ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    Ohmmy •  พฤศจิกายน 22 , 2558

    ชมโขง....ที่เชียงของ

     

    สวัสดีค่ะ หยุดยาว 3 วัน ช่วงวันปิยะมหาราช 31 ตค. 58 ปีนี้
    เราได้ไปเที่ยวใช้ชีวิตแบบเนิบช้า ที่เชียงของ  ฮ่าๆๆ  ที่บอกว่าเนิบนั้น ก็เพราะเรารู้สึกว่า เชียงของมันเป็นเมืองเงียบๆ เนิบๆ เป็นเมืองชายแดนที่ไม่วุ่นวาย  การเดินทางครั้งนี้เราไปคนเดียวอีกแล้วค่ะ นับเป็นการเก็บสกิลการเดินทางในประเทศไทยคนเดียว ครั้งที่สอง หลังจากปีที่แล้วไปเที่ยวเมืองน่านคนดียวมา

    เชียงของเราว่าเป็นเมืองที่ออกจะเหงาเล็กๆ  ยิ่งเรามาคนเดียว ยิ่งเหงาไปใหญ่ T_T

    เราเริ่มต้นการเดินทางที่เชียงใหม่  โดยการติดรถเก๋งเพื่อนไปลงที่สถานีขน ส่งจังหวัดเชียงรายค่ะ เพื่อนเป็นสาวเชียงราย และเธอจะกลับบ้านที่ อ.เทิง พอดี   เราออกกันตั้งแต่เจ็ดโมงกว่าๆ ทำเวลาจากเชียงใหม่ไปเชียงรายได้ดีค่ะ  แต่เรามาขึ้นรถโดยสารไปเชียงของได้ รอบบ่ายสอง เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้แว่ะเที่ยวร้านกาแฟริมน้ำกกในตัวเมืองเชียงรายก่อน ค่ะ

    รถโดยสารระหว่างเชียงราย ไป อ.เชียงของ หน้าตาแบบนี้ค่ะ อ้อ พอดีช่วงนี้สถานีขนส่งเชียงรายกำลังก่อสร้างใหม่นะคะ เค้าเขยิบช่องจอดรถโดยสารชั่วคราวออกมาไว้ข้างนอก ใกล้ๆกันนั่นแหล่ะค่ะ  ดังนั้น บริเวณสถานีขนส่งจึงไม่สะดวกสบายมากนักค่ะ มีเก้าอี้นั่งรอน้อย และอากาศร้อนพอสมควร  รถออกทุกครึ่งชั่วโมงนะคะ ไม่แน่ใจว่าเที่ยวสุดท้ายมีถึงกี่โมง แต่น่าจะมีรถถึงเย็นๆโน้นเลยค่ะ
    ราคาค่าโดยสาร 65 บาทค่ะ ไม่มีตั๋วให้ด้วยนะ 555 เค้าเก็บบนรถเลย แค่บอกว่าจะลงไหน เราก็ลงสุดสายเลยค่ะ

    วิวระหว่างทางค่ะ ถ่ายจากบนรถ

    บรรยาศในรถ

     

    เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม. นะคะ กว่าจะถึงจุดจอดถึงที่เชียงของ ซึ่งเป็นตลาดค่ะ
    จากตลาดเรานั่งรถรับจ้างไปยังที่พัก ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่รู้ระยะทางว่ามันจะไกล ใกล้ แค่ไหน คนขับรถคิด 40 บาทค่ะ เราก็อ่ะ 40 ก็ 40
    ปรากฏว่า ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ถึงที่พัก แป่วววว จริงๆเดินได้ก็พอได้เหงื่อค่ะ ถ้าเรารู้ว่าจะมันแค่นี้เราเดินได้อ่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ฮ่าๆๆๆ

    มาเชียงของครั้งนี้เราเลือกพักที่ "บ้ายตำมิละ" ค่ะ เนื่องจากอ่านมาจากรีวิว ทั้งในพันทิปเอง และรีวิวจากเวป thetrippacker ของคุณ Cocorattankorn ซึ่งถ่ายรูปได้สวยมาก จนทำให้เราอยากตามรอย
    นี่เลยค่ะ บ้านตำมิละ ทางเข้า

    ทางเข้าไปที่ส่วนต้อนรับของบ้านตำมิละ ด้านซ้ายมือจะเป็นเหมือนร้านขายของที่ระลึกนะคะ

    นี่เป็นทางลงไปส่วนที่เป็นเค้าเตอร์ติดต่อสอบถาม จะเห็นได้ว่า ได้บ้านตำมิละจะแทรกตัวอยู่ท่านกลางดงไม้ อากาศเย็น และสดชื่นมากๆค่ะ

    ต่อไปจะเป็นรูปบรรยากาศที่พัก คือบ้านตำมิละนะคะ เพราะว่ามาเที่ยวเชียงของครั้งนี้ เราเน้นมาพักผ่อน แบบเนิบช้าค่ะ  (ลืมบอกไปว่าที่พักจะอยู่ติดกับถนนสายที่เลียบริมน้ำโขงเลยนะคะ คือสามารถมองเห็นวิวน้ำโขงได้จากที่พักเลย)

    บันไดทางลง อันนี้ถ่ายจากด้านล่างทีพัก ขึ้นไปยังทางเข้า คือต้องบอกว่า ลักษณะของที่พักแถวบริเวณเลียบโขง ที่ อ.เชียงของ นี้จะมีลักษณะเป็นทางลาดชันค่ะ คือส่วนของถนนใหญ่ทางเข้าที่พักจะมีความสูง แต่มันจะลาดชันลงไปเมื่อเข้าใกล้ถนนที่เลียบริมโขงค่ะ

    บรรยากาศที่นั่งทานอาหารของบ้านตำมิละ  ถ้าใครไม่ได้มาพักที่นี่ ก็สามารถมาใช้บริการส่วนที่เป็นร้านอาหารได้นะคะ อาหารอร่อย มีเค้กแบบโฮมเมดด้วยแหล่ะ แต่เราไม่ได้กิน แอบเสียดายอยู่ -_-"

    จากส่วนที่เป็นห้องอาหาร มองเห็นวิวน้ำโขงด้วย ชิวมากๆเลย

    มาดูส่วนที่เป็นห้องพักกันบ้าง เราจองห้องแบบพัดลมไปค่ะ

    อันนี้ระเบียงหน้าห้อง มีเก้าอี้ไม้ให้นั่งชิว ซึ่งจากหน้าห้องมองออกไปก็จะเห็นวิวน้ำโขงค่ะ อาจไม่ชัดมาก มีต้นไม้บังเล็กน้อย แต่มันก็เป็นธรรมชาติดีนะ เราว่า

    ในห้องพัก เยินเล็กน้อยนะคะ รูปนี้คือผ่านการนอนของเรามา 1 คืนละ น้องที่ดูแลที่นี่ใจดีมาก คือเราบอกว่าจะไปพักคนเดียว ขอห้องพัดลม เค้าโทรกลับมาถามว่าจะเลือกแบบเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่ เพราะปกติห้องนึงนอนได้ 2 คน แต่เราไปคนเดียว ไม่อยากได้เตียงแบบ twin ก็เลยได้เป็นเตียงเดี่ยวแบบสำหรับนอนได้ 2 คนมาค่ะ ห้องก็กว้าง นอนสบายดีมากเลย ผ้าห่มก็หนา เราอยู่ห้องพัดลม ช่วงที่ไปเป็นปลายฝนแล้ว อากาศก็ไม่ร้อนมากค่ะ เย็นสบาย เปิดพัดลมนอน ดึกๆมีลุกมาปิดเพราะเย็น

    • โพสต์-2
    Ohmmy •  พฤศจิกายน 22 , 2558

    เดินเล่มริมโขง

    เอาละค่ะ ดูส่วนที่เป็นบ้านพักไปแล้ว ไปเดินเล่นริมน้ำโขงยามเย็น กันเลยดีกว่า  ที่พักจะมีบันไดทางลงไปยังถนนเลียบริมโขงนะคะ
    อันนี้เป็นหน้าตาประตู ทางเข้า-ทางออก ของบ้านตำมิละ ด้านถนนเลียบฝั่งโขงค่ะ

    จริงๆแล้วที่พักมีจักรยานให้ยืมแหล่ะ แต่เราไม่รู้ เย็นวันแรกเลยใช้การเดินเล่นสำรวจถนนริมฝั่งโขงค่ะ ถ้าหันหน้าเข้าหาน้ำโขง เราเลี้ยวซ้าย เดินเลียบขึ้นเหนือไปเรื่อยๆค่ะ

    นี่เลย หน้าตาถนนเลียบริมฝั่งโขงของเชียงของ เย็นๆ มีคนมาเดินเล่น วิ่ง หรือขี่จักรยานออกกำลังกายกันประปรายค่ะ
    บรรยากาศยามเย็นชิวมากเลย

    เราเดินเล่นขึ้นเหนือย้อนทิศของสายน้ำโขงไปเรื่อยๆ จนสุดถนนเลียบน้ำโขงทางทิศเหนือค่ะ แล้วถ้าจะไปต่อ มันต้องออกไปเดินบนถนนใหญ่ เราเลยตัดสินใจเดินย้อนกลับ คราวนี้เดินตามสายน้ำย้อนลงไปทางทิศใต้  ได้เห็นว่าเค้ามีการซ้อมเรือพาย ด้วยค่ะ ดูแข็งขันกันดีจริงๆ

    เดินย้อนกลับมาทางเดิมเรื่อยๆผ่านบ้านตำมิละอีกครั้ง แล้วล่องไปทางใต้  ไปเจอป้ายโลโก้นี้ค่ะ คิดว่าคงสร้างโดยโรงแรมน้ำของริเวอร์ไซด์ เพราะป้ายอยู่หน้า รร. เค้าเลย

    น้ำของยามเย็น (คนเมืองที่นี่ เรียกน้ำโขง ว่าน้ำของ ค่ะ ตามชื่อเมืองเชียงของเลย)
    แสงจะหมดแล้ว มืดแล้วเราถ่ายรูปไม่ค่อยได้ เลยพอแค่นี้สำหรับวันนี้ค่ะ

    • โพสต์-3
    Ohmmy •  พฤศจิกายน 22 , 2558

    ขี่จักรยานเล่นรอบเมืองเชียงของ

    เช้าวันถัดมา กะว่าจะตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้น  แต่ปรากฎว่า ที่นอนมันนอนสบายเหลื๊อเกิ๊นนนน ตื่นสายจร้าาาาาาา แป่ววว
    ตื่นมาก็ตะวันโด่งละ เลยได้แค่ชมแม่น้ำโขงยามสาย พร้อมกับสั่งอาหารเช้ามากินค่ะ
    อาหารเช้าที่นี่ไม่รวมกับค่าที่พักนะคะ จ่ายแยกค่ะ มื้อแรกเราสั่งขนมปังชุบไข่มาพร้อมกะน้ำผึ้ง บีบเองได้เต็มที่ พร้มมกับนมเย็นปั่นจร้า

    หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ วันนี้เราก็ขอยืมจักรยานที่พัก ปั่นไปถ่ายรูปเล่นแถวบริเวณท่าเรือบั๊กกันค่ะ

    อากาศตอนกลางวันที่เชียงของ จริงๆคือร้อนมาก แสงแดดแผดเผามากๆค่ะ ถ่ายรูปเล่นบริเวณท่าเรือเสร็จก็ปั่นรถถีบย้อนกลับค่ะ กะว่าจะไปเปลี่ยนเป็นขาสั้นซะหน่อย เพราะร้อนมากมาย ก่อนกลับถึงที่พัก เจอมุมถ่ายรูปสวยๆ แวะซะหน่อย

    ร้านกาแฟเก๋ๆ แต่ปิดจร้าาาา  ผ่านร้านกาแฟน่ารักๆหลายร้านแต่ส่วนใหญ่ร้านจะปิดอ่า
    คิดว่าหยุดยาว 3 วัน เจ้าของร้านคงอยากไปเที่ยวบ้าง อะไรบ้าง  -_-"

    แวะวัดพระแก้ว

    • โพสต์-4
    Ohmmy •  พฤศจิกายน 22 , 2558

    หาของอร่อยประจำเมืองเชียงของ

    เที่ยงแล้ว ปั่นจักรยานไปหาข้าวเที่ยงกินกันค่ะ
    พี่เจ้าของบ้านพักแนะนำให้ไปกินขนมจีนน้ำเงี้ยวเชียงของ ที่ท่าผาถ่านค่ะ ชื่อร้านข้าวซอยน้ำเงี้ยวป้าจันทร์ ได้ยินมาว่า ที่นี่จะเรียน้ำเงี้ยวว่าข้าวซอย และเค้าจะกินกันเป็นเส้นคล้ายๆเส้นก๋วยเตี๋ยว กึ่งๆระหว่างเส้นเล็กและเส้นใหญ่ เป็นแป้งข้าว แล้วซอยเป็นเส้นๆ ก็เลยเรียกว่าข้าวซอยอ่ะค่ะ
    แต่ว่า แต่ว่า เราชอบเส้นที่เป็นเส้นขนมเส้นเหมือนของเชียงใหม่มากกว่าอ่ะค่ะ ก็เลยสั่งแบบเส้นขนมจีน
    ร้านที่นี่ บรรยากาศดีมาก มองเห็นวิวท่าผาถ่าน ริมน้ำโขงด้วยค่ะ   อันนี้รูปหน้าร้าน ขออนุญาติแม่ค้าแล้วค่า

    อันนี้รูปวิวจากร้าน  แต่ด้วยความหิว เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปข้าวซอยน้ำเงี้ยวประจำเมืองเชียงของมาเลย หิวจัดเกิ๊น

    กินน้ำเงี้ยวเสร็จเราก็ปั่นจักรยานต่อ ตอนแรกกะจะปั่นไปถ่ายรูปสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แต่ว่าปั่นไปๆๆ แขนเริ่มไหม้ เลยไม่ไหวแร่ะ ไม่ไปต่อดีกว่า
    จากถนนใหญ่เราก็เลี้ยวรถวกกลับมายังถนนเลียบฝั่งโขงอีกครั้ง มาเจอจุดนี้พอดี "ท่าหาดไคร้" ค่ะ  
    ที่นี่กำลังมีการก่อสร้างถนนเลียบน้ำโขงยาวลงไปทางใต้ด้วย ดีเลยๆๆ

    บ้านหาดไคร้ เป็นเป็นหมู่บ้าน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียง ที่นี่มีชื่อเสียงทางด้านการจับปลาบึก ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    แต่ตอนนี้เค้าไม่จับปลาบึกจากแหล่งน้ำธรรมชาติเช่นจากน้ำโขง มากินกันแล้วนะคะ เค้าว่ากันว่า ปลาบึกที่นำมาทำอาหารเป็นปลาบึกเลี้ยงค่ะ

    วัดหาดไคร้ ที่อยู่ใกล้ๆกันค่ะ

    ท่าหาดไคร้ค่ะ พาหนะที่พาเรามาที่นี่ อิอิ

    เซลฟี่ตัวเองเป็นที่ระลึกหน่อย ไหนๆก็แบกขาตั้งกล้องมาละ

    เริ่มบ่ายแก่ๆ น้ำเงี้ยวที่กินไปตอน 11 โมง ย่อยหมดแล้ว ไปหาของกินต่อดีกว่า 555
    ทริปนี้มีแต่ถ่ายรูปเล่นและก็กินค่ะ
    ร้านต่อไปก็ร้านที่มีชื่ออีกร้านนึงของเชียงของค่ะ "ข้าวซอยป้าอ่อน" ข้าวซอยอีกแล้ว ฮ่าๆๆ แต่คราวนี้เป็นข้าวซอยแบบสิบสองปันนา
    ซึ่งจะไม่เหมือนข้าวซอยที่ใส่น้ำกะทิ ที่เรากินเป็นประจำที่เชียงใหม่นะคะ หน้าตาจะเป็นยังไง ไปดูกัน
    พิกัดร้านข้าวซอยป้าอ่อน จะอยู่ในซอยที่อยู่ตรงข้ามกับวัดพระแก้วนะคะ (คือบอกก่อนว่า เชียงของเป็นเมืองที่เล้กกกกกมากกก)
    ไม่หลงแน่นอนค่ะ เพราะวัดพระแก้วก็ตั้งอยู่บนถนนใหญ่ที่เป็นถนนหลักที่ผ่านกลางเมืองเชียงของเลย  
    ร้านป้าอ่อน นี้ก็เข้าซอยตรงข้ามวัดพระแก้วมาเรื่อยๆ ก็จะเจอสี่แยกเล็กๆ ร้านอยู่หัวมุมขวาด้านหน้าเลยค่ะ หน้าร้านจะมีหลักกิโลจำลองอันใหญ่ๆอยู่ด้วย

    นิดนึงคะ ร้านนี้เราขอเตือนว่า อย่าไปจอดรถบริเวณประตูทางเข้าร้านด้านขวามือนะคะ เพราะจุดนั้นมันมีรังแตนอยู่ค่ะ
    เราเอาจักรยานเข้าไปจอด จอดปุ๊บ เจอแตนต่อยปั๊บ เสี้ยววินาทีที่พี่เจ้าของร้านร้องเตือนว่าอย่ามามใกล้แถวนี้ เราก็ตอบพี่ไปว่า ไม่ทันแล้วล่ะค่ะ โดนซะแล้ว แป่ววววว พี่เค้าก็เอายาหม่องมาทาให่ค่ะ โชคดีที่เราโดนแล้วมันไม่มีเหล็กในฝัง และมันต่อยผ่านเสื้อด้วย และเราก็ไม่แพเ้พิษแตน เราก็แค่เจ็บๆบวมๆชาๆ  กินข้าวซอยสิบสองปันนาไปค่ะ  555  หน้าตาข้าวซอยเป็น แบบนี้นี่เอง

    หลังจากกินอิ่ม ก็ปั่นจักรยานไปยังจุดชมวิวจุดต่อไปค่ะ

    ท่าผาถ่านค่ะ ที่นี่สวยมาก บรรยากาศดีมากค่ะ มีผู้คน ทั้งนักท่องเที่ยว และคนพื้นที่มาเที่ยวเล่นพักผ่อน ปั่นจักรยาย ออกกำลังกายกันเยอะเลยค่ะ

    • โพสต์-5
    Ohmmy •  พฤศจิกายน 22 , 2558

    ถนนคนเดินเล็กๆน่ารักของเชียงของ

    ได้ข่าวว่าเย็นวันเสาร์เค้าจะมีถนนคนเดินกันค่ะ
    จริงๆก็ไม่เชิงเป็นถนนคนเดินเพราะไม่ได้ปิดถนนให้ขายของ รถยังแล่นบนถนนได้ตามปกติค่ะ แม่ค้า พ่อค้าจะมานั่งขายของกันริมฟุตบาทแทน
    ที่เป็ยแบบนี้เพราะเชียงของเป็นเมืองเล็กมากค่ะ ถนนสายหลักมีอยู่เส้นเดียว ถ้าปิดเส้นนี้ก็คือจะไม่มีทางให้รถวิ่งแล้ว
    เค้าก็เลยต้องมาขายของริมถนนแทนค่ะ
    ของที่ขายก็จะออกแนวตลาดสด พวกผัก ผลไม้ เนื้อสด ของป่า และพวกกับข้าวถุง อาหารพื้นเมืองทางเหนือ ของกินปิ้งย่าง อะไรเทือกนี้ มากกว่าของที่ระลึกนะคะ เราแทบหาร้านของทีระลึกไม่ได้เลย เจอร้านขายเสื้อพื้นเมืองอยู่แค่ร้านเดียว แต่ขนาดมีร้านเดียวเราก็ยังเสียเงินช๊อป ฮ่าๆๆๆ

    • โพสต์-6
    Ohmmy •  พฤศจิกายน 22 , 2558

    บ๊ายบาย เชียงของ

     

    เช้าวันอาทิตย์ วันนี้เราต้องนั่งรถกลับเชียงรายแล้ว หลังจากนั้นเพื่อนจะมารับจากสถานีขนส่งเชียงราย กลับสู่บ้านเกิดเชียงใหม่ค่า
    วันนี้พยายามตื่นเช้า แต่ก็ปาเข้าไปเจ็ดโมงกว่า หมอกที่หวังว่าจะได้เห็นก็ไม่ได้เห็นมากเท่าไหร่ แฮ่ๆ ตื่นเช้าไม่ไหวเจงๆๆ
    กินข้าวเช้าที่บ้านตำมิละ  ข้าวผัดสัปะรดทูน่าห่อไข่ คืออร่อยฟินมากกกก เสียดายที่เช้าวันแรกไปกินขนมปัง ควรจะสั่งข้าวตั้งแต่วันแรก 555

    ตอนเช้ายังมีเวลา เลยลงไปเดินเล่นถ่ายรูปอีกซักแป๊บก่อนเช็คเอ้าท์

    แอบส่องเรือท่องเที่ยวในน้ำโขง ที่มาจอดพักริมน้ำฝั่งไทย เห็นเค้าตื่นมากินข้าวเช้าด้วยบรรยากาศฟินๆบนเรือกัน อิจฉาเจงงงง  ส่วนใหญ่เห็นแต่คนต่างชาติ

    บรรยากาศยามเช้าฟินมาก

    ได้เวลาเช็คเอ้าท์แล้ว เพื่อที่จะไปยังท่ารถในตลาด เราเลือกที่จะแบกเป้เดินริมน้ำโขงไปค่ะ
    แต่คิดผิดไปนะ ถนนเส้นริมน้ำโขงอยู่ฝั่งตะวันออก คือร้อนมาก จะเป็นลม เป้บนหลังก็หนัก ไหนจะหอบขาตั้งกล้องอีก
    เราเลยปีนขึ้นเนินกลับมาเดินเส้นที่เป็นถนนใหญ่ ยังมีร่มเงาจากอาคารบังแดดบ้าง

    ผ่านไปรษณีย์ นึกขึ้นได้ว่าลืมส่งโปสการ์ดให้ตัวเองนะ แต่ไม่ทันแร่ะ

    เดินแบกเป้ แบกขาตั้งกล้อง เหนื่อยหอบ ร้อนแดดจะเป็นลม มากว่า 20 นาที ถึงจะถึงท่ารถที่ตลาด เอิ่มมม รู้งี้ยอมเสีย 40 บาท ซะก็ดี 555
    ถึงรถแล้วจ้าาาา กลับบ้านละน๊าาา  

    ระหว่างทางมีวิวทุ่นนาแห่งเมืองเชียงราย สวยงามมากเลยค่ะ นาข้าวเขียวขจี ลาไปด้วยภาพท้องนา ระหว่างทางกลับเชียงรายนะคะ

     

    บ๊ายบาย เชียงของ เจอกันใหม่เมื่อมีวาสนา

    • อรรถพล  น่าเที่ยวมาก 21 ธันวาคม 2558 02:20:30