ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
ดอยอินทนนท์ – อ่างกา เส้นทางท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) จ.เชียงใหม่
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  ตุลาคม 09 , 2556

    เมื่ออากาศหนาวๆ เริ่มจะมาเยือน เชื่อได้ว่าหลายๆ คนคงเริ่มจะวางแผนออกเดินทางไปสัมผัสอากาศหนาวกันบนยอดดอยกันแล้ว คราวนี้เราจะพาทุกคนไปกอดหมอกหนาวๆ กันที่ “ดอยอินทนนท์” จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบนดอยอินทนนท์แห่งนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับดอยอินทนนท์กันซักเล็กน้อยก่อนดีกว่า

    “ดอยอินทนนท์” เดิมใช้ชื่อว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” ทั้งสองชื่อนี้มีความหมายเดียวกันว่า “ดอยที่มีความใหญ่” เนื่องจากขนาดอันใหญ่โตของดอยอินทนนท์นั้นเอง ซึ่งคำว่า “หลวง” ในภาษาเหนือนั้นแปลว่า “ใหญ่” ส่วนคำว่า “อ่างกา” นั้นเป็นภาษาปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง) แปลว่า “ใหญ่” เหมือนกันนั่นเอง ปัจจุบันดอยอินทนนท์อยู่ในเขตความดูแลของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หลายอำเภอในเชียงใหม่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงลดหลั่นกัน บริเวณนี้และยอดดอยอินทนนท์จัดเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยอันยิ่งใหญ่ ซึ่งพาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฎาน พม่า และมาสิ้นสุดที่เทือกเขาทางภาคเหนือ และด้วยความสูงถึง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จึงทำให้สภาพภูมิประเทศบริเวณนี้มีอากาศที่หนาวเย็นและมีสภาพป่าที่หลากหลาย มีพืชพรรณนานาชนิด และด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว ซึ่งจะมีหมอกปกคลุมเกือบตลอดวัน ที่สำคัญการเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือ แม่คะนิ้ง ก็สามารถพบได้บ่อยครั้ง ดังนั้นดอยอินทนนท์จึงมีเสน่ห์อันน่าอัศจรรย์ที่ดึงดูดให้เหล่านักท่อง เที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย


    • โพสต์-2
    theTripPacker •  ตุลาคม 09 , 2556

    สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญนั้นเราเริ่มต้นกันที่จุดที่สูงที่สุดนั่นก็คือ บริเวณ “ยอดดอยอินทนนท์” นั่นเอง นอกจากการขึ้นมาสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นในจุดที่สูงสุดของประเทศไทยแล้ว บริเวณยอดดอยอินทนนท์ยังเป็นที่ตั้งของสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและยัง เป็นที่ประดิษฐาน “สถูปเจ้าอินทวิชยานนท์” เจ้าผู้ครองนคร เชียงใหม่องค์สุดท้ายซึ่งมีความรักและหวงแหนป่าไม้โดยเฉพาะบริเวณดอยหลวง แห่งนี้ ถึงกับมีรับสั่งว่า หากสิ้นพระชนม์ลงให้นำอัฐิบางส่วนของพระองค์ขึ้นไปสร้างสถูปบรรจุไว้บนดอย ดังนั้นไม่ว่าใครที่มีโอกาสขึ้นมาถึงบนยอดดอยอินทนนท์แล้วก็ต้องมาสักการะ ที่สถูปแห่งนี้ให้ได้ ที่บริเวณยอดดอยแห่งนี้มีผืนป่าดิบดึกดำบรรพ์อันกว้างใหญ่สมบูรณ์ปกคลุมอยู่ ซึ่งน้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้สัมผัสกับธรรมชาติอันแท้จริงของภูเขาแห่งนี้ แต่ก็อย่างเพิ่งน้อยใจกันไป เพราะถึงแม้เราจะไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญในการเดินป่า แต่ในบริเวณใกล้กันกับยอดดอยอินทนนท์ ก็มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่สำคัญรอเราอยู่

    ไม่ห่างจากบริเวณทางเดินขึ้นไปยังสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์มากนัก เราจะเห็นทางเข้า “เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา” เส้นทางนี้เป็นสะพานไม้มีความยาวประมาณ 360 เมตร ซึ่งจะใช้เวลาเดินทั้งหมดไม่เกิน 30 นาที ความมหัศจรรย์ของสภาพป่าบริเวณนี้มีความน่าสนใจมาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางถึง 2,500 เมตร และด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีทำให้ระบบนิเวศในบริเวณนี้มีความแตก ต่างออกไปจากพื้นที่อื่นในประเทศไทย โดยเฉพาะบางจุดที่มีลักษณะเป็นป่าดิบเขตอบอุ่น บางแห่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าพรุ มีพรรณไม้หายากหลายชนิด ที่สำคัญยังมีทัศนียภาพที่สวยแปลกตาจนสามารถกล่าวได้ว่าป่าแห่งนี้เป็นป่า ที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพียงแค่เดินลงมาจากทางเดินที่เชื่อมต่อกับถนนใหญ่เพียงเล็กน้อยเราก็จะ เริ่มเข้าสู่เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ซึ่งความมหัศจรรย์ของภาพที่เห็นทำให้เราตกตะลึงไปกับผืนป่าที่ถูกปกคลุมไป ด้วยมอสอย่างหนาแน่น ราวกับได้หลงเข้าไปอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์ก็ไม่ปาน ยิ่งตลอดทางเดินเราจะพบเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุนับร้อยปียืนต้นอยู่ท่าม กลางเศษซากไม้ที่ไม่ค่อยผุสลายตัวที่ทับถมกันอยู่บนดิน ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์ของพืชต้นเล็กๆ อย่างมอส “ข้าวตอกฤาษี” ที่พบเห็นได้ยาก รวมถึง "ต้นกุหลาบพันปี" ชนิดที่มีดอกสีแดงที่จะพบขึ้นอยู่บนดอยอินทนนท์แห่งเดียวเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเพียงระยะทางสั้นๆ แต่ทุกย่างก้าวเราก็ได้รับรู้ถึงความอัศจรรย์ของธรรมชาติได้เต็มเปี่ยม

    • โพสต์-3
    theTripPacker •  ตุลาคม 09, 2556
    • โพสต์-4
    theTripPacker •  ตุลาคม 09 , 2556

    ออกจากเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติแล้ว เราก็เดินทางลงจากยอดดอยไปแวะสักการะ “พระมหาธาตุเจดีย์” กันที่หลักกิโลเมตรที่ 41.5 ซึ่งพระมหาธาตุเจดีย์แห่งนี้เป็นพระธาตุที่ทางกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทยร่วมใจสร้างขึ้น โดย “พระมหาธาตุนภเมทนีดล” สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา เมื่อปี พ.ศ.2530 และ “พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ” สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา เมื่อปี พ.ศ.2535 ที่บริเวณ “ยอดปลี” ของพระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง 2 องค์นี้ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชาไว้จำนวนมาก บริเวณพื้นที่โดยรอบพระมหาธาตุเจดีย์ถูกจัดเป็นสวนพรรณไม้หลากหลายชนิดที่ ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ประกอบกับบริเวณนี้อยู่ในที่สูงจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้ อย่างสวยงาม หลังจากที่ได้สักการะพระพุทธรูปปางประทานพรและพระพุทธรูปปางรำพึงภายในองค์ พระมหาธาตุเจดีย์เรียบร้อยแล้ว บรรดานักท่องเที่ยวนิยมที่จะเดินเล่นถ่ายภาพไม้ดอกเมืองหนาวสวยๆ ไปรอบๆ บริเวณ ซึ่งเราก็ไม่พลาดโอกาสนี้เช่นกัน


    • โพสต์-5
    theTripPacker •  ตุลาคม 09, 2556
    • โพสต์-6
    theTripPacker •  ตุลาคม 09 , 2556

    สำหรับเส้นทางการท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์นั้นยังมีเส้นทางและสถานที่ที่น่า สนใจอีกมากมายหลายแห่ง ซึ่งเราเชื่อเหลือเกินว่าต่อให้ไปมาแล้วอีกซักกี่ครั้ง เสน่ห์ของดอยอินทนนท์ก็คงจะยังดึงดูดให้เรากลับไปเยี่ยมเยือนให้ได้อีกบ่อยๆ ไม่ว่าจะด้วยอากาศที่หนาวเย็น ความอัศจรรย์ของธรรมชาติในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ หรือแม้กระทั่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เป็นต้น ยังเหลือที่เที่ยวอีกมากมายที่เรายังไม่มีโอกาสได้แวะเวียนไป แต่คงต้องขอเก็บเอาไว้เป็นการเดินทางในคราวต่อๆ ไปแล้วล่ะ ว่าแต่ฤดูหนาวปีนี้คุณเริ่มวางแผนจะไปเที่ยวดอยอินทนนท์กันแล้วรึยังครับ

    • โพสต์-7
    theTripPacker •  ตุลาคม 09 , 2556

    Note

    - บริเวณยอดดอยอินทนนท์มีอากาศที่หนาวเย็น และมีหมอกปกคลุมมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว การขับขี่ควรใช้ความระมัดระวัง

    - เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา มีความชื้นมาก ทางเดินบนสะพานมีความลื่นควรใช้ความระมัดระวังในการเดิน

    - การเข้าชมพระมหาธาตุเจดีย์ จะต้องเสียค่าผ่านประตูผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 10 บาท ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

    - สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053-286728, 053-286729

    • โพสต์-8
    theTripPacker •  ตุลาคม 09, 2556

    ความคิดเห็นของผู้เขียน

    • จุดเด่น:
    • ดอยอินทนนท์ มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก รวมถึงมีพืชพรรณหายยากหลายชนิดที่สามารถพบเห็นได้ที่นี่เท่านั้น จึงทำให้ดอยอินทนนท์แห่งนี้เป็นดังสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ อีกทั้งถนนที่ใช้ในการเดินทางก็เป็นถนนลาดยางทำให้เดินทางได้สะดวก
    • จุดด้อย:
    • เรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดต่างๆ บนดอยอินทนนท์นั้น ถ้าหากไม่มีรถส่วนตัวคงจะไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร เนื่องจากมีรถสองแถว หรือรถตู้รับส่งเฉพาะจุดเท่านั้น ถ้าหากต้องการออกนอกเส้นทางหรือต้องการแวะตามสถานที่ต่างๆ ตามใจคงต้องเหมารถทั้งคัน ซึ่งมักจะมีราคาแพง
    • ข้อสรุป:
    • ดอยอินทนนทน์มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลายแห่ง โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นอกจากการเดินทางมาเที่ยวในฤดูหนาวแล้ว ในฤดูกาลอื่นๆ ดอยอินทนนท์ก็มีความสวยงามที่ต่างกันออกไป และด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่บริเวณนี้ จึงทำให้เราสามารถพบเห็นพืชพรรณแปลกตามากมาย รวมถึงนกนานาชนิดที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ทำให้กิจกรรมดูนกของที่นี่เป็นที่นิยมมากอีกแห่งหนึ่ง
    คะแนน
    • โพสต์-9
    theTripPacker •  ตุลาคม 09 , 2556

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : 19 หมู่7 ตำบลบ้านหลวง อำเภจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160

    GPS :

    - ยอดดอยอินทนนท์ 18.589033, 98.486867

    - เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา 18.588317, 98.486150

    - พระมหาธาตุเจดีย์ 18.552617, 98.480100

    เบอร์ติดต่อ : 053-286728, 053-286729 แฟกซ์ : 053-286727

    Website :

    - อุทยานแห่งชาติดดอยอินทนนท์ -  http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1006

    - พระมหาธาตุเจดีย์ - http://www.rtaf.mi.th/rtaf-travel/jd.htm

    Facebook : http://th-th.facebook.com/doiinthanon

    เวลาทำการ : พระมหาธาตุเจดีย์ 7.00-17.00 น.

    ค่าธรรมเนียม :

    ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

    - คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

    - ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

    - รถยนต์ 30 บาท

    ค่าธรรมเนียมเข้าชมพระมหาธาตุเจดีย์

    - ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 10 บาท

    ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี

    ไฮไลท์ : ยอดดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่ความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง / เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา และพระมหาธาตุเจดีย์

    กิจกรรม : ชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ / ถ่ายภาพ / สักการะพระมหาธาตุเจดีย์

    • โพสต์-10
    theTripPacker •  ตุลาคม 09 , 2556

    วิธีการเดินทาง

    โดยรถยนต์ส่วนตัว
    ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ถึงยอดดอยอินทนนท์ประมาณ106 กิโลเมตรจากตัวเมืองเชียงใหม่โดยทางหลวงหมายเลข108 (เชียงใหม่-จอมทอง) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 57 ก่อนถึงอำเภอจอมทอง 1 กิโลเมตรให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข1009 (จอมทอง-อินทนนท์) ผ่านด่านที่ 1 (ด่านเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์) เข้าเขตอุทยานแห่งชาติแล้วสามารถแวะเที่ยวตามสถานที่น่าสนใจต่างๆ ได้ เส้นทางบนดอยอินทนนท์เป็นถนนลาดยางอย่างดีแต่มีทางโค้งมากและค่อนข้างสูงชัน รถที่นำขึ้นไปควรมีสภาพและกำลังรถที่ดี


    รถโดยสารประจำทาง
    นั่งรถสองแถวสายเชียงใหม่-จอมทองบริเวณประตูเชียงใหม่ จากนั้นมาต่อรถสองแถวที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารหรือที่น้ำตกแม่กลาง ซึ่งจะเป็นรถโดยสารประจำทางไปจนถึงที่ทำการอุทยานฯ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 31 และหมู่บ้านใกล้เคียง แต่หากต้องการจะไปแวะยังจุดต่างๆต้องเช่ารถเหมาคัน

    นอกจากนี้ที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารยังมีรถตู้บริการ ค่าโดยสารคนละ 140 บาท (ซึ่งจะพาแวะตามจุดท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ เช่น พระมหาธาตุเจดีย์ ยอดดอยอินทนนท์ เป็นต้น) แต่ถ้าต้องการเช่าเหมาคันคิดราคา 1,500 บาท

  1. โหลดเพิ่ม