป Survey เส้นทาง ตลอดทางขึ้นบรรยากาศจะครึ้ม อึมครึมไปด้วยหมอกกับน้ำค้าง ขับฝ่าหมอกไปตามถนนสายเล็ก ๆ ที่มีซุ้มดอกพญาเสือโคร่ง [ที่ยังไม่ออกสักดอก] ขึ้นเขาไปถึงด้านบน ทางนี้จะต้องเดินเท้าต่อ ~ 400 เมตร สภาพอากาศไม่เหมาะแก่การขึ้นภูเราเลยวกกลับลงมา ผ่านหมู่บ้าน ที่พักที่มีเลือกอยู่หลายที่ เป็นตัวเลือกให้คนที่อยากขึ้น 'ภูชี้ฟ้า' ได้อีกทางหนึ่งนะ

     

    • Posts-5
    GO OUT THERE •  February 03 , 2017

    ...ไปกันต่อจนถึง บ้านผาตั้ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ดอยผาตั้ง จุดชมทะเลหมอกที่เคยได้ยินชื่อเสียงนานแล้ว แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เหมาะแก่การขึ้นไปข้างบนอีกนั่นล่ะจึงชมทิวทัศน์ตามเส้นทางที่ผ่าน กับแวะพักกันที่ 'ร้านผาสุข' เป็นร้านอาหารจีนยูนนานเก่าแก่บนดอยผาตั้ง แวะจิบชา กินขาหมูนุ่ม ๆ คู่หมั่นโถวร้อน ๆ เป็นความฟิน ท่ามกลางอากาศหนาวที่ระดับสิบองศาต้น ๆ :)

     

    : : ร้านผาสุข ขาหมู หมั่วโถ เป็นร้านเปิดโล่งที่มีลมพัดตึง ๆ จนหน้าชา น้ำชาร้อน ๆ เทจากกาปุ๊บก็เย็นปั๊บ เห้ย! แต่ก็ได้บรรยากาศสุด ๆ เพราะมีระเบียงหลังร้านเป็นจุดชมทิวทัศน์ภูเขาที่น่าประทับใจ สำหรับร้านนี้ถือว่ารสชาติใช้ได้ ราคาก็สมเหตุสมผล ใครมาเยือนดินแดนผาตั้งก็แวะชิมกันได้ค่ะ

    ~ ร้านผาสุข ตั้งอยู่ที่บ้านผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย | พิกัด : 19.930187, 100.508057

    PHU#3 PHU CHEE FA | CHIANG RAI

    : : ภูชี้ฟ้า PHU CHEE FA In The Mist 'ภูชี้ฟ้า' ยังคงเป็น Land Mark ของที่นี่ เป็นจุดชมทะเลหมอกบนดอยผาหม่นซึ่งเป็นที่รู้จักดี ฉะนั้นจึงต้องห้ามพลาดแม้จะเคยมาเยือนแล้วครั้งหนึ่งก็เถอะ 'ภูชี้ฟ้า' เป็นยอดภูที่อยู่ ณ จุดพรมแดนไทย-ลาว ที่มีผาชี้ยื่นออกไป ตั้งอยู่ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร

    เช้าของวันที่สอง เราเริ่มต้นด้วยการตื่นตีสี่กว่า ๆ ตีห้าปุ๊บก็นั่งรถไปยังทางขึ้น 'ภูชี้ฟ้า' ฝั่ง ต.ตับเต่า ด้วยระยะทาง ~ 10 กิโลเมตร [รถที่รีสอร์ทไปส่งถึงที่] จากนั้นก็เดินเท้าต่อประมาณ 760 เมตร ทางเดินค่อนข้างลื่นแต่ไม่ชันเท่าไหร่ ทางค่อนข้างมืดแต่ไม่เท่าเมื่อวานและมีเพื่อนเดินขึ้นไปเยอะมาก คึกคักทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งเจ้าของบ้านที่เป็นน้อง ๆ หนู ๆ ในชุดชาวเขาสีสด ยืนเต้นดุ๊กดิ๊กเป็นสีสันตลอดเส้นทาง ใครเหนื่อยก็พักชมน้อง ๆ ก่อนได้

    ~ ค่ารถไป-กลับจาก 'ภูสวรรค์' ไปทางขึ้น 'ภูชี้ฟ้า' คนละ 80 บ. | พิกัด : 19.858628, 100.454103 

    ต่างคนต่างหาที่จับจองแล้วตั้งกล้องรอ อากาศเช้าวันนี้ไม่ค่อยต่างจากเช้าเมื่อวาน มิหนำซ้ำ...หมอกยังดูฟุ้ง ๆ และกระจายตัวมากกว่า ผู้คนไปกระจุกตัวอยู่ตรงชะง่อนเขาด้านบนซึ่งรับคนได้เป็นสิบกับที่เดินต่อไปจนถึงยอดบนสุดเลยก็มี ส่วนเราปักหลักที่ระดับล่างลงมา เพื่อจะได้ภาพที่เห็นชะง่อนผาอยู่เบื้องหน้าภูชี้ฟ้า แต่จนแล้วจนรอด 'เขา' ก็ยังถูกหมอกบดบังจนมิด ก่อนจะค่อย ๆ คลี่คลายจนมองเห็น 'ภูชี้ฟ้า' แค่ราง ๆ เอาฮะ! แค่นี้ก็แค่นี้...ก็มันเป็นเรื่องของ 'ธรรมชาติ' นี่เนอะ

    Enjoy กับ Phu Chee fa...In The Mist กันเถอะ เอาจริง ๆ มันก็สวยไปอีกแบบล่ะนะ

    กลับลงมาข้างล่างตอนแปดโมง เจอหนุ่มน้อยคู่นี้ตรงตีนดอย [ถ่ายรูปแล้วให้ทุนการศึกษาซะ] สายแล้วถ่านอ่อนเลยได้แค่โพสท่าคูล ๆ ด้วยกัน :)

    ลานด้านล่างมีรถจอดรออยู่เต็มพื้นที่ ใครหิวเดินดุ่ม ๆ เข้าร้านค้าไปเลยค่ะ มีขายหลายอย่าง โรตีร้อน ๆ ก็มีนะ นอกนั้นเป็นร้านขายชุดชาวเขา ของที่ระลึกให้ดูเพลิน ๆ ระหว่างรอรถจากรีสอร์ทมารับ

    • Posts-6
    GO OUT THERE •  February 03 , 2017

    ...กลับถึงที่พัก กินอาหารเช้าแล้วเก็บของเตรียมเดินทางกันต่อเลย

    ทริปนี้เราเริ่มต้นจาก จังหวัดเชียงราย มาที่ อ.เทิง (ภูชี้ฟ้า) แล้วจะไปจบที่ จังหวัดน่าน เมืองน่าฮัก โดยใช้เส้นทางจาก อ.เทิง ไปทาง อ.เชียงคำ เป็นเส้นทางที่ขับกันยาว ๆ ไม่ค่อยมีบ้านคน รถเล็กสามารถขับไปได้ และแนะนำให้เติมน้ำมันไปให้พอเพราะหาปั้มยาก แล้วก่อนจะถึงที่หมายเราก็มาเจอที่นี่โดยบังเอิญ...ก็ 'ภู' ลำดับที่ 4 ของทริปไงล่ะ :)

     

    PHU#4 PHU SANG | PHA YAO

    : : น้ำตกภูซาง ตั้งอยู่ภายใน อุทยานแห่งชาติภูซาง จังหวัดพะเยา บนเทือกเขาดอยผาหม่น เป็นสถานที่ UNSEEN เพราะเป็นน้ำตกอุ่นหนึ่งเดียวในประเทศไทย อุณหภูมิน้ำอยู่ที่ ~ 35-36 องศาเซลเซียส แอ่งน้ำอุ่นมีสีออกเขียวมรกต สามารถลงไปแช่น้ำตกได้ ส่วนรอบ ๆ บริเวณร่มรื่นและเป็นป่าดิบชื้น มีบรรยากาศเย็นสบาย เหมาะเป็นจุดพักหลังจากขับรถนาน ๆ แวะสิ! รออะไร จอดรถฝั่งตรงข้ามแล้วข้ามถนนมาฝั่งน้ำตกได้เลยค่ะ

    ~ ค่าที่จอดรถ คันละ 30 บ. 

    ~ การเดินทาง ใช้ถนนหมายเลข 1093 เส้นเชียงราย-อ. เทิง ไปทาง อ. เชียงคำ จะพบศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ริมทาง (มีห้องน้ำ) | พิกัด : 19.663660, 100.376007

    "ยัง...การเดินทางของเรา ยังไม่จบนะ"

    MINDJOURNEY ROAD TRIP ครั้งนี้ใช้เวลา 5 คืน 6 วัน เราใช้เวลาใน จังหวัดเชียงราย ไปแล้ว 3 คืน ออกไปกอดเขา และหลงไปในสายหมอกบนยอดภูกันแล้ว แต่เรายังต้องไปกันต่อค่ะ

    จากที่นี่ ' น้ำตกภูซาง' แวะกันไม่นานก็ออกเดินทาง ใช้เวลาร่วม ๆ 3 ชั่วโมงเพื่อ ไปให้ถึง 'เชียงกลาง' หนึ่งเมืองในฝันของใครหลาย ๆ คนก่อนค่ำ ฝากติดตามการเดินทาง [ภาคต่อ] ของเรา ได้ในรีวิวฉบับหน้านะคะ :)

    วันนี้...ขอบคุณสำหรับการเดินทางร่วมกันค่ะ

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    : : ถ้าเราเป็นคนชอบเที่ยวเหมือน ๆ กัน แวะพูดคุย แบ่งปันและแชร์เรื่องเที่ยวด้วยกันได้ ที่เพจ 'MINDJourney | Story of Khon Chop Tiew' นะคะ : :

    WANDER IN HAPPINESS WITH ME