Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
เดินทางคนเดียวครั้งแรก ไม่เหงาอย่างที่คิดไว้ จังหวัดน่าน (Nan Province) จ.น่าน
    • Posts-1
    Bee Twin •  March 08 , 2016

    เดินทางคนเดียวครั้งแรกไม่เหงาอย่างที่คิดไว้ มีแต่รอยยิ้มและมิตรภาพน่ารักของคนน่านเป็นของแถม

    ทริปนีต้องเดินทางคนเดียวครั้งแรก ตื่นแต้นมาก บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากเดินทางคนเดียวหรอกแต่ในเมื่อไม่มีใครไปได้แล้วจะให้เราหยุดเดินทาง หรือไม่ได้ไปน่ะ มันก็ไม่ไช่

    แค่อยากเที่ยว อยากพักผ่อน แค่เบื่อสิ่งที่เป็น แค่อยากพักผ่อนช๊าร์ทแบทให้เต็มเท่านั้น

    การเดินทางคนเดียวจึงเริ่มขึ้น

    ก่อนอื่นโทรบอกฮีโร่ก่อน (พ่อ)

    ฮีโร่....อัลโหลว่ายังไง

    เรา.....บีขอไปน่านนะพ่อ

    ฮีโร่.....ไปน่านเหรอไปกับใคร

    เรา......เอ่อคนเดียวพ่อ

    ฮีโร่.....เงียบ....และก็เงียบ....

    เรา......พ่อบีอยากไปเที่ยวน่ะ ที่นั่นวัดเยอะ...อยากไปไหว้พระทำบุญนะพ่อนะ...

    พ่อ.....เงียบ.....อืมโอแคร...(เฮ่อโล่ง.....แล้วก้หาเรื่องคุยนอกเรื่องเพื่อไม่ให้พ่อเป็นกังวล 555)

    1-3 มีนาคม 2559 เที่ยวเมืองน่านนคร เมืองที่มีคนน่ารัก เมืองที่มีแต่วัด เมืองที่มีแต่ความเป็นพื้นเมืองและธรรมชาติที่วิเศษ

    วันที่ 1 เดินทางไปปัว พักที่ตูปนา

    วันที่ 2 เที่ยวที่ปัว แล้วเข้าตัวเมือง

    วันที่ 3 เที่ยวไหว้พระ เที่ยวหอศิลป์ กลับกรุงเทพ

    ตื่นเช้้ามา ชักไม่อยากไปละ แต่ไหนๆเราก็วางแผนไว้ทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน จองรถ ที่เที่ยวที่อยากไป เอาวะ...ไปโว้ยยังไงก็ต้องไป......

    เราเลือบินไฟล์เช้า 7.30 น. กับหางแดง

    8.50 น. ที่เมืองน่าน สายการบินแหลทไป 10 กว่านาที แต่ไม่เป็นไร พอลงมาจากเครื่องอากาศดีมากค่ะ เย็นสบายจนเกือบหนาว สักพักบริษัทที่เราจองรถไว้ก็มา เราไปรับรถด้านหน้าเสร็จ ก็เริ่มเดินทางกันเจ้าคันนี้หล่ะ จะพาเราไปแว๊น...เริ่มเดินทางได้จร้า......

    ก่อนอื่นเราออกไปนอกตัวเมืองก่อนนะไปพระธาตุแช่แห้งกัน

    แต่ประเด็นคือในเมืองน่านเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าจะขับรถวันไปมาหลายรอบ ไฟเขียวไฟแดงก็แปลกๆ แอ๊ะ ยังไง วนอยู่หลายรอบ กว่าจะออกมาได้ (ป้ายมีบอกนะคะ แต่จะหายไปเป็นช่วงๆ คนนอกพื้นที่ร้อยทั้งร้อย ขับรถวน 55)

    และก็วนไปมาจนมาถึงพระธาตุแช่แห้งสำเร็จ 555มาถึงก็ขอไหว้พระสักการะพระธาตุหน่อยค่ะ สาธุ

    จากนั้นก็ขอถ่ายรูปนิดนะคะ มาคนเดียวก็ต้องตั้งขากล้องโทรศัพท์ (ที่ซื้อมาสำหรับโทรศัพท์โดยเฉพาะ)ภ่ายตัวเอง อ่ะอ่า...คนมองมายายนี่ทำไรน่ะ...555

    แต่ต้องบ้าเข้าไว้ไม่งั้นไม่ได้รูป ก็มาคนเดียวนี่นา...55

    เมื่อเดินเล่นสักพักก็เดินทางต่อ ไปปัว

    วิวระหว่างทางสวยมากมาย อ๊ะๆ เจอแล้วจอดๆๆๆๆ

    ณ.ร้านกาแฟไทยลื้อและผ้าไทยลื้อ เราสั่งชานม 1 แก้ว จากนั้นก้ไปถ่ายรูปแล่นด้านหลังของร้านกาแฟ บรรยากาสดีจัง ไม่ร้อนมากและมีแต่ธรรมชาติ เห็นน้องๆ นักเรียนมาถ่ายรูเล่นกัน

    จากนั้นเราก็ไปเดินดูผ้าทอด้านหน้าร้านกาแฟที่อยู่ติดถนนเลย ไม่ได้ถ่ายร้านมาให้ดูกันอ่ะ (ขอโทษคร๊าบบบ)

    เดินเลือกอยู่พักใหญ่ก็ได้มาหนึ่งชุด ที่ร้านชุดแต่ละชุดราคาไม่แพงนะคะ ถูกมากด้วยค่ะ

    จากนั้นก็ล้อหมุนเดินทางต่อไปปัว

    เจ้าของที่พักโทรมาหาเพราะบ่าย 3 กว่าละยังไม่ถึงที่พักเลย คือหนูหลงหาทางไม่ถูกอ่า....กว่าจะถึงที่พักได้ ป้าบอทางเราตลอดทางเลย 555 ขอบคุณนะคะ

    ณ.ตูบนาโฮมสแตย์

    สุดยอด.....อากาศดีมากค่ะ

    • Posts-2
    Bee Twin •  March 08 , 2016

    คุณป้าเจ้าของที่พักใจดีมากค่ะ เข้าที่พัก ถามเรื่องอาหารว่าเราทานอะไรได้ อันไหนไม่ได้ ชอบแบบไหน เอาข้าวเหนียวหรือข้าวสวย หรือจะ กินทั้งสองอย่าง คืดน่ารักมากค่ะ กับการดูแลเรา วันนั้นเป็นวันที่ทั้งที่พัก มีเราคนเดียว ที่เข้าพักค่ะ ที่พักจะมา 4 ห้องค่ะ

    บ้านชมหมอก 1 ห้อง

    บ้านชมนา 2 ห้อง

    บ้านชมวิว 1 ห้อง กับลังสร้างเพิ่มขึ้นอีก 4 ห้อง ถ้าเป็นบ้านชมหมอก กับชมวิว จะมาด่านฟ้าขึ้นไปดูดาวสวยมากค่ะ แต่วันที่ไปพักเราเลือกชมนา 2 ค่ะ แต่ลุงกับป้าให้เราขึ้นไปดูที่ด้านฟ้า บ้านชมหมอก กับชมวิวได้ค่ะ ปกตินที่นี่จะ ปลูกข้าวแต่ชาวงนี้เปลี่ยนมาปลูก ผักตามฤดูการแทนค่ะแปลงปลูกยาสูบค่ะต้านเสาวรสค่ะ ดกมากๆเลยค่ะขอถ่ายตัวเองบ้าง 555 มีซุ้มเล็กๆไว้นั่งเล่นภาพนี้จะถ่ายดอกไม้ พร้อมที่ครัวทำอาหารด้านหลังค่ะถ่ายรูปเล่นพร้อมบรรยากาศสวนๆ จากนั้นก็ถามทางป้าไปที่ วัดภูเก็ตค่ะ แค่ออกไปที่ตัวเมืองปัว ไม่ไกลค่ะ ที่วัดนี้มีที่พักให้ด้วยนะคะ จะเป็นแนวแทมเบิ้ลสเตย์ค่ะ สามารถติดต่อกับเจ้าอาวาสได้โดยตรงค่ะในอุโบสถหน้่าลานของวัดค่ะ อากาศเย็นสบายมากค่ะไหว้พระเสร็จ เดินเล่นสักพักก็กลับเข้าที่พัก ค่ะ

    ถึงที่พักก็เดินเล่นอีกพักใหญ่รอป้าทำอาหารเสร็จ เริ่มมืดแล้ววันนี้เป็นขันโตกชุดใหญ่แต่เรามาคนเดียวอ่ะ ไม่หมด 555 ป้าเก็บเสาวสรมาให้ทาน โดยผสมน้ำผึ้งกับเกลือ อร่อยอย่าบอกใครเลย ขอบคุณคุณป้ามากๆนะคะ หนูไม่เคยกินเสาวรสสดๆแบบนี้เลย ปกติกินแต่เป็นกล่อง จากนั้นลุงกับป้าก็มานั่งคุย ด้วย พาไปบ่านชมวิว ขึ้นไปบนด่านฟ้าดูดาว สวยมากค่ะ แต่อยู่ไม่นานเพราะหนาวค่ะ สั่นเลย ลุงกับป้าอยู่ด้วยเกือบ สี่ทุ่ม ก็แยกกันไปพักค่ะ

    รุ่งเช้า

    บรรยากาศดีมากค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปที่มีหมอกไว้ เรามีแต่กล้องโทรศัพท์ถ่ายไม่สวยอ่ะที่นี่มีสตอเบอรี่ด้วยนะคะ เก็บทานได้ไม่เสียเงินค่ะ

    เช้ามาก็เซลฟี่ 55555 เก็บภาพเยอะๆ ไปดูป้าเก็บเมล็ดผักตากแห้ง แล้วก็กินอาหารเช้ามี ข้าวต้ม และก็พวกขนมปัง จะกินอันไหนก็ได้ค่ะ หรือจะกินสองอย่างก้ได้นะคะ สักพักนั่งคุยกับป้าระหว่างทานอาหารก็ขอตัวกลับ ขอบคุณนะคะสำหรับความใจดีอย่างลูกหลาน ขอบคุณความน่ารัก ขอบคุณตูปนาโฮมสเตย์ค่ะ

    เราไปต่อที่ดอยหลวงภูคากันนะ ขับจากตัวเมืองปัวอยู่ที่ 26 กิโลจร้า ทางสวยมากแต่น่ากลัวมาก....หัวใจจะวายบรรยากาศระหว่างทางสวยงามมากค่ะ แต่ไม่กล้าจอดถ่ายรูปมาก......เราขับรถไม่เก่ง พอไปถึงเราก็คุยกับพี่ๆที่อุทยานสักพักก็กลับไม่ได้ขึ้นไปที่บ้านเกวียนเสียดายมาก แต่ ตอนนี้เราต้องรีบกลับค่ะ เพราะต้อง เข้าตัวเมืองไปเที่ยวต่อด้วย

    ลงมาจากดอยเราก็ไปต่อที่ ฟาร์มเห็ดหัวน้ำเราสั่งอาหาร ระหว่างรออาหารเราก็ไปเดินเล่น ตอนนี้ที่นี่ปลูก ข้าวโพด และผักตามฤดูการต่างๆ ได้เวลาไปกินอาหารแล้ว เราสั่งทั้งหมด 4 อย่าง

    พี่ที่ร้าน.....กินหมดเหรอ

    เรา......ไม่หมดค่ะพี่ ( คือ....พี่เค้ายิ้ม ) คืออยากกินค่ะพี่ น่ากินทั้งนั้น

    อร่อยมากค่ะ

    พิชซ่าเห็ด

    ขนมปังแฮมชีส

    ขนมปังเนย นม น้ำตาล (อันนี้ขาดไม่ได้ ของโปรด)

    ต้มตำเเห็ดทอด ตบด้วยกาแฟคาปูชิโน 1 แก้ว....รวม 346 บาทค่ะ

    นั่งลอยชายชมวิวสักพักก้ขอตัวกลับละกันนะ......

    สถานีตอไปตัวเมืองน่าน ศรีนวลลอร์จ

    กว่าจะถึงก็บ่ายสอง กว่าๆละ วนหาที่พักก่อนละกันแล้วค่อยออกมาเที่ยว

     

    ณ.ศรีนวลลอร์จ ห้อง 104 ภายในห้องค่ะ

    ได้เวลาไปเที่ยวละ เปลี่ยนชุดที่เราซื้อมาจากร้านผ้าทอ เช่าจักรยานที่พัก ราคา 50 บาท ไปปั่นชมเมืองกันเราปั่นไปวัดต่างๆ มาอยู่ที่วัดภูมินทร์นานมาก ดูภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยมากค่ะ  แล้วก้ปั่นเที่ยวต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็ไปเก็บบรรยากาศ ที่อุโมงต้นลีลาวดีต่อ

    แล้วก็ปั่นต่อไปจนถึงร้าน The House ซึ่งอยู่ใกล้ๆวัดภูมินทร์ จะอยู่ตรงข้าม ปั๊ม PT หน้าร้านค่ะ ตอนแรกไม่กล้าเข้าแค่สวยมากค่ะ เอาวะ เข้าไปดีกว่า บรรยากาศภายในร้านค่ะ ขนมกับน้ำ ราคาไม่แพงนะคะ ชั้นบนจะเป็นฟิตเนตนะคะ นั่งเล่น คุณป้าก็มาชวนคุยเพราะเห็นเรามาคนเดียว ป้าอาสาถ่ายรูปให้ค่ะ นั่งเล่นนั่งคุยอีกสักพักก็ขอตัวกลับค่ะ

    ไปหาอะไรทานแวะร้านก๋วยเตี๋ยวไร้เทียมทาน อร่อยไม่ต้องปรุงเลยค่ะ แล้วก็เข้าที่พักนอนยาว

    ตื่นเข้ามาเราก็เก็บบรรยากาศยามเช้าในที่พักกัน

    สักพักเราก็ ไปหาอะรรองท้องที่ Sweety 9

    ชุดอาหารเข้า อร่อยมากขอบอก

    หลังจากนั้นเราก็ ปั่นเที่ยวไปชมวัดต่อแล้วก็ได้เวลา Check out ออกจากที่พัก

     

    • Posts-3
    Bee Twin •  March 08 , 2016

    มาต่อกันที่หอศิลป์ริมน่านก่อนกลับกันค่ะฝีพระหัตถ์ของพระเทพ น่ารักมากเลยค่ะ

    บรรยากาศภายในเมือ่ชมเสร้จก็เตรียมตัวกลับ บ๊ายบายเมืองน่าน แล้วเจอกันอีกนะ

     

    จบทริป

    ค่าที่พักตูปนาโฮมสเตย์  1600 บาท

    ที่พักศรีนวลลอร์จ  880 บาท

    ค่าเครื่องไป-กลับ  1614 บาท

    ค่าเช่ารถ 2 วัน  2000 บาท

    ค่าน้ำมัน  770 บาท

     

    ปล.ถ้าไปหลายคนที่พักกับค่ารถจะทุ่นไปเยอะเลยค่ะ

    ********* การเดินทางคนเดียวได้อะไรมากมายกว่าที่คิดค่ะ

    การเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆ ไม่เหงาเลย เพราะอะไรน่ะเหรอก็เรามัวแต่คิดว่าจะทำอะไรโดยที่ไม่มีใครมาช่วยคิดต้องจัดการหมดทุกอย่างเพียงคนเดียว ได้มิตรภาพน่ารัก ระหว่างการเดินทาง ได้รอยยิ้มส่งตอบเวลาที่เรายิ้ม และขอความช่วยเหลือ ขอบคุณการตัดสินใจบินเดียวเที่ยวเมืองน่านในครั้งนี้

    • Narin  ^_^ 11 March 2016 13:46:22
    • Bee Twin  ขอบคุณมากค่ะ @Narin ^_^ 09 March 2016 04:06:56
    • Narin  รีวิวได้น่ารัก เเละดีมากๆเลยครับ ทำให้อยากเดินทางคนเดียวบ้าง 555 08 March 2016 23:11:03