ถ้ามีเวลาว่างสั้นๆสัก สองวันหนึ่งคืน "กาญจนบุรี"อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเดินทาง
กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ค่อนข้างใหญ่ และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายรูปแบบ

เราขอพาเพื่อนๆเดินทางไปตัวเมืองกาญจนบุรี 
และทำความรู้จักกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยว แบบง่ายง่าย ที่เราอยากให้ลองไปเยือนสักครั้ง

เรามาหนีกรุง...ไปเที่ยวกาญจน์ด้วยกันนะคะ
พยาบาลสาวจะพาเที่ยวเอง 
FB.ฉันกลัวที่แคบ

ที่แรก"เราไปให้อาหารยีราฟกันมั๊ย???" 

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าที่กาญจนบุรีมีสวนสัตว์เปิดด้วยนะ 
ไฮไลท์ของที่นี่คือการได้ใกล้ชิดกับสัตว์ต่างๆโดยเฉพาะยีราฟคอยาว มันใกล้มากขนาดที่โดนยีราฟเลียหน้าเลยล่ะ 

ประเภทสัตว์ที่นี่อาจจะไม่เยอะมาก มีพวกกวาง ม้าลาย ยีราฟ หมี เสือ สิงโต นกกระจอกเทศ เป็นต้น (ก็เยอะเหมือนกันนี่นา)
น่ารักทุกตัว

ที่นี่จะมีรถบัสของสวนสัตว์ให้นั่งวนรอบเพื่อให้อาหารสัตว์ ได้ใกล้ชิดมาก

เราว่าที่นี่เหมาะกับครอบครัวนะ เด็กน้อยน่าจะชอบสนุกดี ใครมาเมืองกาญรอบหน้าลองแวะมาที่ สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ อ.บ่อพลอย ได้ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตรเอง .... ใครจะพาแฟนมาเป็นอาหารสัตว์ก็ได้นะ 555

ที่ที่ 2 เราพาไปไหว้พระกัน สารภาพว่าปกติไม่ใช่สายเข้าวัดสักเท่าไหร่ 
แต่ที่นี่เป็นหนึ่งในวัดที่อยากเดินทางมาเห็นความสวยงามด้วยตาตัวเอง 

ไม่ค่อยมีวัดที่คุมโทนสีขาวเป็นหลักแบบนี้ให้เห็นมากนัก ยิ่งมาเจอพื้นรอบอุโบสถที่เป็นสีฟ้าแล้วยิ่งดูสวยแปลกตาดี 
ใครมาเมืองกาญรอบหน้าลองหาโอกาสมากราบนมัสการสมเด็จพุทธรัตนมุนีศรีโสธร
และชมความสวยงามของ “อุโบสถสำเภาแก้วร้อยล้าน” วัดหินแท่นลำภาชี ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี นะคะ

ที่ที่ 3 ถนนคนเดิน"ปากแพรก"
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเมืองกาญมีถนนคนเดินที่น่ารักไม่แพ้จังหวัดไหนเลย

ชุมชนถนนปากแพรก หรือชุมชนบ้านเหนือ เป็นชุมชนเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของกาญจนบุรี ซึ่งเก่าแก่กว่า 180 ปี เริ่มก่อตั้งขึ้นในยุคสร้างเมืองกาญจนบุรีใหม่ ในสมัยสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทำให้ถนนสายนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของจังหวัดนี้

ในส่วนของถนนคนเดินจะมีทุกวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 16.00น ถึง 21.00น ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารท้องถื่น
เราว่ามันน่ารักตรงที่มาตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสมัยก่อนนี่ล่ะ
แนะนำให้รอพระอาทิตย์ตกค่อยมาเดิน ไม่งั้นจะร้อนมากกกกกก

ที่นี่มีของกินแปลกๆที่ไม่ค่อยเห็นให้ได้ลองชิมกันด้วย
ขนม"ช่อม่วง" ขนมไทยโบราณ ที่ไม่ได้หากินกันได้ง่ายๆแล้ว

ขนมไข่กรอบ ร้าน ตลาดน้ำกองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์
คนขายบอกว่าท่านผู้ว่าเชิญให้มาออกร้านขายเลยนะ ใครอยากกินต้องอดทนหน่อย เพราะคิวยาวมากกกก

บนนถนนเส้นนี้ยังมีร้านกาแฟสุดเกร๋ "สิทธิสังข์" ซึ่งอาคารสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2463
ผ่านการใช้งานมาตั้งแต่รุ่นทวด เป็นร้านขายของ สำนักงานทนายความ จนมาเป็นร้านกาแฟของรุ่นเหลนในปัจจุบัน

ที่ที่สี่ "รถไฟ" เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการเดินทางมายังจังหวัดกาญรวมถึงสำหรับการท่องเที่ยวในจังหวัดนี้
สถานีรถไฟยอดฮิตที่มาแล้วไม่ควรพลาด คือ สถานีแม่น้ำแคว และยังมีสถานีกาญจนบุรีซึ่งเราสามมรถตั้งต้นเดินทางท่องเที่ยวได้อีกด้วย

สะพานข้ามแม่น้ำแคว ไม่ได้มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ

ที่สุดท้าย "สุสานทหารพันธมิตร"ฟังดูอาจจะน่ากลัวแต่ไม่เลยค่ะ

"สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" หรือ "สุสานทหารสหประชาชาติ" หรือที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั่วไปเรียกว่า "ป่าช้าอังกฤษ" 
เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะถึง 6,982 หลุม โดยเชลยศึก 300 คนเสียชีวิตด้วยอหิวาตกโรคและฝังไว้ที่ค่ายนิเกะ (ประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนถึงด่านเจดีย์สามองค์)ส่วนที่เหลือได้จากหลุมฝังศพเชลยศึกตามค่ายต่างๆและยังมีสุสานช่องไก่ ซึ่งรัฐบาลไทยและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ตกลงกันเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2497 เพื่อสร้างสุสานสองแห่งนี้ขึ้น บรรยากาศในสุสานเงียบสงบและร่มรื่น พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า ทุกปีจะมีวันที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตเฉพาะของคนชาติต่างๆ