จะดีแค่ไหน ถ้าหากวันหยุดพักผ่อนของคุณเป็นวันที่คุณสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง แล้วจะมีโรงแรมซักกี่แห่งในเมืองไทยที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้เลือก ทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่เวลาเช็คอิน-เช็คเอ้าท์ ที่เราสามารถเลือกเวลาใดก็ได้ตามแต่ความสะดวกของแต่ละคน เกริ่นมาแค่นี้ก็คงทำให้หลายๆ คนรู้สึกสนใจขึ้นมาแล้วล่ะซิ ถ้าอย่างนั้นเราไปทำความรู้จักโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่อย่าง “U Chiang Mai” กันเลยดีกว่า
U Chiang Mai ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน บอกชื่อถนนนี้ไปคงน้อยคงนักที่จะรู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเป็น “ถนนคนเดินวันอาทิตย์ ” เชื่อ ว่าทุกคนคงร้องอ๋อในทันทีแน่ๆ ทันทีที่ก้าวผ่านกำแพงเข้าสู่บริเวณล็อบบี้ด้านใน เราก็จะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบแตกต่างจากความวุ่นวายด้านนอกอย่างสิ้นเชิง และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า จุดเด่นหนึ่งของโรงแรม U Chiang Mai คือ เราสามารถเลือกโปรแกรมต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง เริ่มต้นกันตั้งแต่ เวลาในการเช็คอินที่เราสามารถเข้าเช็คอินเวลาใดก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเช็คเอ้าท์ในเวลาเดียวกันในวันถัดไป เมื่อเราทำการเช็คอินเข้าโรงแรมแล้ว สิ่งต่อไปที่เราจะได้เลือกก็คือ หมอนหนุนในห้องพัก มินิบาร์เครื่องดื่ม ชา สบู่ เพลงสำหรับเครื่องเล่น iPod ในห้องพัก ซึ่งเราสามารถเลือกสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ตามความต้องการเพียงแค่แจ้งกับพนักงานล่วงหน้า แล้วทุกสิ่งที่คุณเลือกก็จะพร้อมสรรพอยู่ในห้องพัก สำหรับห้องพักใน U Chiang Mai นั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ ห้องดีลักซ์ และห้องสุพีเรีย รวมทั้งหมด 41 ห้อง ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะมองเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ส่วนกลางของโรงแรมได้ชัดเจน
ภายในห้องพักทุกห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อรองรับการพักผ่อนสุดสบายของเราได้เป็นอย่างดี หลังจากที่พนักงานพาเรามาส่งที่ห้องพักและแนะนำการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือเราอยากจะได้อะไรเพิ่มเติมขอให้แจ้งให้ทางโรงแรมทราบ รับรองได้เลยว่าพนักงานทุกคนยินดีให้บริการทันที นอกจากน้ำดื่มในห้องพักที่มีให้บริการปกติแล้ว มินิบาร์เครื่องดื่มในตู้เย็นของห้องพัก เราสามารถเลือกเครื่องดื่มอะไรก็ได้หนึ่งอย่างแบบฟรีๆ จัดว่าเป็น Welcome Drink ที่เราเลือกได้เองตามความชอบเพราะเค้ามีตั้งแต่น้ำแร่ไปจนถึงเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ สำหรับอาหารเช้านั้นก็ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากที่ทางโรงแรมจะมีบริการแบบบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหารกิน ตาม เวลาปกติแล้ว ทางโรงแรมยังเปิดโอกาสให้เราได้มีโอกาสเลือกเวลาอาหารเช้าของเราเอง นับว่าถูกใจเราแบบสุดๆ เพราะเราไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้าในวันหยุดพักผ่อนแสนสบายเพื่อมากินอาหารเช้า ให้ทันเวลา แบบนี้เราจึงสามารถหลับได้อย่างเต็มอิ่ม ตื่นเมื่อไหร่ก็ได้กินอาหารเช้าเมื่อนั้น นอกจากจะเลือกเวลาเสิร์ฟอาหารเช้าช่วงใดของวันก็ได้แล้ว เรายังสามารถเลือกสถานที่ในการกินได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในห้องพัก ริมสระว่ายน้ำ ในห้องอาหาร หรือแม้กระทั่งในบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมก็ได้ ขอเพียงแค่บอกมาทางโรงแรมก็ยินดีบริการให้ทุกที่ ที่สำคัญอาหารเช้านั้นก็มีให้เลือกมากมายหลายชุด ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้าแบบสากล ทั้งขนมปัง ไข่ดาว ไข่คน ไส้กรอก ไปจนถึงอาหารเช้าแบบคนเมือง เก๋ใช่มั้ยล่ะ?
นอกจากนี้ภายในโรงแรมยังมีบริการสปาบนอาคารไม้หลังเก่า ซึ่งด้านล่างก็คือส่วนของล็อบบี้นั่นเอง บนชั้น 2 นั้นจะถูกแบ่งเป็นส่วนของสปา และห้องสมุด ซึ่งอาคารไม้อันเก่าแก่หลังนี้เป็นจวนผู้ว่าฯเก่า มาก่อน ซึ่งได้ถูกตกแต่งให้มีความทันสมัยมากขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์ ของศิลปะวัฒนธรรมของชาวล้านนาไว้ และสำหรับใครที่ชอบการออกกำลังกายก็สามารถใช้บริการห้องฟิตเนสที่อยู่ใกล้ กับล็อบบี้ได้ หรือถ้าอยากออกกำลังกายไปด้วยเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่ไปด้วย เราขอแนะนำให้ลองใช้บริการทัวร์ทางวัฒนธรรมโดยรถถีบสองล้อของทางโรงแรม ซึ่งเราจะได้ปั่นจักรยานไปรอบๆ เมืองพร้อมกับฟังคำบรรยายเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ที่อยู่บนเส้นทาง แต่ถ้าใครอยากไปด้วยตัวเองทางโรงแรมก็มีจักรยานไว้บริการฟรีตลอดเวลาเช่นกัน
แล้วก็มาถึงเรื่องอาหารการกินในโรงแรมที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เด็ดขาด เพราะห้องอาหาร “Eat” ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงแรมนั่น มีบริการอาหารนานาชาติตลอดทั้งวัน และแน่นอนเราก็มีเมนูแนะนำของห้องอาหาร “Eat” มาฝากด้วย เริ่มกันที่ “ข้าวซอยไก่” ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางโรงแรม ด้วยน้ำแกงข้าวซอยที่เข้มข้นและเนื้อไก่นุ่มๆ พอดีคำ เมื่อมาเชียงใหม่แล้วต้องอย่าพลาดชิมข้าวซอยให้ได้ แต่ถ้าใครอยากลองอาหารฟิวชั่นหน้าตาเก๋ๆ อย่าง “เฟสตูชินี่ไส้อั่วซอสครีมเห็ด” ก็ขอให้ได้ลองเลย เพราะไม่น่าเชื่อเลยว่า ไส้อั่วของเมืองเหนือจะเข้ากันได้ดีกับครีมซอสข้นๆ แถมรสเผ็ดอ่อนๆ ของไส้อั่วยังช่วยตัดเลี่ยนได้อีกด้วย สำหรับอาหารสองเมนูนี้ต้องบอกว่าไม่อยากให้พลาด สำหรับเมนูอื่นๆ ก็มีให้เลือกอีกไม่น้อย แต่คราวนี้เราขอพาทุกคนแวะขึ้นไปที่บริเวณชั้น 2 ของห้องอาหารก่อนดีกว่า ซึ่งด้านบนนี้เป็นบาร์เครื่องดื่มชื่อว่า “Drink” ซึ่งจะเปิดบริการเครื่องดื่มทุกชนิดตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงค่ำๆ ลองสั่งเครื่องดื่มเด่นๆ ของที่นี่อย่าง “U Delight” ค็อกเทลสีแดงสดใส เพิ่มความกระชุ่มกระชวยได้ดีทีเดียว และสำหรับผู้ที่ไม่พิศมัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังมี “Pine apple and banana smoothie” แก้วอร่อยที่หอมหวานกลมกล่อมมากๆ ยิ่งถ้ามาที่บาร์ “Drink” ช่วง เย็นวันอาทิตย์แล้วล่ะก็ เราก็จะได้จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ไปพร้อมกับการนั่งชมวิวถนนคนเดินด้านล่างอย่างใกล้ชิด เรียกว่าใกล้จุดช็อปปิ้งสำคัญของเมืองเชียงใหม่แบบสุดๆ รับรองว่าถูกใจคุณสาวๆ แน่นอน
สำหรับ U Chiang Mai แล้ว เราขอยกความดีให้ในเรื่องของการบริการที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเองแบบที่สุด เพราะเราจะรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่อย่างไม่เคอะเขิน ดังนั้นการพักผ่อนในวันหยุดสุดพิเศษของเราจึงเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย สบายใจ และได้ชาร์ตพลังพร้อมกลับไปลุยงานต่ออีกครั้ง ถ้าหากว่าได้มีโอกาสหยุดพักผ่อนครั้งใด เชื่อเราเถอะว่า ถ้ามาที่ U Chiang Mai แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง เพราะที่นี่คุณสามารถเลือกอะไรก็ได้ตามใจคุณจริงๆ
- เมื่อเช็คอินแล้ว ลูกค้าทุกคนจะได้เลือกกลิ่นสบู่ที่จะใช้ในห้อง ซึ่งมีให้เลือกถึง 4 กลิ่นด้วยกัน นอกจากนี้ยังสามารถ เลือกชนิดของหมอนหนุน เพลงที่เล่น กับเครื่อง iPod ในห้องพักได้อีกด้วย
- U Chiang Mai จัดเป็นโรงแรมแห่งแรกที่ให้บริการห้องพัก 24 ชั่วโมง โดยที่ลูกค้าสามารถเลือกเวลาเช็คอินได้ และ เช็คเอ้าท์ในเวลาเดียวกันในวันถัดไป
- ที่สำคัญลูกค้าทุกคนสามารถเลือกเวลาอาหารเช้าของตัวเองได้ และเลือก สถานที่เสิร์ฟที่ใดก็ได้ในโรงแรม
- ห้องอาหาร “Eat” เปิดบริการตั้งแต่ 6.00-23.30 น. ส่วนบาร์ “Drink” เปิดบริการตั้งแต่ 9.00-24.00 น.
- รายได้ส่วนหนึ่งจากการเข้าพักของแขกทุกห้อง ทางโรงแรมจะจัดสรรไปเป็นเงินบริจาค และนำไปมอบให้กับสถานสงเคราะห์กำพร้าและอนาถา ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ บ้านกิ่งแก้ววิบูลสันติ ปีละ 2 ครั้ง
