ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
นั่งเรือ ชมวิว นอนแพ 3 วัน 2 คืน ณ “เขื่อนรัชชประภา” แสงสว่างแห่งราชอาณาจักรใต้ แพคีรีวาริน เขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี
    • โพสต์-1
    Namee •  พฤษภาคม 02 , 2559

    นั่งเรือ ชมวิว นอนแพ 3 วัน 2 คืน ณ “เขื่อนรัชชประภา”

    หากให้พูดถึงสถานที่เที่ยวยอดนิยมแดนใต้  ที่ใครๆ ก็พูดถึงและพากันไปเที่ยว
    ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง กุ้ยหลินเมืองไทย ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
    ที่ประกอบด้วยยอดเขาหินปูนที่โผล่เหนือทะเลสาบน้ำจืดแห่งนี้อยู่มากมาย 
    หากไม่ได้ไปเที่ยวคงถือว่าพลาดเป็นอย่างมาก

     

    ทริปนี้พวกเราวางแผนเที่ยวเขื่อนรัชชประภา หรือชื่อเรียกที่คุ้นหูกันว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน
    เป็นทริปที่จองกันไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นการวางแผนเที่ยวที่ยาวนานที่สุดก็กว่าได้

     

    ด้วยการจองตั๋วเครื่องบินช่วงโปรโมชั่นทิ้งไว้
    พร้อมไปหาซื้อแพ็คเกจเที่ยวจากงาน “ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 37” เน้นเที่ยวช่วงหน้าร้อน

    ปล. หากใครจองตั๋วเครื่องบินก่อนซื้อแพ็คเกจเที่ยวอยากจะขอแนะนำว่า
    หากเลือกโปรแกรมเที่ยวที่เขื่อนรัชชประภา 1 คืน + สถานที่พักอื่นๆ 1 คืน เช่น กระบี่ หรือที่อื่นๆ
    ตามแพ็คเกจ ขาไปให้จองตั๋วลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานี ส่วนขากลับจองตั๋วขึ้นที่สนามบินกระบี่
    เพราะพวกเราพลาดมาแล้ว จะเลือกโปรแกรมเที่ยวแบบเขื่อนรัชชประภา + กระบี่ 
    แต่ด้วยเที่ยวบินที่จองไว้ไป-กลับสุราษฏร์ธานี เลยต้องนั่งกินห้าวจดจำมาจนถึงทุกวันนี้

     

    พวกเราหาอ่านข้อมูลรีวิวอยู่หลายแพ โดยเน้นที่วิวสวย ทำเลดี ราคาไม่แพงเกินไปจนต้องมานั่งกินแกลบ
    จึงเลือกซื้อแพ็คเกจของ  “แพคีรีวาริน”  อยู่ที่ระดับ 4 ดาว และอื่นๆ ก็เป็นไปตามที่ต้องการ

     

    ราคาแพ็คเกจ อยู่ที่ 4,600 บาท/คน จำนวน 3 วัน 2 คืน
    ในแพ็คเกจที่ซื้อไว้รวมบริการรับส่งไป-กลับ สนามบิน-ท่าเรือ 
    บริการเรือรับส่งไป-กลับ ท่าเรือ-แพ  พร้อมอาหาร 6 มื้อ

     

    เลือกห้องพักแบบ Deluxe Family Room ชั้นบน (พักได้ 4 คน)
    หากซื้อแพ็คเกจเป็นห้องชั้นล่าง เพิ่มอีกคนละ 400 บาท (ซื้อที่แพเพิ่มเงินแพงกว่า)
    พวกเราไม่ได้ซื้อเพิ่มเพราะถึงจะเป็นบ้านหลังเดียวกันแต่ทางขึ้นอยู่ด้านนอก ห้องน้ำคนละส่วนกัน
    แต่จะไม่ดีตรงที่ไม่มีพื้นที่ให้โดนน้ำตรงหน้าบ้าน แต่ก็มีลานรวมให้บริการอยู่
    แต่ถ้าซื้อห้องพักแบบชั้นล่างไว้ก็คุ้มนะ เพราะถ้าไปซื้อที่แพจะราคาแพงกว่าแพ็คเกจ
    รวมถึงแพ็คเกจเที่ยวถ้ำด้วยซื้อที่งานจะถูกกว่านะจ๊ะ

     

    เพราะพวกเราพลาดมาแล้ว คิดว่าเดี๋ยววันไปจริงๆ ไปหาเพื่อนรวมทริปเที่ยวถ้ำเอาข้างหน้า
    ยิ่งหาเพื่อนได้เยอะตัวหารเพิ่ม ราคายิ่งถูก พอเอาเข้าจริงๆ หาคนไปรวมทริปยากอยู่นะ เพราะส่วนใหญ่
    มาเป็นหมู่คณะกัน แต่บริการที่แพนี้ดีมากๆ ถ้าเราแจ้งเจ้าหน้าเอาไว้เขาจะช่วยหาให้เวลามีนักท่องเที่ยว
    มาเข้าพัก หรือถ้าใครอยากเที่ยวถ้ำ หรือแพ็คเกจอื่นๆ เสริม แบบเป็นส่วน ราคาเหมาเรืออยู่ที่ 3,600 บาท

     

    เฉพาะนั้นหากต้องการแพ็คเกจเสริมแนะนำให้ซื้อที่งานไปเลยจะถูกกว่าไปซื้อที่แพ
    ไม่ว่าจะเป็นราคาแพ็คเกจเสริม ห้องพัก และอื่นๆ ราคาจะแพงกว่า

     

    ปล. โปรแกรมเที่ยวมีให้เลือกหลายแพ็คเกจ + สถานที่พักอื่นๆ ร่วมด้วย ราคาแตกต่างกันไป แต่พวกเราเลือกที่นี่ทั้ง 2 คืนเลย เพราะเป็นช่วงเดือนเมษาหน้าร้อนพอดี จะไปเที่ยวทะเลด้วยก็คงร้อน  จะไปเที่ยวภูผาและลำธาร รีสอร์ท ก็คงจะไม่มีหมอกให้เห็นแน่ๆ

     

    โปรแกรมเที่ยวแพคีรีวาริน  http://www.keereewarin.com/packet.html

                                                http://www.siamcat-chiewlarntours.com/packages-kt_cl11.html

                                                https://www.facebook.com/keereewarin.chiewlarn

     

    แผนที่เขื่อนรัชชประภา

    แหล่งที่มา : www.chillpainai.com

    • โพสต์-2
    Namee •  พฤษภาคม 02 , 2559

    ล่องเรือชมทะเลสาบ เก็บภาพบรรยากาศ ณ “เขาสามเกลอ”

     

    ก่อนขึ้นเรือพวกเราพอมีเวลาเลยตัดสินใจไปเที่ยวจุดชมวิวบนสันเขื่อนกันก่อน

    มาถึง ณ จุดนี้ตอน 10 โมงกว่าๆ ในเวลานี้ไม่ต้องพูดถึงหมอกนะจ๊ะ ไม่มีให้เห็น


    ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศบนสันเขื่อนกันไปก่อนถึงเวลานัดหมาย

     

    เวลานัดหมายในการขึ้นเรือนั้น พวกเราได้เที่ยวขึ้นเรือตอน 11 โมง

    โดยเจ้าหน้าที่ขับรถพาพวกเรามาส่งที่ท่าเรือท่องเที่ยว พร้อมด้วยมีเจ้าหน้าที่ของแพมารอรับขึ้นเรือ

     (ค่าบริการต่างๆ รวมอยู่ในแพ็คเกจหมดแล้ว)

     

    ที่ท่าเรือมีลานฝากรถและลงทะเทียนสำหรับคนที่นำรถส่วนตัวมา ราคาต่างกันไปแล้วแต่ประเภทของรถ

    มีร้านอาหารให้บริการอยู่หากใครยังไม่ได้ทานข้าวเช้ากันมาใช้บริการได้

    แต่พวกเราทานกันที่อื่นมาเรียบร้อยแล้ว

     

    ระหว่างรอเรือมาก็ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ

     

    เมื่อเรือน้อยออกจากฝั่ง โดยรวมแล้วใช้เวลาในการนั่งเรือ ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงกว่า เนื่องจากแพคีรีวารินอยู่ค่อนข้างไกลจึงใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าในการเดินเรือ บวกกับพาพวกเรานั่งเรือชิลๆ ชมทะเลสาบ ชมเขาสามเกลอด้วย

    ตามนั้น...

     

    ก็ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันไป เพราะขากลับ เรือจะแล่นตรงสู่ท่าเรืออย่างเดียว

    ไม่พาเราอ้อมโลกชมวิวเหมือนขาไปแล้วนะจ๊ะ  

    นั่งเรือนานกว่าแพอื่นๆ ก็อย่าลืมกันบรรยากาศให้ครบทุกมุม ไม่งั้นคุณจะพลาด

     

    ณ เขาสามเกลอ จุดถ่ายภาพที่ทุกคนไม่ควรพลาด

     

    • โพสต์-3
    Namee •  พฤษภาคม 02 , 2559

    นอนแพ ณ แพคีรีวาริน

    พวกเราถึงแพกันตอนบ่ายโมงกว่า ทำการเช็คอินเข้าที่พัก

    และทางแพจะแจ้งให้ผู้ที่พึ่งเข้าพักทราบถึงกิจกรรมสำหรับ 2  กิจกรรม ด้วยกันคือ

    1. เย็นของวันแรกที่เข้าพัก เวลา 17.45 น. ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก

    2. เช้าของวันที่สอง เวลา 06.30 น. ล่องเรือชมทะเลหมอก (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยนะจ๊ะ)

     

    แพคีรีวาริน ตั้งอยู่บริเวณคลองหวาง พร้อมด้วยวิมานหรูบนผิวน้ำ ที่กลมกลืนและใกล้ชิดกับธรรมชาติ

    สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกบริเวณด้านหน้ารีสอร์ทได้

    พร้อมด้วยกิจกรรมสัมผัสธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ว่ายน้ำ พายเรือคายัค ส่องสัตว์

    หรือจะนั่งคุยกับเพื่อนๆ แบบชิลท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย รอบล้อมด้วยสายน้ำและภูเขามองออกไปแล้วทำให้รู้สึกสบายตาและสบายใจเป็นอย่างมาก

     

     

    แล้วพวกเราก็ได้สัมผัสกับอาหารมื้อแรกที่ทางแพได้จัดไว้ให้ยามบ่ายแก่ๆ

    อาหารในแต่ละมื้อจะมีอยู่ 5 อย่างด้วยกัน เน้นไปทางอาหารภาคกลางมากกว่าภาคใต้

    (อาหารสามารถขอเติมได้เป็นบางอย่าง และบางอย่างอาจต้องเพิ่มเงิน หากยังกินกันไม่หนำใจพอ)

    ----------------------------------------------

    ** ในส่วนเรื่องของการบริหารจัดการเรื่องโต๊ะอาหาร จะจัดไว้เป็นกรุ๊ปใครกรุ๊ปมันไม่นั่งปนกัน

    มีชื่อตั้งไว้ที่โต๊ะทุกโต๊ะ และที่ประทับใจที่สุดคือ บริการ ให้ 5 ดาวค่ะ บริการของแพนี้ถือว่าเยี่ยมยอด

    เห็นโดนลูกค้าเจ้าอารมณ์วีนไป 3 ราย ก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี บริการดี และเป็นกันเองมาก

    ปล. เจ้าหน้าที่ให้บริการจะสับเปลี่ยนกันในแต่ละอาทิตย์ แต่ที่พวกเราเจอน่ารักทุกคน

     

    หลังจากเข้าสู่ที่พัก แต่ด้วยหน้าร้อนบรรยากาศยามบ่ายค่อนข้างร้อนมากถึงมากที่สุด  

    หากไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรยามว่างจะรู้สึกเบื่อ เฉพาะนั้นอย่าลืมนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรม

    สำหรับแก้เหงามาด้วยนะจ๊ะ ที่สามารถเล่นในที่ร่มได้

     

    เป็นห้องพัดลมนะจ๊ะ ตามภาพดูที่พัดลมนะ ห้องรก ลืมถ่ายมุมนี้เอาไว้

     

    บรรยากาศด้านหน้า

     

    ส่วนบรรยากาศด้านนอกนั้นโดยรวมแล้วทางขึ้นชั้น 2 ห้องอาบน้ำ และห้องน้ำแยกกัน

    -----------------------------------

     

    ที่แพจะมีบริการเครื่องดื่ม และน้ำแข็ง แต่ราคาอาจจะแพงกว่า ก็ด้วยระยะทาง

    และการขนส่งที่ค่อนข้างลำบาก หากไม่พกกันมาเอง ก็ใช้บริการของแพ

    ยอมจ่ายหน่อยเพื่อแลกกับความมีชีวิตชีวา

    พกกันมาเอง ยกเว้นน้ำแข็ง กับ ถังน้ำแข็ง 

     

    หากอยากทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ทางแพมีให้บริการนั้น ในส่วนของอุปกรณ์ทุกอย่างบนแพหากจะนำไปใช้

    ต้องทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยนะจ๊ะ พร้อมจ่ายค่ามัดจำความเสียหาย

    หากใช้บริการเสร็จก็นำมาคืนพร้อมหลักฐานการมัดจำ ก็จะได้เงินมัดจำคืนเช่นกันจ๊ะ

    ไม่ว่าจะเป็น เรือคายัค ไม้พาย ถังน้ำแข็ง แก้วน้ำ เป็นต้น

    เช่ามาผูกไว้ที่บ้านพักของตัวเองได้

     

    ที่นี่ไม่มีบริการปลั๊กไฟภายในห้องพัก แต่จะมีปลั๊กให้บริการอยู่ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของอุปกรณ์ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ จะอยู่ที่ห้องอาหารมีให้บริการเพียงจุดเดียว

    จุดศูนย์รวมอุปกรณ์ไอที

     

    ภายในแพที่พักมีไฟฟ้าให้ใช้งานได้ทั้งคืน คือ ไฟ และ พัดลม ยกเว้นปลั๊กสำหรับชาร์ตอุปกรณ์ต่างๆ

    ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย เป็นสถานที่สำหรับมาพักผ่อนจริงๆ

    • โพสต์-4
    Namee •  พฤษภาคม 02 , 2559

    เล่นน้ำ นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตก

    ชีวิตอยู่กับการเล่นน้ำจริงๆ เช้าเล่นน้ำ  เย็นเล่นน้ำ และก็พายเรือคายัค

    -----------------------

    เล่นกันไม่กลัวดำ เพราะมีความดำเป็นทุนเดิม

    ---------------------------------

     

    พอตกเย็นก็ไปทำกิจกรรมแรกที่ทางแพจัดไว้ให้ พร้อมเรือที่จัดเตรียมไว้สำหรับแต่ละกรุ๊ป

    (ไม่มีปัญหาเรื่องการแย่งเรือ แต่ส่วนเรื่องที่นั่งรึแค่อยากนั่งหน้าสุดเท่านั้นเอง 555++)

     

    ณ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน

     

    บรรยากาศยามเย็นของแพ

     

    พอตกดึกก็ทำกิจกรรมแก้เบื่อกันจ๊ะ

    พวกเราพกตัวต่อโดมิโน พร้อมด้วยของมึนเมา และขนมขบเขี้ยวกันมาแก้เหงา

    ซื้อจากฝั่งมาเลยจะดีมากเพราะราคาจะถูกกว่ามาซื้อที่แพ

    ช่วยได้เยอะ เพราะไม่มีทีวี ส่วนถ้าใครชอบรำพัดก็รำกันไปนะ พวกเรารำไม่เป็น

     

    • โพสต์-5
    Namee •  พฤษภาคม 02 , 2559

    นั่งเรือชมทะเลหมอก

    เช้าของวันที่ 2  เวลา 06.30 น. ออกไปล่องเรือชมทะเลหมอก

    (โชคดีที่เมื่อวานฝนตกแต่ตกที่อื่นนะ เช้าเลยพอมีหมอกให้ได้เห็นบ้าง)

     

    บรรยากาศเป็นไปตามภาพเลยจ๊ะ

     

    ชีวิตที่เหลือก็กินข้าว เล่นน้ำ ให้อาหารปลาตะเพียนหางแดง

    ----------------------

    • โพสต์-6
    Namee •  พฤษภาคม 02 , 2559

    เดินป่า ล่องแพ ชม "ถ้ำปะการัง"

    ช่วงทานข้าวเที่ยงของวันที่ 2 พวกเราได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ไว้เรื่องไปเที่ยวถ้ำปะการัง ซึ่งไปแบบส่วนตัว แต่ถ้าหากจะมีเพื่อนร่วมทริปไปด้วยก็ไม่มีปัญหา ก็นั่งรอนอนรอเรือกันจนถึงประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง เรือก็มา รวมถึงได้เพื่อนร่วมทริปเพิ่มอีก 2 คน ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ จากคนละ 800 กว่าบาท เหลือคนละ 600 กว่า ก็ถือว่าโอเคได้อยู่ แต่ถ้าหากซื้อแพ็คเกจเอาไว้อยู่ที่คนละ 400 บาท ประเด็นคือไม่ได้ซื้อไว้ จำเอาไว้ซื้อแบบไหนถูกกว่ากัน

     

    ออกจากแพที่พักด้วยเรือหางยาว ไปถึงจุดทางขึ้นไปถ้ำปะการัง ประมาณ 3 โมงกว่าๆ  ระยะเวลาในการนั่งเรือขึ้นอยู่กับระยะทางของแพที่พักด้วย แต่ก็ไม่น่าเกินประมาณ 20 – 30 นาที

     

    ที่นี่มีหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยถ้ำจันทร์เป็นผู้ดูแล และ ณ จุดนี้จะมีห้องน้ำให้บริการ และร้านค้าอยู่ 3 ร้าน ราคาน้ำดื่ม น้ำอัดลม อยู่ที่ขวดละ 25 บาท อย่าคิดว่าแพงราคาถูกกว่าที่แพเป็นอย่างมาก

    -----------------------------

     

    จากนั้นใช้เวลาในการเดินเท้า ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็เดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ โดยมีพี่ไกด์ของเราก็คือคนเดียวกันกับคนขับเรือ พี่แกความรู้แน่นเอียด พูดตลอดทาง เส้นทางการเดินตามภาพเลย จนมาถึงท่าแพไม้ไผ่ ประมาณ 4 โมงเย็น เรียกได้เป็นกลุ่มสุดท้ายของวันนั้น ที่ท่าแพมีบริการห้องน้ำ และร้านค้าเช่นกัน

     

    ต่อกันด้วยการนั่งรอต่อคิวขึ้นแพไม้ไผ่ข้ามฟาก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 - 15 นาที ในการข้ามฟาก

    แต่เวลาที่ใช้ในการต่อคิวแพไม้ไผ่นานยิ่งกว่า โชคดีที่พวกเรามาถึงเย็น รอแค่เพียง 2 คิว

    ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ส่วนพี่ที่มาจากแพเดียวกันมาถึงตอนบ่าย 2 โมง

    ได้ขึ้นแพไม้ไผ่ตอนที่พวกเรามาถึงท่าแพพอดี รอคิวกันนานถึง 2 ชั่วโมง เง้อออ

    พวกเราเรียกว่าโชคดีใช่มะ? โดยในแต่ละแพจะมีเจ้าหน้าอุทยานเป็นผู้ดูแลไปรับ-ไปส่ง

     

    ถึงทางเข้าปากถ้ำต้องเดินขึ้นไปไม่ไกลมาก ช่วงปิดเทอมหรือเสาร์อาทิตย์จะมีไกด์นำเที่ยวเป็นเด็กน้อยมาให้บริการ พร้อมไฟนีออนอาวุธประจำกายของแต่ละคน แต่พวกเราไม่ได้ใช้บริการเนื่องจากมีไกด์ส่วนตัวมาด้วย คริๆ

    มาพร้อมไฟฉายอุปกรณ์สำคัญที่ต้องใช้ในการเดินเข้าถ้ำ เพราะข้างในจะมืดมาก ระยะเวลาในการเดินชมภายในถ้ำ ไม่นานมาก ประมาณ 30 นาทีได้

     

    "ถ้ำปะการัง" เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ทางด้านทะเลใน 500 ไร่ สาเหตุที่เรียกถ้ำปะการัง 
    เนื่องจากการตกตะกอนของหินปูนจึงทำให้เกิดหินงอกหินย้อยที่ลักษณะคล้ายปะการังในทะเล
    และที่เป็นเช่นนั้นยังเป็นเพราะถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อน

    ณ จุดนี้ เป็นทางตันแล้ว และที่เห็นว่ามีเงินในตู้นั้น เพราะจากตำแหน่งที่ไฟฉายส่อง คือหินที่มีรูปร่างคล้ายพระพุทธรูป

     

    จากนั้นก็เดินทางกลับสู่ที่พัก อดเล่นน้ำเลยกลับมาถึง 6 โมงกว่า เกือบจะทุ่ม

     

    Go Go Go มุ่งหน้าสู่แพ หิวข้าวแล้ววว

    ขอขอบคุณไกด์สุดหล่อที่พาเที่ยว

     

    อาหารมื้อเย็นของพวกเรา อาหารอร่อย บริการดี

     

    เช้าของวันที่ 3 หลังจากทานมื้อเช้ากันเสร็จก็เตรียมตัวกลับ ซึ่งเรือจะออกตอนเวลา 9.30 โมง

    ถึงท่าเรือ 10.40 น.จากนั้นใช้เวลานั่งรถเพื่อไปสนามบิน ประมาณ 40 นาที จะมีเจ้าหน้าที่ขับรถมารอรับ

     

     เดินทางกลับอย่างสวัสดิภาพ

    -----------------------------------------

     

    ขอบคุณนะจ๊ะที่เข้ามาอ่าน มาดูภาพกัน หากผิดพลาดอะไรก็ต้องขออภัยด้วย

    By Namee Be Bear

    ขอฝากเพจน้องใหม่ของเจ้าของรีวิวด้วยนะจ๊ะ ถ้าชอบให้กดไลน์ ถ้าถูกใจช่วยกดแชร์

    Fanpage : https://www.facebook.com/KanXengStudio/