จากกรุงเทพฯ เดินทางตามฝัน น่าน-พะเยา
เมื่อ 3 ปีที่แล้วผมเคยขับรถไปเที่ยวจังหวัดน่านคนเดียวมาครั้งหนึ่ง ความสวยงามของธรรมชาติ ศิลปะและวัฒนธรรมพื้นเมืองของที่นี่ ยังติดตรึงอยู่ในใจไม่ลืมเลือน มาถึงวันนี้เมื่อมีโอกาสอีกครั้งที่จะได้เดินทางมาท่องเที่ยว ผมรู้สึกตื่นเต้นและเฝ้านับวันรอว่า วันเดินทางจะมาถึงเมื่อไหร่ ในที่สุด เช้าวันเดินทางก็มาถึง
ผมตื่นตี 3 ครึ่ง อาบน้ำแต่งตัว ขนของขึ้นรถ "น้องขาว" ยาริส คู่ใจ คันนี้ พาผมตะลุยทริปหลายทริป เกือบทั่วภาคเหนือมาหมดแล้ว ถึงจะเล็ก ก็เล็กพริกขี้หนูนะเจ้าน้องขาว ^_^ เราเริ่มออกเดินทางตอนตี 4 ครึ่งโดยประมาณ ผ่านถนนวงแหวนรอบนอก ออกทางออกบางปะอิน มุ่งสู่ภาคเหนือ ด้วยถนนพหลโยธิน ผ่านจังหวัดอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ จากนั้น ได้ขับรถไปทางถนนหมายเลข 117 มุ่งหน้าผ่านเมืองพิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ และมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดน่าน ด้วยถนนหมายเลข 101 เราใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 11 ชั่วโมง รวมเวลาที่แวะพักทานข้าวระหว่างทาง ถึงตัวเมืองน่าน บ่าย 3 โมงกว่า โดยประมาณ
เราได้จองโรงแรมคืนแรกที่ บ้านสวนลิลาวดีรีสอร์ท อยู่ใกล้กับวัดพระธาตุเขาน้อย เนื่องจากต้องการที่จะขับรถขึ้นไปถ่ายรูปตอนเย็นกับตอนรุ่งเช้าที่วัดพระธาตุเขาน้อย เมื่อเข้าที่พัก เก็บสำภาระเรียบร้อย จัดเตรียมอุปกรณ์กล้องและเลนส์ เราก็ออกเดินทางไปวัดพระธาตุเขาน้อย ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ก็มาถึง
* แสงยามเย็นเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า กล้อง Fuji XT1 + 10-24mm F/11 S/14s ISO/200 AF-A/27mm
(วัดพระธาตุเขาน้อย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นวัดราษฎร์ องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030
จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542) ข้อมูลจากวิกิพีเดีย
บรรยากาศยามเย็น ที่วัดพระธาตุเขาน้อย กล้อง Fuji XT1 + 10-24mm F/11 S/30s ISO/200 AF-A/27mm พระอุโบสถ วัดพระธาตุเขาน้อย น่าน กล้อง Fuji XT1 + 10-24mm F/11 S/13s ISO/200 AF-A/27mmหลังจากถ่ายรูปเสร็จ เราก็ไปหาอาหารเย็นทานที่ร้านสเต็กริมทาง ใกล้กับ BigC น่าน แล้วเข้าที่พัก เพื่อพักผ่อนเอาแรงสำหรับวันรุ่งขึ้นต่อไป ^_^
เช้าวันที่ 2 ตื่น ตี 4 ครึ่ง อยู่กรุงเทพฯ ตื่นสายกว่านี้อีก T_T ออกจากที่พักประมาณ ตี 5 ครึ่ง เพื่อไปให้ทันแสงยามเช้าบนวัดพระธาตุเขาน้อย มาถึงคนแรกเลย 555 หลังจากนั้นก็มีคนตามมาอีกหลายกลุ่มเลย มาถ่ายรูปยามเช้าเหมือนกันเลย ^_^ โชคดี มีปรากฎการณ์พระจันทร์ยิ้ม เลยได้ภาพนี้มา
กล้อง Fuji XT1 + 10-24mm F/5.6 S/30s ISO/200 AF-A/18mmกล้อง Fuji XT1 + 10-24mm F/11 S/2.5s ISO/200 AF-A/26mm พระธาตุเขาน้อย น่าน
ลงจากวัดพระธาตุเขาน้อย ประมาณ 7.30น. กลับที่พักทานข้าวเช้า เก็บของแล้ว ขับรถเที่ยวในตัวเมืองน่าน แวะวัดภูมินทร์ ซุ้มลีลาวดี ใช้เวลาเดินทางจากที่พักประมาณ 12 นาที
รูปกระซิบรัก ปู่ม่าน ย่าม่านศรัทธาและความเชื่อของคนไทยศาสนาพุทธ เข้าวัด ไห้วพระ ขอพร
ใกล้วัดภูมินทร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ของจังหวัดน่าน มีทางเดินซุ้มต้นลีลาวดีอยู่ มีความสวยงาม นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่คู่ที่กำลังจะแต่งงานมักจะมาถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้งกัน
เดินทางจากตัวเมืองน่าน ด้วยถนนเส้น 101 ถึงอำเภอปัว ระยะทางประมาณ 78 กม. เข้าพักที่ กรีนฮิลล์รีสอร์ท ปัว เก็บข้าวของ แล้วออกไปหาข้าวเย็นทานที่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ปัว
ใกล้ๆ กัน มีฝายกั้นน้ำ ไปเดินเล่นซะหน่อย ขับรถเล่นเที่ยวรอบๆ ตัวอำเภอปัวยามเย็น กลับที่พัก หลับเอาแรงเพื่อวันพรุ่งนี้ต่อจ้าเช้าวันที่ 3 แวะวัดภูเก็ต อำเภอปัว จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติภูคา บ่อเกลือ
ตื่นเช้ามาอาบน้ำทานข้าว ออกจากที่พักไปแวะถ่ายรูปที่ วัดภูเก็ต
ยามเมื่อแสงอรุโณทัยสาดส่องต้องกระจกสีที่ประดับตกแต่งพระอุโบสถวิวทุ่งนาที่วัดภูเก็ต ปลายเดือน พฤศจิกายน เริ่มเก็บเกี่ยวแล้ว
ออกจากวัดภูเก็ต มุ่งหน้าสู่อำเภอบ่อเกลือ ผ่านจุดชมวิวอุทยานแห่งชาติภูคา แวะถ่ายภาพหน่อยจ้า
จากจุดชมวิว ขับรถไปอีกไม่ไกลนักก็ถึงอำเภอบ่อเกลือแล้ว
จากบ่อเกลือ เราขับรถย้อนกลับมาที่ตัวเมืองน่าน แล้วไปอำเภอนาน้อย เพื่อพักค้างคืนที่ เฮือนวาดเขียน ด้วยมีเป้าหมายในวันพรุ่งนี้ที่จะขึ้นไปดูดอยเสมอดาว
เรามาถึงเฮือนวาดเขียนประมาณ สี่โมงเย็นกว่าๆ นั่งมองวิวทุ่งนาจากในห้องพัก อยู่ๆ ฝนก็ตก แล้วก็เกิดรุ้งกินน้ำ ในเวลาไม่ถึง 5 นาที เป็นภาพที่งดงามมาก...
กลางคืนอยากถ่ายช้างแต่ช้างไม่มา T_Tตื่นเช้าวันที่ 4 ตอนตีห้า ขับรถมุ่งหน้าสู่ดอยเสมอดาวเพื่อไปให้ทันแสงเช้า
แสงยามเช้าที่ดอยเสมอดาว
แสงเช้าที่ดอยเสมอดาว สวยงามมิจางหาย เราออกจากดอยเสมอดาว ตอนเกือบ แปดโมงเช้ากลับมาที่พัก เฮือนวาดเขียน ทานอาหารเช้า แล้วเก็บของ เพื่อออกเดินทาง ไป ภูลังกา ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน ^_^ เนื่องจากเราวางแผนการเดินทางผิดไปทำให้ต้องขับรถย้อนกลับไปกลับมา เราต้องย้อนกลับเข้าตัวเมืองน่านแล้วไปทางอำเภอเชียงม่วน เชียงคำ ภูลังกา ใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชั่วโมง แวะถ่ายภาพระหว่างทาง จากตัวเมืองน่านไปอำเภอเชียงม่วน
น้ำตกภูซาง ใกล้ๆ กันยังสามารถขับรถไปเที่ยวภูชี้ฟ้าจังหวัดเชียงรายได้อีกด้วยถ้ามีเวลาครับ
ขับรถไปทางอำเภอเชียงคำ เพื่อแวะน้ำตกภูซาง น้ำตกอุ่น ^_^จากนั้นก็ออกเดินทาง สู่ภูลังกา
วิวระหว่างทาง เชียงคำ-ภูลังกาเราถึงภูลังกาประมาณ เกือบห้าโมงเย็นขนของเข้าที่พักแล้ว ทานข้าว พักผ่อน
ตื่นเช้าวันที่ 5 ตีห้าครึ่ง ออกมาถ่ายรูปแสงเช้าที่ภูลังกา ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน ^_^ เมื่อวานฝนตก เช้านี้เลยมีหมอกไหล เยอะไปหน่อยกาแฟซักแก้วไม๊คร๊าบปล่อยกาย ปล่อยใจ ปล่อยความคิดล่องลอยไปกับสายหมอกที่ไหลอ้อยอิ่งยามเช้า สูดลมหายใจให้ลึก เก็บความงดงามนี้ไว้ในความทรงจำ หลับสบายกันเลยทีเดียว จัดไปคนละมุมเลยนะ เมื่อเจ้าของบ้านไม่อยู่ ^_^
สิบโมงกว่าออกเดินทาง มุ่งหน้าไปตัวเมืองพะเยา เข้าลำปาง ผ่านตาก ไปนอนพักค้างคืนเอาแรงที่ จังหวัดกำแพงเพชร
แวะทานเข้าเย็นริมแม่น้ำปิงเช้าวันที่ 6 ตื่นเช้ามา อาบน้ำ ทานข้าวเช้า ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ แวะซื้อของฝากที่อำเภอปากบาง จังหวัดสิงห์บุรี ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่คือ หมูทุบ กับขนมเปี๊ยะสูตรของที่นี่เปิดขายมากว่า 60 ปีแล้วครับ
ถึงกรุงเทพฯ โดยปลอดภัยเวลาบ่าย สี่โมงเย็นจ้า โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะครับ ^_^