[ น่ า น - เ นิ บ - เ นิ บ ]

ทริปนี้มันเริ่มตรงที่.....เห้ยๆ โอนตังมาให้ด้วยนะ 2 พัน เดี๋ยวกุจะพาไปนอนดูดาว 
ห้ะ! ทำไมเดี๋ยวนี้ตั๋วท้องฟ้าจำลองมันแพงจังฟระ เฮ้ย!!!ไม่ใช่ล้าววว น่านค่ะ น่านไง เราจะไปน่านกัน

ทริปนี้เราจะไปนอนดูดาวที่ดอยเสมอดาวกันค่ะ ตั๋วพร้อม คนพร้อม กระเป๋าพร้อม ขาตั้งกล้องพร้อม 
แต่ แต่!!! กล้องไม่พร้อม แบตกล้องหายไปหน๊ายยย พรุ่งนี้บินแต่เช้า 
เออช่างมัน! เป็นทริปแรกที่ไม่พากล้องคู่หูไป มีแค่มือถือ Gopro 
และลูกที่ถูกลืมอย่าง NIKON J1 เอาไปแค่นี้พอ ถือซะว่าเป็นทริปเสพธรรมชาติก็ละกัน

สวัสดีครับผมกัปตันหล่อโฮกกก กำลังจะพาผู้โดยสารทุกท่านลงสู่ท่าอากาศยานน่านนครในอีก 20 นาทีข้างหน้า 

มองลงมา เฮ้ยเฮ้ยย มันใช่หรอแกร๊ นี่มันสุราษฏร์ชัดๆ 
จนถึงบัดนี้ก้ยังไม่รู้ว่าเจ้านี่คือส่วนไหนของน่าน ใครพอทราบช่วยบอกเค้าที

ก่อนจะเที่ยวขอสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำปีเกิดก่อนค่ะ วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวงน่าน

จากนั้นคุณลุงก็พาพวกเราไปไหว้สถานที่คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่ง วัดพระธาตุเขาน้อย

หลังจากไหว้พระกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นดอยกันแบบยาวๆเลย สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนจากวิวตึกเป็นวิวป่า 
อากาศเริ่มเย็นลง ต้นไม้น้อยใหญ่ไหวเอนสลับกันไปมา เดี๋ยว!!! สำบัดสำนวนทำไมเนี่ยแกร๊ 
เสียงวี้ดว้ายกับวิวธรรมชาติหลังรถ แสดงถึงความเป็นมนุษย์คอนกรีตที่โหยหาธรรมชาติได้อย่างชัดเจน
ทำให้คุณลุงตัดสินใจพาพวกเราแวะมาดูวิวสุดอลังกันอีกที่ ณ ผาชู้

คือดีย์อ้ะ เห็นแค่นี้ก้ฟินแล้ว เงียบ สงบ กะลังเสพธรรมชาติอย่างเพลินเพลิน
คุณลุงบอกไปๆ ขึ้นดอยเสมอดาวได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์เลียเขานะ เอ้าเห้ย! เลียย อะไร ยังไง 
วิ่งดิครัชรออัลไลลล มาถึงแสงสีส้มกำลังอาบเลย วิ่งอีกล้าววว วิ่งขึ้นเนินไปบอกลาคุณพระอาทิตย์กัน :')

ชอบจังเวลาที่นั่งมองพระจันทร์วิ่งไล่ตามพระอาทิตย์เนี่ย รู้ว่ายังไงก้ไม่ทัน สุดท้ายก็ได้เจอแค่แสง 
ความรักก็เช่นกัน...เอ้าเห้ย! ดราม่าทำไมหล่ะเมิง

หลังจากเสร็จภารกิจปิ้งย่าง อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย ก็หอบเสื่อ แบกหมอนเดินขึ้นเนินไปนอนดูดาวกัน
ไอ่เรานี่ไม่มีกล้องได้แต่นอนดูดาวเงียบๆ ไม่ต้องมานั่ง set อุปกรณ์ 
สบ้าย! ในใจนี่แอบร้องไห้เบาๆ กรี้ดทางช้างเผือกชัดเว่อ ดาวก้เยอะ ฝนดาวตกก็มีเป็นสิบดวงเลย
...คิดถึงกล้องขึ้นมาจับใจ...
แต่คิดถึงใครบางคนมากกว่า ถุ้ย! คิดถึงทำไม มันก็แค่เรื่องห่วย ห่วยยยนะ เครป้ะ ลืมสิวะ ลืมมมมมมมม

ไปขอแอบถ่ายรูปจากกล้องพี่ที่ไปด้วย เอามาการันตีว่ามันสวยจริง นอนดูเพลิน จนลืมไปว่าได้เวลาเข้าเต้นท์

ปรื๊ด ปื้ดดด เสียงรูดเต้นท์คือนาฬิกาปลุกชั้นเยี่ยมเวลาเราไปเที่ยว ตี 5 ล้าว
ตื่นมาแบบงัวเงียเดินขึ้นเนินไปรอรับคุณพระอาทิตย์ 

คำพูดแรกในใจตอนเห็นแสงแรก "เชี่ย! สวยว่ะ ขึ้นเหนือปีนึงเป็นสิบรอบ ทำไมกุเพิ่งเคยมาวะ"

คือสวย คือดี คืองาม คืองานละเอียด คือ คือ คือ กุรักเลย!!! เลยบ้านเมิงสิ นี่มันน่าน!!!

ต้นไม้ก็เป็นคู่ คนก็นั่งกันเป็นคู่ แล้วยังไง แล้วยังไงงงง วุ๊ยยยย! รู้ล้าวว่ารักกัน

น้ำท่าก็ไม่อาบ ฟันก็ไม่แปรง หน้าก้ไม่ได้แต่ง ธรรมชาติกันสุดชีวิต Silhouette กันไปยาวๆละกันนะจ๊ะ

หลังจากลั้นลาถ่ายรูปเป็นคนบ้า แดดเริ่มเลีย ไปอาบน้ำ ลงจากดอยกันดีกว่า ก่อนจะกลับแอบแชะเทอมาอีกรูป 
สัญญาว่าเราจะมาเจอกันอีกครั้ง...ดอยเสมอดาว

ขากลับคุณลุงพาเราแวะถ่ายรูปกันที่เสาดินนาน้อยค่ะ คล้ายๆแกรนด์แคนยอน แต่ร้อน ร้อนมาก มากที่ซู้ดดด

จากนั้นแวะมากินกาแฟที่เรือนไม้รีสอร์ท
จะบอกว่าร้านนี้กาแฟโคตรเด็ด คือดีงาม คือละมุน อร่อยกว่าร้านประจำที่เชียงใหม่ไปอิ้กก

บอกได้เลยว่ากาแฟแก้วละ 35 รสชาติมา 250 วิวคือแปดล้าน
แม่เอ้ยยย! กินกาแฟในกระต๊อบกลางนา ใครจะชิวกว่าพี่ไม่มีอีกล้าววว

แวะอาบน้ำ อาบท่า เก็บของ ก่อนจะออกไปปั่น ปั่นจักรยานกัน 
โรงแรมที่เราพักชื่อ K-1 Modern Art เป็นโรงแรมเล็กๆน่ารักอยู่ใกล้สนามบินเลยค่ะ

ได้เวลาชิว ปั่นจักรยานเที่ยวเมืองแห่งตำนานกระซิบรัก ปู่ม่าน-ย่าม่านกันค่ะ วัดแรกวัดภูมินทร์

ไม่ไกลจากวัดภูมินทร์ ก็จะเจออุโมงค์ต้นไม้ จุด Landmark อีกแห่งของเมืองน่าน
อยู่ในบริเวณพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นวัดช้างค้ำ

หมดแรงละ ขอไปเติมพลังกันที่ขนมหวานร้านดังเมืองน่าน บัวลอยป้านิ่ม
บัวลอยยังไม่มาค่ะ เลยสั่งอย่างอื่นมาทานเล่นก่อน 

สาบานว่าทานเล่นนะแกร๊ รูปนี้จานที่ 5-9 นะคะ จานที่ 1-4 ถ่ายไม่ทัน ขอตั้งชื่อร้านใหม่ว่า ป้านิ่มถ้วยรั่ว
สรุปว่าบัวลอยมา 6 โมงเย็น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พวกเราเลยตกลงกันว่าจะข้ามไปวัดศรีพันต้นกันก่อน

จากนั้นไปทานอาหารพื้นเมืองกันที่ร้านเฮือนฮอม 
เมนูที่สั่งก็มีข้าวซอยเนื้อ ออเดิฟเมือง แกงแคหมูย่าง ผัดยอดมะระ ไก่ทอดมะแขว่น ยำผักกูดกุ้งสด เห้ยไม่หิววววว

แล้วเราก้กลับมาหาบัวลอยป้านิ่มกันค่ะ เดี๋ยวๆ ท้องจะแตก ไหวหรอแก
เอ้ามาแล้วไม่กินได้ไง สั่งมา 3 ถ้วยพอ สองคนกินถ้วยนึง สรุปไปถึงร้านตบะแตก จัดไปคนละถ้วยค่า

จะกลับโรงแรมนอน มันก้จะดูยังไงอยู่ มันไม่ใช่อ้ะจ็อดดดดด ไป ไป อากาศดีดีหาร้านนั่งฟังเพลง ชิวๆกันดีกว่า
แล้วเราก้ตกลงกันว่าจะมานั่งชิวกันที่ร้าน Cafe' Soodgongdee (คาเฟ่สุดกองดี) กันค่ะ
เหมือนเดิม เปิด GPS ในมือถือ ขี่มาตามพิกัดเลยค่ะ เอาจิงป้ะ มันไกลจากที่พักมาก ขากลับทำยังไง พูด!!!
จิบพอประมาณก้พอค่ะคุณขา เมาไม่ขี่นะคะ

จะบอกว่าคนน่านน่ารัก แต่หมาน่านฮาร์ดคอร์มว้าก เจอกันแต่ละทีอิชั้นนี่เบรคกันตัวโก่งเลยค่า 
เที่ยงคืนกว่าล้าววว กลับไปนอนกันเหอะ เงียบ สงัด เงียบมาก มากที่สุด

สวัสดี Last Day in NAN ตื่นสายซักวัน วันนี้ขอทำตัวเป็นมนุษย์ slow life ก่อนกลับ
ไปนั่งกินอาหารเช้าสุดชิค กาแฟดริปสุดหอมกันที่ร้าน Sudrit Arts Gallery & Cafe กันค่ะ

อันนี้จะเป็น set อาหารเช้า เสิร์ฟพร้อมสลัดผักออร์แกนิค เด็ดมาจากต้น พร้อมทำสดๆเสิร์ฟกันตรงนั้นเลยค่ะ

มาล้าววว Americano Drip ของข้า หอมไปถึงหน้าปากซอย

แก้วนี้เป็น Green Tea Drip ค่ะ

การตกแต่งร้านก็เบาๆ เก๋ๆ ชิคๆ คูลๆ เหมือนอยู่บ้าน บ้านแกเอาจักรยานไปแขวนไว้บนหน้าต่างเร๊อะ!?

หมดเวลาสนุกแล้วสิ ได้เวลากลับบ้านล้าวว 3 วัน 2 คืน ถามว่าอิ่มมั้ย บอกเลยว่าม่ายยย
ได้เวลาโบกมือลา สัญญาว่าเราจะได้เจอกันอีก...น่านนคร