เริ่มเรื่องกันเลยครับ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมได้ไปงาน Photo Fair 2015 แล้วได้ลงทะเบียนในงานนั้น และภายในงานก็ได้มีการจับรางวัล ซึ่งมีแจกกล้อง เครื่องปริ้น และตั๋วเครื่องบิน ซึ่งผมได้รางวัลนั้นนะ เป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ - ภูเก็ต แต่...............ได้มา 1 ที่นั่ง!!! ...... นั้นแหละครับ มันจึงกลายเป็นการเดินทางที่ตื่นเต้นขึ้นมาเลยทีเดียวเชียวล่ะ

และด้วยความที่ไม่มีตังค์เยอะ และอยากเที่ยว(แบบงกๆ)ก็บังเกิดขึ้น

เช้าวันที่ 12 ก.พ. 59 เดินทางไปสนามบินดอนเมือง ครั้งที่ใช้บริการของสายการบิน Thai smile (ก็ตั๋วฟรีเค้าให้มานี้ อิอิ)

เช้านี้กินข้าวที่สนามบินดอนเมืองครับ 2 อย่าง 80 บาท กลัวไม่คุ้มไง เติมพริกเยอะๆ เอาให้คุ้ม

ภาพระหว่างรอขึ้นเครื่องครับ

ใช้เวลาเดินทางจาก กรุงเทพ (สนามบินดอนเมือง - ภูเก็ต) ประมาณ 1.30 ชั่วโมง

จากนั้นเราก็เดินออกมาจากสนามบินภูเก็ต ออกมาเลี้ยวซ้ายเดินมาตามทางเท้าเราก็จะเจอรถบัส หรือรถตู้ ที่จะรับส่งระหว่าง สนามบินภูเก็ตกับตัวเมือง (ไม่มีภาพตอนขึ้นรถตู้นะครับ เพราะรถกำลังจะออกพอดี ^^)

เอาละ รถตู้ที่นั่งมาจากสนามบิน จะมาส่งเราที่ขนส่งในตัวเมือง ซึ่งโรงแรมที่ผมจองไว้นั้นอยู่ไม่ห่างกันมา (ประมาณ 1 กิโลเมตร) จึงเดินเท้ามุ่งหน้าสู่โรงแรม 

ซึ่งโรงแรมที่ผมจองไว้คือ capsule hotel ในตัวเมืองภูเก็ต ราคาห้องcapsule อยูที่ คืนละ 333 บาท !!! ผมไม่ได้พิมพ์ผิดหรอกครับ ราคานี้จริงๆ

และนี้ก็คือแผนกต้อนรับของโรงแรมครับ ^^

และนี้ก็ห้องที่ผมได้จองไว้ครับ คืนละ 333 บาท ไม่แปลกใจใช่มั้ย 555

อีกข้อหนึ่งที่ผมกังวลมากคือ การเช่ามอเตอร์ไซต์ เพราะผมได้ไปอ่าน รีวิว ใน pantip มา ได้เล่ากันมาว่า มักจะไม่ให้คนไทยเช่า เพราะเช่าไปแล้วมักไม่ได้คืน (คือขโมยเอาไปขายน้ันแหละ ว่ากันง่ายๆ) จึงได้ให้พี่ที่โรงแรมโทรจองให้ ใช้เส้นสายนิดนึง จึงได้เช่ามาในราคา 250 บาท/วัน เช่าไป 2 วัน เป็น 500 บาท เมื่อเจรจาเช่ามอเตอร์ไซต์เรียบร้อยแล้ว จึงได้เวลาแว้นไปเที่ยวล่ะครับผม ^^

ที่แรกเลยครับ หาดราไวย์ต่อจาก หาดราไวย์ ต่อไปแหมพรหมเทพ ซึ่งห่างกันไม่ไกลกันมากนักวันนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเลนส์เจ้ากรรม ดันเสียขึ้นกลางทริป ออโต้โฟกัสของเลนส์เสีย...... ต้องยอมรับว่าวันนั้นน้อยส์มาก (เพราะไม่มีตังค์จะซื้อใหม่ TT) ตลอดทั้งทริปจึงให้แต่แมนนวลโฟกัส

หลังจากที่เที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของหาดราไวย์และแหลมพรหมเทพเสร็จแล้ว จึงขับมอเตอร์ไซต์กลับที่พัก และก็ได้เดินเที่ยวชมเมืองภูเก็ตยามค่ำคืนกันต่อ

เอาล่ะครับ เช้าวันที่สอง ไม่รู้จะไปไหนดี เลยลองถามพี่ๆ ในโรงแรมดู พี่เขาแนะนำว่า ลองไปเขารังดูซิ วิวสวยดี ว่าแล้วก็จัดไปครับ

แวะกินข้าวเติมพลังกันก่อน เช้านี้ ข้าวมันไก่ครับ จุดเด่นของจานนี้ก็อยู่ที่ตัวข้าวครับ มีสีดำและหอมกระเทียม ราคาประมาณ 35-40 บาท ซึ่งก็ราคาพอๆกับกรุงเทพ เพิ่มเติมคือรสชาติที่แปลกใหม่ ^^

ต่อไปก็ขับมอเตอร์ไซต์ ไปหาดป่าตองต่อ อีก ราวๆ 20 กิโลเมตร ทางไปหาดป่าตองค่อนข้างลาดชัน ถึง ชันมาก..... ใครขับมอเตอร์ไซต์ไม่แข็ง ให้ขับช้าๆนะครับ ^^

เมื่อชมวิวทิวทัศน์ที่หาดป่าตองเสร็จแล้ว ก็ขับมอเตอร์ไซต์กลับตัวเมือง มาหาของกินซะหน่อย ชามนี้ประมาณ 60 - 65 บาท แต่คุ้มครับ ใส่เครื่องเยอะมาก

กินเสร็จแล้วก็เดินชมเมืองภูเก็ตต่อครับ ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยงๆบ่ายๆ บอกเลยว่าร้อนมาก.....ถึงร้อนจัด

หลังจากเดินชมเมืองภูเก็ต ท่ามกลางอากาศที่ร้อนดุจทะเลซาฮาร่า...... ก็กลับโรงแรมไปอาบน้ำนอนพักสักหน่อย แล้วไปต่อที่ สะพานหิน เลยครับ

บังเอิญมีงานเทศกาลโคมพอดีเลยได้เห็นโคมสวยๆ แต่ไม่ได้มาตอนกลางคืนนะ เพราะอะไร?? รอชมกันเลยครับ ^^

เอาละ ต่อกันเลยครับ
หลังจากกลับจากสะพานหิน ก็ตรงเข้าโรงแรม แล้วอาบน้ำครับ ไม่ไหวร้อนจริงๆ จากนั้นก็เตรียมตัวออกไปถ่ายรูปอีกครั้ง แต่ก่อนไป กินเบอร์เกอร์ดำของทางโรงแรมก่อนไป ทีแรกคิดว่าแค่รองท้อง แต่ไปๆมาๆเป็นอาหารหลักเลยครับ ถึงกับจุก.... ราคาประมาณ 60 กว่าบาทนี้แหละ จำไม่ได้ค่อยได้

ช่วงที่ผมไปเที่ยวภูเก็ตนั้น ตรงกับช่วงเทศกาลตรุศจีนพอดี แล้วด้วยความบังเอิญอีก ไปเจองานเทศกาลตรุษจีนประจำปีของจังหวัดภูเก็ตพอดี ^0^ 

มีการแสดงพื้นบ้านของภาคใต้ให้ชมกันตลอดทาง มีการปิดถนนเพื่อจัดงาน ซึ่งบริเวณที่ถ่ายเป็นบริเวณถนนพังงา

มีคนแต่งคอสเพลย์มาร่วมงานด้วย *0*

ผู้หญิงแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ต ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

ประดับประดาด้วยโคมไฟ เห็นแวบแรกนึกว่าอยู่ญี่ปุ่น -0-

วันวาเลนไทน์ แต่ "ยืนอยู่คนเดียว.... ช่างเปล่าช่างเปลี่ยวหัวใจ" เพลงมาาา.......

และที่เป็นการแสดงจากประเทศจีน (มั้งครับไม่แน่ใจ) มีการเล่นดนตรี ร้องเพลง ร่ายรำ ถือว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยครับ

เจอคนนี้ ผมถึงกับต้องหยุดถ่ายรูปเลยล่ะ

มาดูลีลาของท่านจอมยุทธ์กันบ้าง

ของสวยงามครับผม ^^

ผู้ชายกับลีลาอันอ่อนช้อย

กลับมาที่ของสวยงามกันต่อ ^^

ข้าน้อยขอคาระวะ

ก็จบสำหรับวันที่ 2 นะครับ จากนั้นก็เดินทางกลับโรงแรมด้วยสภาพที่แทบจะคลานกลับ -0-.....

ตื่นเช้ามาท้องเริ่มร้อง เลยถามพี่ที่โรงแรม(อีกแล้ว 555) ว่ามีอะไรอร่อยๆให้กินบ้าง พี่เขาก็แนะนำมาว่ามีร้านติ่มซำ ร้านที่ขึ้นชื่อของภูเก็ตถ้าไม่ได้กินแสดงว่ายังมาไม่ถึง!!!  ซึ่งในวันที่ 2 พี่เขาก็บอกแล้วและเราก็ขับมอเตอร์ไซต์หาแล้วแต่ไม่เจอ เราเลยไปกินข้าวมันไก่ไง อิอิ (รูปข้าวมันไก่ของวันที่ 2) เราเลยถามย้ำอีก นี้เลย..... นิ้วของพี่ที่โรงแรมชี้ไปซอยตรงข้าม...... คุณพระ ห่างไม่ไม่กี่10เมตร........ นี้แหละนะ จุดใต้ตำตอแท้ หรือถ้าเป็นงูคงโดนฉกตายไปล่ะ ^0^

และแล้วเราก็ได้กินของขึ้นชื่อของภูเก็ตตตต ติ่มซำ ถ้วยเล็กๆ ขวดละประมาณ 10 กว่าบาท และก็กินโจ๊กด้วย สรุปมื้อนี้หมดไปประมาณ 60 กว่าบาท

หลังจากกินเสร็จแล้วก็ขับมอเตอร์ไซต์ขึ้นเขารังอีกครั้ง แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ ไปนั่งสงบๆ ฟังเสียงลมกระทบกิ่งไม้(ไงล่ะ ติสมั้ย) อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ เราเติมน้ำมันมาเต็มถังแล้วมันเหลือเยอะ เลยเอาไปเบิร์นนนนนออกกก 55555 (งกได้อีก)

จากนั้นก็เตรียมตัวเก็บข้าวของ เพื่อเดินทางไปสนามบินกันครับ นี้คือบรรยากาศภายในโรงแรม

มองกล้องหน่อยยยย

ไปแล้วนะะะ หันมามองกันหน่อยยยย

ออกเดินทางกันต่อครับ จากนี้เราจะเดินทางไปสนามบินกัน ซึ่งผมออกเดินทางตอนเที่ยงกว่าๆ แต่ขึ้นเครื่องประมาณ 3 ทุ่ม!!!! เพราะอะไร?? ติตตามรับชมกันเลยครับ

ตารางเวลาของแอร์พอร์ทบัสครับ มีทั้งเป็นแบบรถตู้และแบบรถบัส ซึ่งขากลับนั้นผมได้นั่งรถบัสครับ ใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วครับ ปล. ตอนที่ผมมาภูเก็ต รถที่นี้ค่อนข้างตรงเวลาเลยนะครับ เผื่อเวลาสักหน่อย

นี้เลยครับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อยู่ใน ซอยในยาง16 ข้างๆสนามบินภูเก็ตเลยครับ เสียค่าเข้าประมาณ 20 บาท แต่.....มาหลัง4โมงเย็นเข้าฟรีครับ ถามว่าทำไม เพราะเจ้าที่หน้าที่ที่เก็บเงิน เขากลับบ้านไปล่ะครับ (โอ้วววม่ายยยยย)

น้ำใสมากครับ คนไม่เยอะมาก ดูเป็นส่วนตัวดี แต่นี้ยังไม่ใช่ไฮไลท์ครับ มาต่อๆ

สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้

ค่าเครื่องบิน                    ฟรี
ค่าที่พัก                           666       บาท(2คืน)
ค่าใช้จ่ายระหว่างทริป       2100     บาท

และนี้คือลิงค์ youtube ของทริปภูเก็ตครับ : https://www.youtube.com/watch?v=FyuB1i54_gw

ทริปนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ ^^