ที่สำคัญอีกที่ของที่นี่ก้อคงต้องเป็นวัดจมน้ำหรือวัดวังก์วิเวการามเดิม ความจิงเเล้วในแม่น้ำมีอีก 2 วัด คือวัดสมเด็จกับวัดกระเหรี่ยง วัดที่นี่จมน้ำหลังจากมีการสร้างเขื่อนขึ้น จึงต้องย้ายวัดขึ้นไปสร้างใหม่เป็นวัดวังก์วิเวการามในปัจจุบัน ส่วนวัดที่จมน้ำเหล่านี้ก็ขึ้นไปสักการะได้เเค่บางเดือน เพราะบางเดือนน้ำสูงมากก็ไปวนดูได้เเค่รอบๆ เเต่โชคดีไปครั้งนี้เข้าได้ 2 วัดเลย มาดูกันดีกว่า
เรื่มจากสะพานมอญเลย จ้างเรือไปกลับเที่ยวละ 300 บาท ตอนนั้นไปกะเพื่อนเป็นผู้หญิง 2 คน ก็หยองๆอยู่ เพราะเพิ่งไปวันที่2 ก้อออกเที่ยวยังไม่รู้พื้นที่ดี โชคดีเจอพี่เย็น หลายคนอาจจาเคยเห็นเเกในโปสเตอร์ 555 พี่เย็นเป็นคนมอญคะ เดินไปเดินมาที่สะพานมอญ เเกขัน
อาสาจะไปเปงเพื่อน เเรกๆก็กลัวนะ เเต่จะไป!!! เเละเเล้วก้อไปด้วยกันสามคน
ออกเดินทาง เย่!!!
พี่เย็นตัวจิงเสียงจิง
ออกเดินทางงงงงงงงงง หัวจาฟูมากนะ หน้าจาชาสักหน่อย เพราะลมเเรงมาก 555 ใครเเพ้ลมเเพ้เเสงเตรียมอุปกรณ์ป้องกันไปก็ดีคะ
ถึงเเล้ววัดจมน้ำ ช่วงที่ไปน้ำลงคะ เราก้อเลยยังขึ้นไปไหว้ที่วัดนี้ได้ ตอนนี้เรือกำลังจาเทียบท่าละคะ หน้าก็จาชาระดับนึง555
ขึ้นมาบนวัดกันเเล้วก็จะเจอเด็กๆขายดอกไม้ "พี่คะกำละ 20 บาท" ปล่อยเด็กๆไว้คะเดี๊ยวเค้าจาโอน้อยออกกันเอง ว่านักท่องเที่ยวคนนี้จาเปงของใคร555 เราเตรียมเเบงค์ไว้ในมีอให้พร้อมก้อเพียงพอ น้องๆที่ขายดอกไม้เค้าก็จะเเปลงกายเปงไกด์ให้เราด้วย เด็กที่นี่เก่งจิงๆ พาเราเข้าตั้งเเต่วิธีข้ามธรณีประตูจนถึงความเปงมาของวัด อยากรู้ว่าเปงไงต้องไปลอง อิอิ
โฉมหน้าแก๊งค์โอน้อยออก
ภายในวัดก็เป็นเเบบนี้เเหละคะ หลังคาเปิดโล่ง
เด็กๆที่นี่เค้าจามีบริการจุดธูปให้ด้วยนะ คือไม่ใช่ไรลมเเรงมากจ้า หัวเเทบปลิว เด็กๆก็จามีวิธีจุดให้เราจนได้แหละ เราก็ชักภาพเก็บไว้รัวๆ
มุมนี้เปงมุมทางออกจากโบสถ์ด้านหลังพระประธานคะ เริ่มเยนพอดี
เด็กที่นี่ไปโรงเรียนก็ใส่ชุดมอญ ใส่กระโปรงยาวๆนี่เเหละ เเต่ละคนค่ดเเสบ 555
ไปวัดที่สองกันดีกว่า วัดกระเหรี่ยง พี่พล(คนขับเรือ) บอกว่าจาดูได้ช่วงเมษาคะเพราะน้ำจะลองเยอะมาก ตอนที่เราไปวัดนี้เลยได้เเค่วนรอบๆ
เบลอนิสนุง คือแบบอยู่บนเรือ โฟกัสหลุดไปเลย 55
มาวัดสุดท้ายกัน วัดสมเด็จ วัดนี้อยู่บนฝั่งคะ ต้องเดินขึ้นเขากันไป
วันนั้นเย็นมากเเล้วคะพี่พลก็เลยเร่ง เพราะฟ้าเริ่มมืด อาจจาเก็บภาพมาไม่ได้มาก
ก่อนจะมาเจอกับพระประธานของวัด
เราเลยรีบไหว้กัน เก็บภาพนิดๆหน่อยๆเเล้วรีบกลับเรือ
คนที่นี่จาขอพรเเล้วก็วางหินเป็นตั้งๆขึ้นไปไม่ให้ล้ม ถ้าทำได้ก็สมปรารถนา
หลังจากนั้นเราก้อรีบเผ่นกลับเรือ ดูจากสีฟ้าก็ตะวันคล้อยต่ำเต็มที พี่พลก็รีบมาดูเรือรีบพาพวกเรากลับ กระโดดขึ้นเรือให้ไวเเล้วกลับเข้าฝั่ง
สั่นๆหน่อยนะคะ ขาดขาตั้งกล้อง :P
ความจิงหลังจากไปครั้งเเรก ก้อมีโอกาสไปสามวัดนี้อีกหลายรอบ เพราะมีพ่อเเม่พี่น้องมาจากกรุงเทพ เลยได้โอกาสเก็บบรรยากาศหลายๆช่วงเวลาของวันกัน
พุทธคยาจากเเม่น้ำซองกาเรีย :)