"นิมมารนรดี รีสอร์ท" เป็นรีสอร์ทแห่งเดียวในอ่าวปะการังที่อยู่ปลายของเกาะเสม็ด ทำให้รีสอร์ทนี้มีทะเลเป็นของตัวเองถึง 2 อ่าว บรรายากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน อีกความพิเศษของที่นี่คือลมและน้ำทะเลที่นี่ไม่ทำให้เหนียวตัว แต่ถ้าไม่อาบน้ำเลยยังไงตัวก็เหนียวนะคะ ^^
Welcome drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นชื่นใจ
บ้านพัก Style Octagon บ้านทรงแปดเหลี่ยมสีสันสดใส
รูปในห้องพักไม่ค่อยได้ถ่ายมา มัวแต่ตื่นเต้นกับห้องพักสวยๆ ห้องนี้เป็น Deluxe Cottage ห้องนอนและห้องน้ำกว้างมากๆ ห้องนอนโทนสีแดง เฟอร์นิเจอร์ไม้ มีทีวี มุมนั่งเล่นในห้อง ตู้เก็บของ ตู้เย็น เสื่อ โต๊ะเครื่องแป้ง เครื่องปรับอากาศเย็น ส่วนในห้องน้ำชอบตรงกระจกบานใหญ่ มีไดร์เป่าผมพร้อมใช้ เครื่องทำน้ำอุ่น shower gel และ hair conditioner
ภาระกิจสุดท้ายของวันนี้นั่นคือไปชมพระอาทิตย์ตก จุดชมพระอาทิตย์ตกอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ท แต่เนื่องด้วยเวลาอันจำกัด "คุณนุ" เจ้าของรีอร์ทจึงขับรถพาพวกเราไป พร้อมแนะนำเพิ่มด้วยว่าจุดชมพระอาทิตย์ตกมีสองมุมมอง พวกเราจึงแยกเป็น 2 ทีมแบ่งกันไปเก็บภาพทั้ง 2 มุมมอง
มุมนี้จะดูมีมิติ เห็นเนินเขาเข้ามาในเฟรมเล็กน้อย เรายืนดูพระอาทิตย์ค่อยๆ หายไปจากขอบฟ้า แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ ความสุขง่ายๆ ...แค่เปลี่ยนที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก ถึงแม้จะเป็นที่เดียวกัน แต่ลีลาของท้องฟ้าในแต่ละวันไม่ซ้ำกันแน่นอน เหมือนได้ดูงานศิลปะที่มีผู้จัดแสดงชื่อธรรมชาติ
หลังจากพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว เราเดินไปสบทมกับพี่ๆ อีกกลุ่ม
ถ้าดูพระอาทิตย์จากมุมนี้จะมองเห็นทะเลกว้างๆ ไม่มีอะไรมาบดบัง
พระอาทิตย์ตกไปแล้ว ทำไมยังไม่กลับกันนะ?
ก็เพราะว่า...ความสวยงามของท้องฟ้าไม่ได้อยู่ที่พระอาทิตย์อย่างเดียว แสง twilight หลังพระอาทิตย์ตกไปแล้วก็งดงามไม่แพ้กัน มานั่งดูท้องฟ้าเปลี่ยนสีกันดีกว่า...
แสงสีส้มอมน้ำเงินค่อยๆ หายไป แสงสีเขียวของเรือไดหมึกก็ชัดขึ้น ถ้าอยู่หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ควรมีไฟฉายเล็กๆ ติดไว้ด้วยนะคะ เพราะทางเดินกลับค่อนข้างมืด
เราคิดว่ากลางคืนบนเกาะเสม็ดจะเต็มไปด้วยแสงสี เสียงดนตรีและผู้คนออกมาปาร์ตี้กันริมทะเล คงจะเป็นอย่างนั้นถ้าเราไปอยู่หาดทรายแก้ว แต่ที่อ่าวปะการัง มีเสียงเพลงเบาๆ จากในส่วนที่เป็นร้านอาหาร แสงไฟในโทนสีสบายตาและแสงสีเขียวจากเรือไดหมึกไกลๆ ถ้าเดินไปริมชายหาดด้านตะวันออก จะได้กลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆ โชยตามลม ดอกสีขาวเล็กๆ จำชื่อไม่ได้ มื้อค่ำที่รีสอร์ทเป็นไปอย่างอิ่มเอม กินอร่อย นอนสบาย แค่นี้ก็เป็นสวรรค์เล็กๆ แล้วค่ะ
เมื่อคืนฝนตก เช้าวันนี้พระอาทิตย์จึงไม่มาให้เห็น การนอนเล่นรับลมทะเลยามเช้าบนเปลยวนก็เป็นสิ่งที่รื่นรมย์ ส่วนใครอยากทำบุญตักบาตรประมาณหกโมงครึ่งมีพระมาบิณฑบาตค่ะ
อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ไลน์อาหารไม่ได้ใหญ่อลังการ แต่คุณภาพแน่นหลากหลายรูปแบบ เมนูข้าว เมนูเส้น สลัด ABF ขนมปังปิ้ง pancake นม น้ำผลไม้ เมนูที่หลายคนโหวตให้ว่าโดนใจคือ ข้าวต้มหมู ผัดซีอิ้ว เราหลายใจแถมปอเปี๊ยะทอดให้อีกอย่าง
ยามเช้าที่เงียบสงบ เรารู้สึกได้ถึงการพักผ่อนจริงๆ มีหลายมุมให้เลือกนั่งปล่อยอารมณ์
ถ้าชอบทำกิจกรรมทางน้ำ ที่นี่มีกิจกรรมตกปลา ตกหมึก ดำน้ำตื้น พายเรือคายัค หรืออยากผ่อนคลายกล้ามเนื้อก็มีบริการนวดเพื่อสุขภาพ
พี่เจี๊ยบพาเราไปแวะที่หาดทรายแก้ว เป็นเกาะเสม็ดในแบบที่เราคิดไว้ ร้านขายของเยอะ นักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาตาถึงแม้จะเป็นวันธรรมดา
น้องหมาบนเกาะคิ้วหนาจัง
เกาะเสม็ด...เชื่อกันว่าเป็นเกาะแก้วพิสดารในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ จึงสามารถเจอรูปปั้นตัวละครในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีได้บนเกาะ
ท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด...