เขาช้างเผือก พิสูจน์ความกล้า ท้าความเสียว เที่ยวสไตล์นักผจญภัย
ในปัจจุบันนี้ ช่องทางการท่องเที่ยวในเมืองไทยมีให้เราเลือกอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสไตล์การเดินทางของตนเองได้ตามใจ บ้างก็ชอบออกตระเวนชิมของอร่อย บ้างก็ชอบนอนพักหรูอยู่สบายในบรรยากาศดีๆ แต่ถ้าใครชอบเที่ยวสไตล์ลุยๆ ชนิดที่ว่าเดินขึ้นเขาค่อนวันกางเต็นท์นอนกลางธรรมชาติ ลองตามเรามาเลยเพราะวันนี้เราจะพาคุณไปพิชิต "ยอดเขาช้างเผือก" ที่ที่คนรักสบายต้องหลีกทางคนสำอางต้องหลบไปงานนี้ขอแต่คนใจๆ เท่านั้นนะครับ
จุดเริ่มต้นในการพิชิตยอดเขาช้างเผือกอยู่ที่ “บ้านอีต่อง” หมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี แต่ก่อนที่จะเข้ามาถึงบ้านอีต่อง เราจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการ “อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ” เพื่อทำการจองพื้นที่กางเต็นท์ เจ้าหน้าที่นำทาง รวมถึงว่าจ้างลูกหาบกันเสียก่อน เพราะเส้นทางการพิชิตยอดเขาช้างเผือกนั้นค่อนข้างอันตราย ทางอุทยานฯ จึงไม่อนุญาตให้เราขึ้นเขาเด็ดขาดถ้าปราศจากเจ้าหน้าที่คอยนำทางและคนคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยขณะเดินทาง ส่วนเรื่องลูกหาบนั้น จะจ้างหรือไม่จ้าง หรือจะจ้างจำนวนกี่คนก็ได้ แต่เราเล็งเห็นว่าการจ้างลูกหาบเป็นเรื่องที่จำเป็นมากเลยทีเดียว เนื่องจากลูกหาบหนึ่งคนจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักหน่วงของเราได้ถึง 30 กิโลกรัม ลองคิดดูเล่นๆ นะครับว่า ลำพังแค่เราแบกน้ำหนักของตัวเองเดินขึ้นบันไดปกติยังรู้สึกเหนื่อยจนหอบเลย แล้วจะนับประสาอะไรกับการแบกสัมภาระหนักขนาดนี้เดินขึ้นเขาลูกแล้วลูกเล่า รับรองว่าเดินไปได้ไม่เท่าไหร่คงต้องมีคนถอดใจกันก่อนแน่ๆ
หลังจากจัดแจงนัดหมายกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และว่าจ้างลูกหาบแล้ว คืนแรกเราต้องพักค้างคืนที่ “บ้านอีต่อง” กันก่อน กิจกรรมหลักๆ ของเหล่าผู้ (อยากจะ) พิชิตเขาช้างเผือกทั้งหลายเมื่อมาถึงบ้านอีต่องก็คือ การแวะไปชื่นชมวิวทิวทัศน์สวยๆ ยามเย็นที่ “เนินช้างศึก” ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านอีต่องเพียงช่วงเวลาขับรถ 5 นาที นอกจากบรรยากาศยามเย็นสวยๆ ตอนพระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้าบริเวณเนินช้างศึกแล้ว การมาเยี่ยมเยือนที่นี่ยังถือเป็นการวอร์มเบาๆ เตรียมใจให้พร้อมก่อนจะต้องเจอของจริงในเช้าวันถัดไป ชื่นชมความงามของพระอาทิตย์เรียบร้อยแล้ว คืนนี้เราขอนอนพักเอาแรงให้เต็มอิ่มกันซะก่อนดีกว่า
เมื่อเช้าวันใหม่มาเยือน เราก็เริ่มก้าวเท้าเข้าสู่เส้นทางพิชิตเขาช้างเผือก จากบ้านอีต่องเราเดินวอร์มกันเบาๆ เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรก็มาถึงป้าย “ขอต้อนรับสู่เส้นทางผู้พิชิตเขาช้างเผือก” แค่เริ่มต้นก็สามารถเรียกเหงื่อได้พอสมควรแล้ว จากจุดนี้ไปจะถือเป็นเส้นทางของจริงอย่างเป็นทางการสักที เส้นทางในช่วงแรกยังถือว่าไม่หนักมาก เพราะพอจะมีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ให้เราพึ่งพาหลบแดดได้บ้าง แต่ยิ่งเดินไปเรื่อยๆ ต้นไม้ใหญ่ก็เริ่มลดลง อากาศก็เริ่มร้อนแรงขึ้นทุกทีๆ และก็อาจจะเป็นเพราะโชคเข้าข้างเรา อากาศในวันเดินทางจึงไม่ได้ทารุณมากนัก แถมบางช่วงยังมีฝนโปรยปรายให้พอลดทอนความร้อนลง บวกกับไอหมอกจางๆ ที่มาพร้อมกับความเย็นนิดๆ เราจึงได้แรงฮึดจากทิวทัศน์รอบตัว และสนุกสนานไปกับการเก็บภาพหมอกสวยๆ ไปตลอดทาง พอเดินมาจนหอบเราก็ได้หยุดพักกันที่ “จุดพักต้นซ้าน” พอดี